*** ราชิกา *** แขเอยหากเปรียบแม้น นวลอนงค์ แสงส่องคงปลิดปลง แน่แท้ ฉวีสวยมาดหยั่งคง ขาวผ่อง เจ้าเอย สาวสดงามหวั่นแม้ เทียบพริ้งแมนสรวง ฯ ละอองนวลสวยพริ้ง งามผ่องยิ่งเทียบบุบผา ยากเหลือกล่าวรจนา กลิ่นหอมเย้าโปรยระริน ติดตรึงซึ้งหทัยยิ่ง สวยกว่าหญิงสิงสู่นรินทร์ ตลึงสิ่งสุดดวงจินต์ อยากใกล้ชิดเคล้าแนบกาย อกเอ๋ยอกยากไร้คิดใฝ่ฝัน เพียงแต่วันมุ่งพิศจิตสลาย ขาวผ่องเนื้อนวลชวนให้มลาย ฝันปองคลายยิ่งคิดจิตระบม รัญจวนปรายซึ้งสุดห้วงดวงใจ พันผูกไว้ดั่งคล้ายให้ขื่นขม เพียงแค่คิดฝากไว้ให้ระทม เหมือนเงาปมมาแยกแทรกในทรวง สวยจริงเพริศสิ่งแพร้ว พรรณราย จริงเอย หลบหลีกหนีพ้นกราย แม่เจ้า หิมะลบยากสลาย ผิวผ่อง จริงแฮ ท่วงท่าเลิศล้ำเคล้า ชดช้อยปานอัปสร คิดอยากโลมใจเจ้า เพียรฝันเฝ้าหมายคลึงครอง วิวัฒน์มิเรืองรอง แสงสอดสล้างกลางเวหน วนเวียนว่ายพิศอนงค์ แม้นเงาคงยามเวียนวน ป่วนจิตปองสับสน ลอยลับนับกลับแลเลือน คิดใฝ่ฝันเปลี่ยนสิ่งอิงเหตุไฉน อนงค์นารถไกลสิ่งซึ้งพึงเสมือน ช่างสุดแสนไกลยากคล้ายเตือน เสน่หาเลือนคว้าเอาเคล้าแต่ลม หรีดหริ่งเรไรขจายสำเนียงก้อง ยากจะร้องหาเจ้าเฝ้าเฉิดโฉม มาดแม้นส่องแสงแฝงประโลม แขพร่างพรมมิเทียบเปรียบราชิกา. *** แก้วประเสริฐ. ***
18 กรกฎาคม 2552 22:01 น. - comment id 983746
อึงคะนึงเอกเขนกเฉกใจสั่น จนร่างนั้นสะท้อนกลอนสุขี แต่พี่ชายคนนี้สุดเปรมปรีดิ์ ที่ได้มีน้องชายสดใสปอง อันตัวพี่นี่เล่ายังเฝ้าฉงน ด้วยจรดลอ่านเจ้าเฝ้าสนอง เลิศในรสบทกวีที่ครรลอง จนเกี่ยวข้องต้องใจวิไลงาม ครับผมเองแสนจะยินดีแต่ว่าการจะแนะ นำนั้นผมเองแทบจะเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ครับ เพียงแต่เล่นเพื่อสนุกสนานอีกไม่อยาก เป็นโรคอัลไซเมอร์เหมือนคนอื่นแค่ชลอไว้ แค่นี้ก็ดีแล้วครับ เพราะหนุ่มๆกินเหล้าหัวราน้ำ เมื่อหยุดไปหลายปีกลัวจะเหมือนคนอื่นเขา แต่ผมเองรู้สึกเป็นเกียรติครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 16:09 น. - comment id 991874
ดอกโคมญี่ปุ่นสวยจังนะคะคุณลุง
29 พฤษภาคม 2552 16:18 น. - comment id 991877
คุณ เพียงพลิ้ว เหรอหลานรัก เขาเรียกว่าดอกโคมญี่ปุ่นหรือ ลุงพึงรู้เองแหละเก็บภาพของเขามาขออนุญาตแล้วนะ อิอิ หากลุงจะถูกตบ ช่วยพาลุงหนีด้วยเน้อ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 16:48 น. - comment id 991903
สวัสดีค่ะ แวะเวียนมาชื่นชมผลงานอันไพเราะค่ะ ขอให้มีความสุขนะคะ
29 พฤษภาคม 2552 17:05 น. - comment id 991909
คุณ somebody ขอบคุณครับ และแสดงให้คนที่มาฝากตัวเป็น ศิษย์ตลอดขอคำแนะนำผมด้วยว่า การเรียนรู้นั้น ดีแล้วแต่ไม่ควรให้เกิน 3 อย่าง แม้ว่าผมจะเขียน ได้มากก็จริงผมก็จะเอาเพียงแค่ 3 อย่างนี้เท่านั้น คือ โคลง กาพย์ กลอน กาพย์ยานี11 นี้มีสองแบบอัน นี้ถือว่าเป็นต้นแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ให้เป็น คำฉันท์ก็ได้เพียงแต่เปลี่ยนบทต่อบทเท่านั้น ให้เชื่อมโยงกัน กาพย์นั้นแตกแยกออกได้หลาย แขนง เป็น 5 แขนง คือกาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง กาพย์สุรางคนางค์ กาพย์ห่อโคลง และกาพย์ ขับไม้ห่อโคลง ข้อดีของกาพย์ยานี11นี้ไม่คำนึง ถึง คำครุลหุ อีกด้วย อ่านได้ไพเราะกว่าคำฉันท์ ที่มีครุลหุอีกด้วยครับ แนะผมละเมอไปขอโทษ ด้วยนะครับ ผมเลยแต่งไว้ซะเลย คือ โคลง กาพย์ และกลอน ไว้เปรียบเทียบครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 17:38 น. - comment id 991917
คุณครูแก้วประเสริฐคะ อนงค์นางขอฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยคนนะคะ ขอคารวะท่านด้วยความเคารพ ได้โปรดเมตตาสั่งสอน อยากหัดแต่งโคลง กาพย์ กลอน ได้ไพเราะตามแนวทาง ต้นแบบของครูค่ะ
29 พฤษภาคม 2552 17:58 น. - comment id 991932
แวะมาอ่านโคลง หวานๆค่ะ...มดขึ้นคอมพ์ เลยค่ะ...
29 พฤษภาคม 2552 18:24 น. - comment id 991936
สวัสดีค่ะ... แวะมาชื่นชมผลงานกลอนเพราะๆค่ะ......
29 พฤษภาคม 2552 18:58 น. - comment id 991965
คุณ อนงค์นาง ก่อนอื่นคิดให้ดีเสียก่อนนะครับจะมาสมัคร กับผมนะ ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ ใจอ่อนเสมอ ไม่เคยคิดหวงอะไรรู้ก็บอกไม่รู้ก็บอกไม่รู้ครับ อีกประการผมเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาและบ้าๆ บอๆบ๊องส์ด้วยซี การเขียน โคลงนั้นต้องเป็นไปตามรูปแบบบังคับไว้ คือคำที่ วางไว้ เสียง เอกโท คือ เอก 7 โท 4 ตามรูปแบบ ที่เขากำหนดไว้ ส่วนเสียงเอกนั้นคำที่ใช้แทนได้ คือคำในแม่ก.กา คือ กก กด กบ หมายถึงใน อักษรนั้นต้องออกเสียงด้วยเสียงดังกล่าว และ คำตาย ก็ใช้แทนเสียงเอกได้ครับ ส่วนกาพย์นั้นก็คล้ายกันไม่คำนึงถึงคำครุลหุ วรรคหนึ่ง มีห้าคำ ต่อไปมี หกคำ เรียกว่าวรรค หนึ่งทุกๆครั้ง แต่การสัมพันธ์กันนั้นอยู่ที่รูปแบบ ที่กำหนดในแต่ละอย่าง ส่วนใหญ่ผมมักชอบ กาพย์ยานี11 เป็นหลักเพราะออกเสียงได้อ่อน ไหวพลิ้วชวนเร้าใจครับถึงแม้จะแต่งง่ายๆก็ตาม อีกทั้งแบบที่หนึ่งนั้นสามารถให้เป็นคำฉันท์ได้ อีกด้วย ส่วนกลอนนั้นต้องให้อ่อนไหวพลิ้วไปโดยต้อง บังคับกลอนได้มิให้กลอนนำพาเราไป ตามรูป แบบที่วางไว้ แต่ของผมนั้นวรรคที่สองนั้นคำ สุดท้ายจะใช้เสียงสูงเป็นหลัก เพราะจะเป็น เสียงจัตวาได้โดยอัตโนมัติ ส่วนเอกหรือโทนั้น อนุโลมใช้แทนได้ เว้นแต่จำเป็นเท่านั้นครับ ส่วนคำสุดท้ายของวรรค์ที่สี่นั้นห้ามคำตายโดย เด็ดขาด อ้อลืมบอกไป วรรค์ที่สาม คำสุดท้าย ห้ามมีเสียง เอก โท ตรี และจัตวาเด็ดขาดด้วย วรรคที่สี่ห้ามคำลงท้ายด้วยคำตายเพราะการจะ เขียนกลอนรับได้ยาก ยกเว้นคนที่เก่งเชี่ยวชาญ อักษรจริงๆนั่นแหละถึงจะทำได้ครับ แต่ทว่า จะทำให้กลอนนั้นออกสำเนียงห้วนๆไปครับ อีกประการหนึ่ง วรรคที่สองหากใช้เสียง เอก โท นั้นบาทต่อไปมักจะลงได้ยากมักจะต้องดำเนิน การใช้เสียงเอกโทไว้ด้วย ซี่งไม่สวยงาม การ เขียนกลอนให้ใช้ใจเราเป็นหลักการเขียน อุปมาดั่งหุ่นที่สวยงามที่เขาวางไว้ เพียงแค่สวย หากมิได้นำมาเชิดก็ไร้ความหมาย หากนำมา เชิดก็จะสวยงามจะทำให้สวยงามได้นั้นต้องใจ เราใส่เข้าไปในหุ่นตามทำนองเสียงที่ออกมา ก็จะทำให้หุ่นนั้นอ่อนไหวพลิ้วน่ารื่นรมย์ของ คนชมครับ การเขียนกลอนก็เหมือนกันต้อง ใช้ใจเราเป็นหลักในการเขียนทุกๆพยางค์ต้อง สร้างมันด้วยใจของเราแต่อย่าให้ทำนองกลอน พาเราไปเด็ดขาด ส่วนเรื่องจะดำเนินเรื่องอย่าง ไรก็แล้วแต่เรา ทุกๆกลอนควรแฝงนัยสำคัญ สอดแทรกให้เขาคิดอยู่เสมอ กลอนธรรมดาคือ การเขียนที่ปราศจากนัยของกลอน เปรียบเสมือน การมองหากมองแบบธรรมดาก็หาความพิศดาร ของธรรมชาติไม่ได้ หากพิจารณาหาเหตุผลก็จะ ซึ้งของมันเอง ฉนั้นคนที่มาสมัครเป็นศิษย์ผม นั้นสิ่งแรกคือ การทำให้ "จิตเป็นกลอน จนกลอน รวมเป็นหนึ่งเดียวกับจิต" การฝึกคือการแต่ง ในทุกสถานะการณ์แต่งในใจเราเอง เคล็ดสำคัญ คือให้จำบทลงท้ายคือกลอนส่งของคำสุดท้ายไว้ แล้วถึงขึ้นบทใหม่ครับ คุณเองปกติก็แต่งดีอยู่ แล้วลองมาทดลองทำแบบผมซิครับ การจะพลิก แพลงอย่างไรอยู่ที่เราครับ เดี๋ยวผมจะให้เวปฯ หนึ่งซึ่งผมถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดที่ผมศึกษา มาไว้อ่าน ควรอ่านคำฉันทลักษณ์เสียก่อนนะ แล้วถึงเข้าไปทดลองทำ การเขียนมีหลายแบบ สอน ผมเองเป็นคนบ้าชอบค้นคว้าเสมอมาและ ตั้งสิ่งที่บอกไว้ให้เป็นสิ่งประจำไม่เหมือนคนอื่น เขา คนเรานั้นชอบอ่านในสิ่งเร้าอารมณ์เป็น อย่างมาก ผมสอนคุณไว้ ใครๆจะนำไปปฏิบัติ ก็ได้นะครับผมไม่หวงหรอก แต่ต้องคิดเสียก่อน ว่านี่เป็นปลีกย่อยของคนบ้าๆคนหนึ่งเท่านั้น นะครับ อย่าถือสาคนบ้าๆเช่นผมเลยครับให้ ทดลองดูก่อนถึงจะเชื่อนะครับ คิดว่าคงจะไม่ ลืมผมเหมือนบางคนนะครับ รักเสมอ http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/kaap/index.html นำไปศึกษาเพิ่มเติมครับ จงเชื่อใจเรา มั่นคงต่องานเรา ไม่ว่างานเราคนจะชมมาก น้อยเท่าไหร่อย่าไปคำนึง จงภูมิใจผลงาน ของเราเสมอๆครับ อีกประการหนึ่งกลอน แปดต้องแปดคำเสมอ ยกเว้นคำกล้ำที่เรา ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเท่านั้น เช่น คำนึง เสียงจะออกเป็นสองเสียงแต่ถือเป็นคำเดียว เท่านั้น เป็นต้น รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 18:39 น. - comment id 991972
คุณ white rose แม่กุหลาบขาวผู้เฉิดโฉมบริสุทธิ์หอมหวลยิ่งนัก ภาพงามครับ ผมขอเก็บไว้นะครับ ระยะนี้ไม่มีภาพ หลงเหลือเลยเพราะไปล้างเครื่องคอมพ์มาใหม่เขา ล้างเกลี้ยงจริงๆครับ ขอบคุณรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 18:43 น. - comment id 991977
คุณ สายลมเดือนตุลา ขอบคุณมากที่แวะมาเยี่ยมครับ ผลงานผมก็ เป็นไปตามธรรมชาติ แหละครับมิได้พิศดารอะไร มากนักครับ เพราะเขียนจากคนโง่เขลาเบาปัญญา อิอิ แถมติดบ้าๆบอๆบ๊องส์เพิ่มเติมอีกด้วยครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 18:52 น. - comment id 991986
มาสองรูปแบบเลยนะคะ ทั้งโคลงทั้งกลอน ขาดกาพย์ไปอย่างนึง แวะมาอ่านค่ะ กลอนบรรยายภาพสวยมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วสบายใจจังเลย
29 พฤษภาคม 2552 18:52 น. - comment id 991987
มาชื่นชม งานงาม ครับ คุณแก้ว กาพย์ห่อโคลงไม่ถนัด ขอมาอ่านอย่างเดียว นะ ครับ
29 พฤษภาคม 2552 19:03 น. - comment id 991994
คุณ DaRK_LoRd ขอโทษนะครับผมเขียนรวดเดียวสามแบบเลย ครับคือ โคลง กาพย์ยานี11 และกลอน เพียงแต่ไม่ ได้เว้นไว้ให้ทราบครับ ครบ 3 แบบเลยครับ ลอง ย้อนกลับไปอ่อนอีกทีนะครับก็จะทราบครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 19:08 น. - comment id 991999
คุณ คนกุลา อันที่จริงผมไม่ได้เขียน กาพย์ห่อโคลงหรอกครับ แต่ผมเขียนสามแบบไว้รวมกันหรือจะเรียกว่า โคลงห่อกาพย์ยานี11 ห่อด้วยกลอนก็คงมิผิดกระมัง คือผมจะเขียนโคลงตามด้วยกาพย์ยานี11และปิด ท้ายด้วยกลอนแปดครับ จะเขียนเพิ่มอีกก็จะยาวไป ครับ ลองไปอ่านอีกครั้งนะครับ หากเป็น กาพย์ห่อโคลงก็จะมีกาพย์หนึ่งบทแล้วปิดด้วย โคลงจนกระทั่งจบครับถึงจะเรียกว่ากาพย์ห่อ โคลงครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 20:00 น. - comment id 992017
....ไปต่างจังหวัดมาหลายวัน...กลับมา..ตกใจ...งงค่ะ...เกิดอะไรขึ้น..กับตัวเอง.... ...ขอมองในภาพบวก..ก็แล้วกันนะคะ.. ขอบคุณมาก....ที่ยังนึกถึงราชิกา ขอบคุณมาก...ที่ให้เป็น...แบบฝึกหัด..ให้กับเพื่อนพี่น้อง..ในบ้านกลอน... ...แวะมาเยี่ยม..แฝดเพื่อน..นะคะ...ดูแลสุขภาพนะคะ...
29 พฤษภาคม 2552 20:06 น. - comment id 992027
สวยคะคุณลุงแก้ว
29 พฤษภาคม 2552 20:13 น. - comment id 992031
แวะมาอ่านบทกลอนค่ะ แถมขออนุญาตอ่านคำแนะนำในการเขียนด้วยคน ด้วย เจ้าของบ้านคงไม่โกรธนะค่ะ
29 พฤษภาคม 2552 20:29 น. - comment id 992043
ศิษย์ปริ้นงานกลอนชิ้นนี้เก็บไว้อ่านแล้วค่ะ อิอิ แต่ไม่ทราบว่า แต่ละบทเรียกกลอนอะไรบ้างค่ะ ต้องไปเทียบเวบที่คุณครูส่งมาก่อนค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณครู อ่านกลอนแล้ว หนูอยากเห็นพี่ราชิกาตัวจริงจังเลยค่ะ พี่เขาคงสวยมากๆ
29 พฤษภาคม 2552 20:41 น. - comment id 992058
พยาบาลผู้แสนดี มากมายมีในน้ำใจ แถมรักมักมีให้ อีกห่วงใยให้ทุกคน พี่เจ้านางน่ารักเสมอสำหรับผู้หญิงไร้เงา
29 พฤษภาคม 2552 20:50 น. - comment id 992066
เข้ามาเยี่ยมแลรับความรู้เช่นเคยครับครูแก้ว กาพย์ยานี11 อาจจะคล้ายกับกลอนในเรื่องสัมผัส แต่โคลงสี่ฯนี่ผมเพียรเท่าใด..ยังไม่พลิ้วเลยครับ...ส่วนกลอน พยายามอย่างที่ครูบอกนะครับ.. รักษณาสุขภาพด้วยครับ
29 พฤษภาคม 2552 21:14 น. - comment id 992125
คุณ ราชิกา ไม่รู้ซินะหรือว่าผมเป็นคนมั่นคงเชื่อใจตัวเอง มากก็ไม่รู้ นับตั้งแต่คบกันมาผมเกิดรำลึกถึงเสมอ ยิ่งเกิดวันเดือนเดียวกันด้วยเสมือนคนครอบครัว เดียวกัน แฝดเพื่อน คือคุณให้ผมตั้งเองและใช้มา จนถึงบัดนี้ เพียงแต่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมรักคบหากันมา นานแม้ผิดบ้างถูกบ้างก็อภัยให้กันและกันตลอดมา ไม่ถือสา จึงบังอาจ เขียนนำชื่อคุณเป็นหัวเรื่องเสีย แม้แต่การแต่งเรื่องสั้นๆผมก็เขียนเกี่ยวกับคุณไว้ ซึ่งเป็นคนๆเดียวที่ผมเขียนทั้งกลอนและเรื่อง สั้นเอาไว้ เพื่อความรำลึกต่อกันครับ จนกระทั่ง ได้ศิษย์ที่เข้ามาสมัครอีกคน ผมเองคุณย่อมทราบ ดีว่านิสัยบ้าๆบอๆบ๊องส์ๆโง่เขลาเบาปัญญาแต่ก็ ยังคบหามาจนถึงปัจจุบันนี้ คงไม่ว่ากันนะที่ผม บังอาจเอาชื่อคุณมาเป็นหัวข้อเรื่อง ในเมื่อเขียน แล้วผมคิดว่าจะเอาสิ่งที่ผมชอบและครูอาจารย์ สั่งไว้ว่ารู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม แต่ควรจะให้ เก่งก็ไม่ควรเกิน 3 อย่างฝึกให้เชียวชาญ มิฉนั้น จะเอาตัวไม่รอด ดังนั้นผมถึงกำชับศิษย์และผู้ ที่มาขอคำแนะนำผมไว้ดังนี้แล เพราะเหตุการ เขียนนั้นมีหลายรูปแบบ ผมจึงนำสิ่งที่ผมชอบ ที่สุดมาเรียงลำดับไว้ในชื่อคุณครับ ก่อนจบการ ศึกษาอาจารย์ผมสั่งไว้ว่าให้ถือเอาสุภาษิตใดบท หนึ่งเป็นข้อความคำนึงคิดก่อนทำงาน สิ่งนั้นผม ไม่เคยบอกใคร คือ ดังนี้ครับ นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย เลื้อยบ่ทำเดโช แช่มช้า พิษน้อยหยิ่งยะโส แมงป่อง ฃูแต่หางเองอ้า อวดอ้างฤาธี ความหมายถึงตัวเราแสดง และคบหาสมาคมด้วย ปลาร้าหุ้มห่อด้วย ใบคา ใบก็เหม็นคาวปลา คละคลุ้ง ดังคนหมู่ไปหา คบเพื่อน พาลนา ได้แต่รายร้ายฟุ้ง เสื่อมให้เสียพงศ์ ด้วยบทโคลงสองบทนี้แหละทำให้ผมรอด ปลอดภัยต่อหน้าที่การงานมาตลอดครับ ขอมอบ ไว้ให้แก่คุณด้วยความรักแฝดเพื่อน รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 21:18 น. - comment id 992135
คุณ พิมญดา ผมเองเขียนขึ้นยังไม่รู้ว่าจะถูกตบตอกหน้า หรือเปล่าแต่ด้วยสิ่งที่มั่นคงจึงกล้าเขียน แม้จะเป็น ผลงานอันต่ำต้อยก็ตาม ขอบคุณที่ชมครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 21:24 น. - comment id 992146
คุณ ปะการังสีฟ้า ไม่เป็นไรหรอกครับผมไม่เคยหวงเลยหาก คนมาเยี่ยมผมปรารถนากลับสร้างความดีใจเสียอีก ไม่ต้องขออนุญาตหรอกครับเชิญตามสบายครับ ผม เขียนขึ้นมาตามปัญาที่โง่เขลาต่ำต้อยเองครับ หาก ชอบก็เชิญเลยครับอย่าว่ากันก็แล้วกันตามประสา คนบ้าๆบอๆบ๊องส์แหละครับ ว่างๆแวะมาเยี่ยมก็ แสนจะยินดีครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 21:30 น. - comment id 992158
คุณ แก้วประภัสสร แม้แต่ผมเองก็ยังไม่เคยพบเจอกันเลยครับ กับคุณราชิกาทั้งๆที่คบหาสมาคมมานานหลายปีแล้ว ก็ตาม และอยากให้ย้อนไปอ่านกระทู้ที่ตอบคุณ อนงค์นางไว้ด้วยนะจ๊ะ ด้วยมีเกล็ดย่อยบอกไว้ด้วย ตลอดจนที่ตอบกลับคุณราชิกาอีกนะ ขอให้เชี่ยวชาญ มากๆ ผิดถูกอย่าว่ากันนะเพราะครูเองก็เป็นคนโง่ เขลาเบาปัญญาแถมบ้าๆบอๆบ๊องส์แถมเป็นกับแกล้ม ไว้อีกด้วยจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 21:39 น. - comment id 992177
คุณ ผู้หญิงไร้เงา นานแล้วซินะที่เราไม่ได้เจอกัน ผมยังจำคุณ ได้เสมอทั้งหมดที่วังแก้ว ครับราชิกาเป็นคนดีมาก นิสัยโอบอ้อมอารีหาคนเปรียบยากครับ ผมคิดถึง ทุกๆคนแต่มิอาจเอื้อม ด้วยผมรักสถานที่นี้ด้วยเป็น คนที่มั่นคง เล่นกลอนก็เวปฯนี้ตั้งแต่ยังเริ่มต้นใหม่ๆ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ส่งงานก็แห่งเดียวคือ "กลอนตาม ใจคุณ" ไม่เคยส่งไปยังที่อื่นเลย รักคนก็รัก อย่างมั่นคงเว้นแต่เขาจะหนีหายไปเองหรือทำ ให้ผมเสียใจมากเท่านั้นเองครับ แต่สำหรับคุณ ผมยังคิดถึงอยู่เสมอ รักเสมอครับ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 21:58 น. - comment id 992199
คุณ กิ่งโศก กาพย์ยานี11 เขียนได้สองแบบ คือแบบยาก และแบบง่ายๆ ส่วนเรื่องเหมือนกลอนเพียงผิดกัน กับรูปแบบวางไว้เท่านั้น เป็นการเขียนที่งดงาม อ่อนไหวพลิ้วเร้าอารมณ์คนอ่านไม่ต้องคำนึงสิ่งใดๆ แบบธรรมชาติเหมาะกับการพรรณาความยิ่ง ที่ผม นำมาเขียนลงไว้เป็นแบบยาก การเขียนจึงต้องเร้า อารมณ์ให้อ่อนไหวเสมอๆเพราะมีสัมผัสน้อยนักการ ใช้อักษรยากกว่าแบบที่สองที่มีสัมผัสรับ ฉนั้น แบบนี้จึงเหมาะกับการเปลี่ยนเป็นคำฉันท์ได้ดี ส่วนกลอนนั้นแยกออกเป็นสามระดับ คือ ต่ำ กลาง และสูง ที่เหมาะที่สุดคือระดับกลางเพราะอ่านได้ หลายชนชั้น ระดับต่ำเป็นกลอนแบบธรรมดาคือ เขียนไปตามความนึกเห็น ระดับกลางนั้นประกอบ ด้วยแบบธรรมดาและระดับสูงต้องประกอบด้วย อักษรนัยที่ซ่อนเร้นไว้ คนอ่านจะเข้าใจได้ง่าย ส่วนระดับสูงนั้นเป็นการเล่นอักษรที่เรียกว่าคน อ่านต้องมานั่งแปล เรียกว่าแปลไทยเป็นไทย นั่นแหละ นิยมใช้กับคนชั้นสูง ที่ผมบอกว่าระดับ กลางนั้นดีเพราะอ่านได้ทั้งคนชั้นสูงและต่ำทั้ง สูงและกลางนั้นจะแฝงนัยไว้เสมอ ส่วนระดำต่ำ นั้นมิได้แฝงสิ่งนัยให้คิดครับ ส่วนกาพย์ยานีก็ คล้ายๆกันแหละครับ ให้ไปอ่านกระทู้ที่ตอบให้ คุณอนงค์นางและคุณราชิกาด้วยนะจะมีประโยชน์ แก่ศิษย์เราไม่มากก็น้อยครับ อ้อเกือบลืมไป โคลงนั้นสำนวนจะเป็นการเล่นคำหมายถึง การย่อความให้มีสัดส่วนที่เรียกร้องคนอ่าน สลับซับซ้อนไม่เหมือนกลอนหรอกครับฉนั้น ฝึกตามแบบไปก่อน ส่วนคำตายนั้นหากไม่ รู้ก็อย่าไปเล่นเสียเลย ดังโคลงบทสองที่ผม เขียนให้คุณราชิกา มีคำตายหนึ่งคำ ซึ่งผม เองก็ยังไม่ค่อยจะกล้าใช้เลยกลัวพลาด โคลง นั้นเห็นมีคุณหมอวฤกที่เชี่ยวชาญเล่นคำตาย อยู่เสมอๆครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 พฤษภาคม 2552 22:03 น. - comment id 992201
*** ราชิกา *** คนเดียวกันกับที่แต่งกลอนหรือเปล่าน๊า อ๋อเจ้าแฝดของลุงใช่ไหม ก็น่ารักดีครับ
29 พฤษภาคม 2552 22:08 น. - comment id 992206
แวะมาอ่านโคลงครับ
29 พฤษภาคม 2552 23:44 น. - comment id 992275
อนงค์นางขอนำพานไหว้ครู มากราบครูแก้วประเสริฐ ที่กรุณารับเป็นศิษย์ ด้วยความรักและ้ห็นคุณค่าของภาษาไทย ขอฝึกฝนหัดแต่งตามที่ครูสอน จดใ่ส่สมุดไว้หมดแล้วค่ะ จะพยายามส่งการบ้านนะคะ ด้วยความเคารพ
30 พฤษภาคม 2552 03:17 น. - comment id 992290
สวัสดีครับคุณลุง แวะมาทักทายและอ่านบทกลอนที่ไพเราะครับ ^^
30 พฤษภาคม 2552 05:16 น. - comment id 992308
งดงามมากค่ะคุณลุง
30 พฤษภาคม 2552 07:46 น. - comment id 992332
งดงามครับ
30 พฤษภาคม 2552 10:05 น. - comment id 992360
สวัสดีค่ะ ลุง แก้วประเสริฐ ใจปลายทางเห็นชื่อ ราชิกาเอ๊เกี่ยวอะไรกับพี่แจมน๊า เลยรีบเข้ามาอ่าน อ่านแล้วก็ไม่ผิดหวัง ใจปลายทางขอฝากตัวกับครูช่วยติติงงานเขียนด้วยค่ะ เขียนมานานแต่ไม่ดีเลย ถ้าลุงจะช่วยสอน ก็ขอขอบคุณค่ะ
30 พฤษภาคม 2552 10:11 น. - comment id 992369
คุณ ก่องกิก ใช่แล้วครับคนเดียวที่แต่งกลอนแหละครับ เราเป็นแฝดเพื่อนกันครับ ผมก็ว่าอย่างงั้นแหละ แต่ไม่เคยพบเจอกันเลยครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 10:14 น. - comment id 992370
คุณ อรุโณทัย อันที่จริงมี 3 แบบนะครับ คือโคลง กาพย์ และ กลอน ครับ ขอบคุณที่แวะมาครับ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 10:19 น. - comment id 992374
คุณ อนงค์นาง ขอความสุขความเจริงรุ่งเรือง คิดอะไรสมความ มุ่งมาดปรารถนาด้วยเถิด พยายามฝึกฝนไว้อย่าลืม คำสั่งที่ให้ไว้ด้วยนะ อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง เทอญ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 10:23 น. - comment id 992378
คุณ กระบี่รับใช้ สวัสดีครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม กลอนนี้ ผมเขียนขึ้นเพื่อรำลึกถึงแฝดเพื่อนที่รักของผมครับ ตลอดจนแฝงสิ่งเกล็ดย่อยต่างๆไว้ให้ศิษย์ผมได้ ใช้ด้วยครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 10:27 น. - comment id 992381
คุณ นรศิริ ขอบคุณครับที่เอ่ยชมกลอน ซึ่งผมเขียนไว้เพื่อ เป็นที่รำลึกนึกถึงคนที่ผมรักคือแฝดเพื่อนซึ่งคบหา กันมานานแล้วครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 10:30 น. - comment id 992383
คุณ ระเด่นมนตรี ขอบคุณครับหากว่างๆแวะมาเยี่ยมคนแก่บ้าง นะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 10:40 น. - comment id 992385
คุณ ใจปลายทาง ผมเองไม่ขัดข้องหรอกครับหากไม่ถือสาและ คิดว่า คนที่โง่เขลาเบาปัญญาแถมออกจะบ้าๆบอๆ บ๊องส์อีกด้วยจะให้ช่วย หากคิดดีแล้วก็ไม่ขัดข้อง อะไรหรอกครับผมเองเป็นคนไม่หวงวิชาที่ค้นคว้า แบบบ้าๆหรอกครับ กลัวเพียงอย่างเดียวจะติดเอา ความบ้าๆของผมไปด้วยนา หากจะคิดฝึกฝนก็ย้อน ขึ้นไปอ่านกระทู้ที่ผมตอบศิษย์ผมไว้ตลอดเวปฯที่ ผมคิดว่าดีแล้ว ส่วนปลึกย่อยนั้นยังมีอีกมากนักแต่ ส่วนใหญ่ก็บอกไว้แล้ว จะเขียนอีกก็จะเป็นการ ซ้ำซ้อนกัน เสียเวลาหน่อยย้อนไปอ่าน คนที่ ยอมรับความโง่เขลาเบาปัญญาบ้าๆบอๆเช่นผม ก็แล้วกันครับ หากจะให้ช่วยติติงผมเองก็ไม่เก่ง ซะด้วยในเรื่องแบบนี้ จะมีบ้างก็โดยศิษย์ผม เท่านั้นเองครับ กลัวครับกลัวเขาจะว่าเอาเพราะ ผมถือมติว่า อย่าทำอะไรให้เกินหน้าเขาจะลำบาก แก่ผมเองครับ ผมถึงไม่ค่อยได้สนใจใครๆหรอก ทำตามความสนุกสนานกับการเล่นกลอน ซึ่ง ความจริงผมเป็นคนขี้เกียจผสมเข้าอีกด้วยครับ ที่กล่าวมานี้ต้องคิดให้ดีๆก่อนนะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 10:50 น. - comment id 992389
คิดดีแล้วค่ะ ว่าคิดไม่ผิด คำติชมถือเป็นคำสอนอย่างหนึ่ง ขอบคุณค่ะ
30 พฤษภาคม 2552 11:39 น. - comment id 992396
...มารับมอบ..แนวคิดที่ดีในการทำงานค่ะ..ปกติราชิกา..เป็นคนเงียบๆ ชอบการฟังมากกว่า...และคิดเสมอว่า....ทุกคน..คือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน..จะยากดีมีจน...ทุกคนมีคุณค่าของความเป็นคนเท่าเทียมกัน....สิ่งไหนที่ช่วยเหลือกันได้...เราก็จะช่วยทันที...หากเกิดผิดพลาดอะไร?...ขึ้นถ้ามีเหตุผล..เราก็อภัยให้กันได้...... .....ราชิกา...คิดอยู่เสมอว่า....ชีวิตคนเรา....คงไม่ยืนยาวถึง 100 ปี...ช่วงที่มีชีวิตอยู่...หากเราได้ทำประโยชน์..เพื่อประชาชน...ส่วนรวม..สังคม....องค์กร..และประเทศชาติ...ก็คงจะดีไม่น้อย....การทำงานที่ทำด้วยใจรัก...แม้นไม่มีใครเห็นก็ไม่สำคัญ....สิ่งที่เกิดกับตัวเรา..นั่นคือ..ความสุขใจ...ของการเป็นผู้ให้..อย่างแท้จริงค่ะ.... ..ราชิกา...ยึดถือพระราชดำรัสของในหลวง...เป็น..หลักใจ..ในการทำงานมาโดยตลอด...ขอมอบไว้..ให้แฝดเพื่อน...เช่นเดียวกันค่ะ ......" การทำงานด้วยใจรัก แม้นหากไม่มีใครรู้..ใครเห็น..ก็ไม่สำคัญ..คนส่วนใหญ่..ชอบปิดทองข้างหน้าพระกันทั้งนั้น...เพราะมีผู้พบเห็นมากมาย....หากไม่มีใครปิดทอง..ข้างหลังพระ..แล้วไซร้...องค์พระ..จะงามสมบูรณ์แบบได้อย่างไร.." ..ขอให้..แฝดเพื่อน..มีสุขภาพที่แข็งแรง..คิดสิ่งใดขอให้สมความตั้งใจและมีความสุขในครอบครัว ตลอดไปนะคะ.....
30 พฤษภาคม 2552 12:08 น. - comment id 992415
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อนที่รักยิ่ง คุณกับผมมีนิสัยที่คล้ายคลึง กันคือชอบอยู่เงียบๆ จะเอะอะบ้างก็เป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่จะเก็บตัวเงียบเสมอๆ พระราชดำริฯของ พระองค์ผมอ่านและพิจารณามาหลายครั้งแล้วครับ ล้วนแล้วแต่ก่อเกิดประโยชน์ทั้งสิ้น ผมเองเมื่อศึกษา ค้นคว้าไม่เคยเลยจะคิดเก็บไว้คนเดียวหาคนสนใจ ผมจะมอบให้โดยไม่มีข้อแม้เลย หรือว่าเราเกิด ในราศรีเดียวกันจึงมีส่วนที่คล้ายคลึงกันก็ไม่รู้ ปกติผมจะไม่ชอบหมอดูเลยครับ แต่ก็ไม่ลบหลู่ เพราะเรื่องนี้มีมานานมาแล้ว สมัยก่อนนั้นแน่ นอนการทำนายทายทักไม่ค่อยผิดตามพงศาว ดารนะครับ แต่สมัยนี้ผมไม่มีความเชื่อเอาเสีย เลย ผมเชื่อใจผมมากที่สุด การทำงานผมมัก จะเชื่อหมั่นตนเอง ผ่านงานมาตั้งแต่เริ่มเรียน จบมาทำงานที่เดียวตำแหน่งหน้าที่การงานผม ตั้งแต่ชั้นจัตวา โท ตรี เอก และพิเศษ ไม่เคย ย้ายไปที่ใดเลย จะย้ายก็เพียงตำแหน่งหน้าที่ การงานเท่านั้น แต่ตัวนั้นทำงานที่เดิมจนกระทั่ง ออกจากงานมาครับ เพราะผมอยู่ในกรอบ ของเหตุผลเสมอ การขัดแย้งก็ยกเหตุผลมาอ้างกันและกัน อาจจะเป็นขอนี้ก็ได้ที่ผู้ใหญ่จึงไว้วางใจครับ ผิดผมก็ยอมรับผิดและรีบแก้ไขตัวทันที หาก ถูกต้องจะอธิบายให้เขาฟังเสมอๆ บางครั้งมี เขาให้ผมไปแก้ไขเอกสาร ผมไตร่ตรองแล้ว ก็ส่งแบบเดิมอีกจนเขาสงสัย เรียกไปถาม ผมก็ยืนยันว่าถูกต้องขอท่านลองพิจารณาอีก ครั้งซิครับ แล้วเรื่องก็จบด้วยดีครับ เขาคง คิดว่าผมนี่ดื้อๆจริงๆครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 12:25 น. - comment id 992421
คุณ ใจปลายทาง หากเชื่อมั่นต่อผมก็เป็นอันตกลงครับ ผมจะ เข้าไปดูผลงานคุณและพร้อมเสมอให้คำแนะนำครับ เท่าที่ผมรู้นะครับ ใช่แล้วความผิดพลาดคือบทเรียน ชีวิตอันสำคัญยิ่งที่คนเราไม่ควรมองข้ามผ่านไปเป็น เด็ดขาด ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเรามาก ยิ่งกว่าคำสอนใดๆแล้วเอามาตรวจสอบไตร่ตรอง อยู่เสมอก็จะได้รับผลที่งดงามและจดจำไว้ คน สมัยนี้มักมองข้ามสิ่งที่ไม่ควรยิ่งนัก จึงเกิดเป็น ปัญหาต่อการดำรงชีพตนเอง ทุกๆคนควรมีเหตุ ผลของตัวเราเองเสมอ ยามผิดก็ควรรับผิดเสีย แล้วรีบตรวจสอบ หากถูกก็ควรอธิบายให้เขา เข้าใจในสิ่งกระทำของเราจึงถือได้ว่าเป็นคนที่ ใช้ปัญญาแก้ไขครับ ให้ไปอ่านกระทู้เบื้องบน เพื่อใช้ในการศึกษา การศึกษานั้นย่อมไม่มีการ สิ้นสุดหรอกครับ เพียงแต่ว่าเราต้องคัดเลือกเอา มาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่เราแก้ไขปัญหาเราจึง นับได้ว่าเป็นสิ่งประเสริฐ จงคิดเสียว่า คนรักเรา เท่าผืนหนังคนชังเราเท่าผืนเสื่อ ก็จะทำให้เรา ลดความทิฐิของเราได้ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 12:48 น. - comment id 992432
ขอบคุณค่ะ อ้อมขอเก็บกลอนนี้ไว้เพื่อศึกษา จะเข้ามาอ่านบ่อยๆเพื่องานเขียนดีขึ้น ขอบคุณค่ะคุณครู
30 พฤษภาคม 2552 14:15 น. - comment id 992464
คุณ ใจปลายทาง แต่งกลอนบทนี้ได้ลูกศิษย์เพิ่มอีกสองคน อิอิ แต่ว่าอย่าเชื่อมากนักทดลองดูก่อน ให้ไปเอาเวปฯ ที่ลงไว้ข้างบนไปศึกษาเพิ่มเติม ส่วนปลึกย่อยหาก สงสัยอันใดก็สอบถามได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจผม เองเปิดเผยเสมอและจริงใจมั่นคง กลอนนี้ผมสร้าง ไว้ตามที่ผมชอบมากทั้งๆที่สามารถเขียนอย่างอื่นได้ แต่ผมเองทำตามครูสั่งเอาไว้จึงทำเพียง แค่สามเท่า นั้น ฉนั้นจงเชื่อมั่นตัวเราเองว่าต้องทำได้และต้อง ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำนะ เรื่องคนจะเข้ามามาก บ้างน้อยบ้างมิได้ลงในหน้าแรกก็อย่าไปสนใจ อีกประการหนึ่งอย่าทรนงตนเองเป็นอันขาดจง ประพฤติตนให้ว่าเราต่ำต้อยโง่เขลาเบาปัญญา เสมออย่าไปดูถูกเขาเพราะทุกๆคนเป็นคนเช่น เดียวกับเราย่อมไม่เก่งมาก่อน หากเราเก่งก็จง ให้เก่งกว่าครูเพื่อโลกจะได้เจริญในด้านวรรณ ศิลป์รักษาไว้ให้ลูกหลานเราต่อไป การฝึกฝน คือการตรวจสอบภูมิปัญญาเราเอง ได้แค่ไหน เอาแค่นั้น ให้ได้ดีสักอย่างก็ยังดีไม่จำเป็นต้อง ให้มากนัก การรู้มากไปงานที่เรารักก็จะไม่ก้าว หน้ารวดเร็วด้วยความพะวงหน้าพะวงหลังเสมอ แรกๆก็เอาสิ่งที่เรารักให้ชำนาญเสียก่อนแล้ว จึงจะไปเรียนบทต่อไปหากใจเราพบว่าได้แล้ว ดีแล้วพอแล้วก็ดำเนินบทต่อไปแต่อย่าให้เกิน สามอย่าง ที่ผมเขียนกลอนที่ผมรักไว้ให้ศึกษา นั้นล้วนแล้วแต่สามารถเขียนเมื่อไหร่ก็ได้เพราะ การทำจิตให้เป็นกลอนกลอนเป็นจิตรวมเข้ากัน ได้ ก็สามารถจะแต่งได้ทุกขณะจิต เพราะพอเริ่ม กลอนก็จะพรั่งพรูออกมาเองแหละ การทำนั้น เสมือนคิดเลขในใจเราเอง เพียงแต่เปลี่ยนเป็น กลอนเท่านั้นเองจ้า หากว่างๆก็นั่งนึกแต่งกลอน ไปด้วย กลอนนี้เมื่อเล่นเป็นจะทำให้จิตใจเรา เป็นสมาธิ ปิติย่อมเกิดมาด้วยทำให้เพลิดเพลิน จงเชื่อมั่นใจเราเองก็จะสมฤทธิ์ผลเองแหละ ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จด้วยนะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 15:16 น. - comment id 992499
อ้อมเอ๋ออีกตามเคยพี่ราชิกา คือพี่ตุ้มไม่ใช่พี่แจมซักกะหน่อย พี่ตุ้มจ๋าอ้อมขอโทษนะค่ะ
30 พฤษภาคม 2552 20:56 น. - comment id 992664
คุณ ใจปลายทาง ฮ่าๆๆเรื่องแบบนี้ แฝดเพื่อนผมไม่คิดมาก หรอกนะ คนเราย่อมจำกันผิดได้เสมอๆแหละ ดี แล้วผิดคือรู้ว่าผิดขอโทษกันนั่นแหละดี เอาแฝด เพื่อนน้องเขาขอโทษแล้วนะ คงไม่เป็นปัญหาหรอก อย่าคิดมากยิ่งเขาเป็นคนใจดีมากเสียด้วยซี รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 พฤษภาคม 2552 22:43 น. - comment id 992704
ป๋าคงหลงมนต์เจ้านางเข้าให้แล้วละ อ่านแล้วมานั่งนึกตำหนิตัวเองว่าทำไมไม่วิ่งไปหาราชิกาจะได้ชมใกล้ ๆว่าจะงดงามอย่างที่ป๋าบรรยายไว้หรือไม่ แต่ดูตามรูปแล้วชัวร์ปาด คงตกหลุมรักถอนตัวไม่ขึ้นแน่ ๆ อิอิ
30 พฤษภาคม 2552 23:40 น. - comment id 992717
คุณ ฤกษ์ โธ่โถโธ่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทำไมพ่อรูปหล่อ คิดไปได้ถึงขนาดนี้นะ ผมเองแก่แล้ว เราเกิดราศรี เดียวกันรักกันแบบฉันท์แฝดเพื่อนเท่านั้นเองคบ มาหลายๆปีแล้ว ภาพตอนนี้ก็ไม่มีเพราะล้างเครื่อง ไปเขาล้างเกลี้ยงเลย เคยเห็นภาพตอนรำไทยชุด สาวชาวเหนือเท่านั้นแต่นานมาแล้วล่ะ ยังไม่เคย พบเห็นตัวจริงสักทีนอกจากทางนี้เท่านั้น บ้างก็กระ เซ้าเย้าแหย่เล่นตามประสาแฝดเพื่อนเท่านั้น เองมิได้คิดอะไรมากนัก ยิ่งยากจนแทบจะไม่มี จะกินมาเรียกว่าป๋าอีกจักกระจี้หัวใจจัง อิอิ ถ้า เป็นคุณก็คงจะใช่แน่นอน ส่วนผมสิ้นวาสนา เสียแล้วล่ะ ผมก็เขียนไปนึกภาพไปเท่าที่จำได้ แหละครับ อีกประการหนึ่งสิ่งที่ผมชอบก็มาเขียน รวมกันไว้ซะเลย ส่วนการบรรยายนั้นอาศัย ภาพเท่าที่จำได้เป็นหลักเท่านั้นเอง รักเสมอ เออ หายหน้าไปนานเหมือนกันนะครับ แก้วประเสริฐ.
31 พฤษภาคม 2552 01:46 น. - comment id 992719
นับวันเพื่อนแก้วยิ่งเจริญรุดหน้าทั้งด้านจิตใจและฝีมือการเขียนนะครับ ผมเองเหมือนดาบที่ไม่ได้ออกศึก นับวันยิ่งโง่เขลาเบาปัญญา สนิมจับคมจนฟันหยวกไม่เข้าแล้วกระมังครับ หวังว่าคงสบายดีนะครับ เข้ามาอ่านฟื้นคืนเคร็ดวิชาถือว่าเป็นลูกศิษย์ลูกหาอีกคนนะครับ
31 พฤษภาคม 2552 11:41 น. - comment id 992878
คุณ ลำน้ำน่าน เพื่อนเอยใยกล่าวเช่นนั้นเล่า ผมยกย่องคุณ เป็นยอดฝีมือด้านงานนี้มานานและไม่เคยลืมเพียง แต่แนวการฝึกปรือแตกต่างกันเท่านั้นเองแต่คง สภาพเดียวกันไม่ต้องมาเย้าหรอกฝีมือผมยังต่ำต้อย อีกมากนักเพราะความโง่เขลาเบาปัญญา การฝึกปรือ ก็เก็บเล็กผสมน้อยศึกษาและค้นคว้าหาสิ่งที่คิดว่า ควรจะทำอย่างไรถึงจะทำให้กลอนนั้นสวยงาม เรียบง่ายต่อการฝึกปรือจนเกิดเป็นเคล็ดลับที่ ผมคิดขึ้นเองเท่านั้นเองแหละ เราคงรักกันเหมือน เดิมอยู่เช่นเคยให้เกียรติคุณเสมอมา หากเทียบ แล้วฝีมือผมยังด้อยกว่าคุณอีกนะ แต่เพียงคน ละแนวทางการคิดอ่านเท่านั้นเอง เป็นอย่างไร กลับจากเวียตนามหรือยังล่ะ คนหนุ่มรูปหล่อนั้น คงสบายดีนะเพื่อน ผมเองแย่ในเรื่องสุขภาพด้วย อายุมากแล้วปลดเกษียณอายุมาก็หลายปี การ ที่มาเขียนนี้เพียงเพื่อฝึกปัญญาไว้ไม่ให้หยุดนิ่ง เพื่อชะลอความเป็นโรคสมองเสื่อมเท่านั้นเอง หวังว่าเพื่อนเราคงสบายดีนะ บอกตรงๆดีใจมาก ที่แวะมานะ รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
9 มิถุนายน 2552 08:29 น. - comment id 997011
มาชม งามความฝันถึงแฝดเพื่อน อ้อแฝดเพื่อนบนหนทางการสร้างฝัน ขอโทษวันก่อนมาเพียงอาศํย อ่านบทกลอนสัญจรผ่านม่านวิไล วะแววไวอักษรศิลป์เสียบปิ่นงาม กลับมาอ่านงานอีกครั้งยังว่าหวาน บรรณาการ"ราชิกา"ว่าไหวหวาม คนกุลามาอีกตอนอ่านย้อนความ จึงทราบตามคำเม้นท์เห็นมากมาย สุดศรัทธาผลงานท่านเสนอ และที่เธอตอบคำร่ำหลากหลาย อยากจะมีคำบอกออกมากมาย เป็นครูให้แก่ทุกผู้ฝึกรู้เรียน คนกุลามาขอถามความรู้บ้าง เพราะอยากสร้างผลงานการขีดเขียน พวกครูพักลักจำคอยร่ำเรียน ค่อยค่อยเขียนตามประสาปัญญาเบา ขอฝากตัวเป็นน้องของพี่ท่าน หากรำคาญบางครั้งเพราะบางเขลา ขอพี่ท่านวานบอกคอยตอกเอา เพื่อบางเบายโสโอหังลง หากพี่ท่านคิดอ่านวานช่วยบอก ไวน์สักจอกมาคารวะดังประสงค์ กรีดกวีรี่ไหลเลือดใจลง หวังพี่คงรับไมตรีที่พร่ำมา คนกุลา รังนกไฟ กลางวสันต์