. หยิบเพลงปี่ใบไม้หมายมาฝาก เป็นเพลงจากคนรักป่ามาฝากขวัญ มธุรสร่ายผ่านม่านแสงจันทร์ ในคืนวันที่ต้องพรากจำจากไกล เสียงใบไม้ใบไหนที่ได้เป่า ดังเสียงเล่าล่วงแคว้นสุดแดนไหน เป็นเพลงปี่ใบไม้ร่ายแทนใจ คลอหรีดหริ่งเรไรในป่าดง กลางคืนค่ำจันทร์ร่ำฟ้ามาพร่างผ่อง ใจลอยล่องอิ่มดวงสรวงสร้อยสรง ให้เทพทิพย์เพียงผ่านพิมานพง ที่เคยหลงพงไพรจับใจนวล หมู่แมกไม้สร้างใบไว้รับแสง คนกลับแปลงมาสร้างโศกวิโยคหวล สรรค์สร้างปี่ใบไม้ได้คร่ำครวญ ปิ๊ดปี่หวลถึงเจ้าคราวอยู่ไกล เป็นเพลงปี่ใบไม้ชายชาวบ้าน วิเวกหวานวี่วับจับเสียงใส สะท้อนเสียงสำเนียงร่าจากป่าไพร เป่าผ่านใบบางไม้ร่ายลำนำ อาจไม่รื่นไพเราะเสนาะเสียง หากฟังเพียงร่ายหัวใจรินไหลร่ำ เป่าออกปากจากใจใส่น้ำคำ ลึกหวานล้ำอารมณ์ศิลป์ดินแดนดง เป็นเพลงปี่ใบไม้ชายคนยาก หวังจะฝากหัวใจยังไหลหลง พร้อมกับความภักดีที่ซื่อตรง ขอนางจงอย่าหน่ายปี่ไม้ใบ . ..........
10 พฤษภาคม 2552 17:59 น. - comment id 982316
....อาจไม่รื่นไพเราะเสนาะเสียง หากฟังเพียงร่ายหัวใจรินไหลร่ำ เป่าออกปากจากใจใส่น้ำคำ ลึกหวานล้ำอารมณ์ศิลป์ดินแดนดง เป็นเพลงปี่ใบไม้ชายคนยาก หวังจะฝากหัวใจยังไหลหลง พร้อมกับความภักดีที่ซื่อตรง ขอนางจงอย่าหน่ายปี่ไม้ใบ -------------------------------- ๐ น้องได้ยินสิ้นเสียงนี้ปี่ใบไม้ ของพี่ชายร่ายรินกินใจหมาย พ้องสำเนียงเสียงปี่เป่าเร่งเร้าใจ เคลิ้มคำชายสายสำเนียงแห่งเสียงกลอน ๐ เสนาะโสตจากโอษฐ์พี่รี่ไหลลื่น จิ้งหรีดฝืนกลืนเสียงไว้ไม่กล้าอ้อน เจ้าเรไรอายเสียงปี่ที่เว้าวอน สดับกลอนผ่อนชีวีเสียงปี่พรม ๐ ต้อยตะริดติ๊ดตี่เสียงปี่แว่ว ดังแผ่วแผ่วแผ้วผ่านซ่านประสม กับสำเนียงเสียงพี่เคยเอ่ยเชยชม ว่าน้องสมสวยเลิศเพริดต้องตา ๐ มาวันนี้ยินเสียงปี่พี่อีกแล้ว น้องมิแคล้วให้หลงเพ้อละเมอหา เสียงปี่ดังก้องจากใจในพนา หลับนิทรา..คราเพลงปี่กล่อม...ถนอมใจ ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ จาก ภาสุรีย์ คนขี้กวนใจค่า พี่ชาย กลอนคุณพี่ไพเราะจังเลย ทำให้น้องคันไม้คันมืออดไม่ไหวต้องร่วมแจมค่า ขอบคุณค่ะ อย่าเบื่อน้องนะคะ
10 พฤษภาคม 2552 18:31 น. - comment id 982324
ถ้ากลอนเป็นของเรา ก็คงดี....แต่ไม่ใช่ แต่ไม่เป็นไรหรอก มันเพราะจน ทำใจไม่ไหว5555 อ่านไปซึ้งไปคนอาไร้ โรแมนติคเน๊าะแอบอิจจ แอบอิจฉาคนข้างๆซะแล้วอิอิแวะมาเยี่ยมค่ะ
10 พฤษภาคม 2552 19:23 น. - comment id 982337
ในท่ามหมู่ผู้รักสวนอักษร สร้างกาพย์กลอนโคลงฉันท์นั่นมุ่งหมาย มีเพื่อนผองร่วมทางสร้างคำคาย เหมือนดังได้ใกล้ชิดสนิทนาน มีหรือที่จะรำคาญการคบหา ร้อยอักษราภาษากลอนเว้าวอนหวาน เชิญมานี่ที่ทิพย์หยิบวิมาน ร้อนกรองกานต์สร้างโลกสวยด้วยกวี . ขอบคุณที่มาเยี่ยมและแจมกลอน ครับ คุณน้องภาสุรีย์
10 พฤษภาคม 2552 19:27 น. - comment id 982338
กลอนเมื่อเขียนไปก็หวังให้เป็นของทุกคน นะครับ คุณทิพย์โนราห์ ดีใจที่ชอบ ครับ และขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่มาเยี่ยมเยียน กัน ครับ
10 พฤษภาคม 2552 19:31 น. - comment id 982340
** ฟังเพลงปี่ ใบไม้ ชายคนยาก ด้วยจะฝาก หัวใจ ให้ห่วงหา ร้อยลำนำ แผ่วพริ้ว ลอยลิ่วมา ดุจสัญญา เพลงไพร หัวใจคอย.........ฯ เพลงปี่ใบไม้..เคยฟังสมัยเมื่อยังเป็นเด้กค่ะ...ไพเราะมาก..คุณตาข้างๆบ้านเป่าให้ฟัง..ชอบฟังมาก..ไปนั่งคอยให้ท่านเป่าให้ฟัง..โดยมีรางวัล..ให้ท่านหอมแก้มเพลงละ 1 ครั้งค่ะ..โดนไปหลายฟอดเหมือนกัน...จำได้ฝังใจก็เพราะปี่ใบไม้นี่แหล่ะค่ะ....
10 พฤษภาคม 2552 19:56 น. - comment id 982357
เพลง ดนตรีเป็นภาษาสากล ของชนทุกชั้น ทุกเพศวัย สื่อกันได้ด้วยท่วงทำนองไพเราะ
10 พฤษภาคม 2552 20:11 น. - comment id 982369
คุณราชิกา ครับ ผมเพิ่งไปฟังมาจาก การเป่าของผู้นำชาวบ้านที่ อ .กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธิ์ เป็นผู้นำในการอนุรักษ์ป่าชุมชน ด้วย เป็นเพลงปี่ใบไม้ที่ผูกเนื่องอยู่กับการอนุรักษ์ป่าไม้ ยิ่งทำให้เพลงใบไม้นี้แสนงามงดมากยิ่งขึ้นในใจผมจนต้องเขียนกลอนให้เขา ครับ ชายคนนี้ ก็คงเหมือนคุณตาข้างบ้าน คุณราชิกา สำหรับเด็กๆจำนวนมากที่ไปรับฟังการบรรยายของเขาเรื่องการอนุรักษ์ ป่าชุมชนพร้อมเป่าปี่ใบไม้ให้เด็กๆเหล่านั้นฟัง ทำให้งานอนุรักษ์ สวยงามด้วยงานศิลป์แซม ครับ
10 พฤษภาคม 2552 20:13 น. - comment id 982374
ใช่ครับ คุณกันนา สื่อกันด้วยภาษาสากล ผ่านสะพานจินตนาการ สู่สุนทรีย์แห่งอารมณ์และหัวใจ ขอบคุณที่มาเยี่ยม ครับ
10 พฤษภาคม 2552 21:14 น. - comment id 982438
แวะมาฟังเพลงปี่ใบไม้ที่ไพเราะครับ ชื่อคนกุลาคล้ายๆกุ้งกุลาเลยนะครับ 555
10 พฤษภาคม 2552 21:23 น. - comment id 982446
..มาสดับ รับลำนำ ปี่ใบไม้ .ครวญพริ้วไป..สายลม พลิ้วแผ่วผ่าน คีตบรรเลง เพลงเศร้า เร้าดวงมาลย์ เพียงขับขาน ผ่านเสียง สำเนีบงไพร.. ..แวะมาเยี่ยมครับ
10 พฤษภาคม 2552 21:38 น. - comment id 982468
สวัสดีงามๆยามค่ำคืนเจ้า บ่รู้จะอู้จะไดหื้อสมกับความไพเราะ หวานซึงในบทกลอนบทนี้เจ้าแต่งกลอนได้งามขนาดนักเจ้า ขะเจ้าขอแจมโตยคนเน้อเจ้า
10 พฤษภาคม 2552 22:31 น. - comment id 982501
คุณเป่าใบไม้ให้เกิดเสียงเป็นไหมคะ
11 พฤษภาคม 2552 00:05 น. - comment id 982521
เคยเห็นคนเป่าใบไม้เป็นเพลง หลายแบบเพราะมากจริงๆค่ะ ฝันดีค่ะคุณ คนกุลา
11 พฤษภาคม 2552 06:22 น. - comment id 982536
ก็คงจะเพราะมากนะคะ เครื่องดนตรีจากไพรพนา อยากได้ยินจังเลยค่ะ
11 พฤษภาคม 2552 07:47 น. - comment id 982564
เคยฟังแต่ปี่ตอซังข้าวค่ะ
11 พฤษภาคม 2552 09:17 น. - comment id 982591
ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับคุณกุ้งก้ามกราม คล้ายกันแต่ชื่อ แต่ที่มาที่ไปแตกต่างกัน ครับ กุ้งกุลาเป็นชื่อกุ้งชนิดหนึ่งต้องเลี้ยงในน้ำกร่อย จึงมีการเลี้ยงกันมากแถบจังหวัดชายทะเล เช่นสงขลา นครศรีธรรมราช สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เป็นต้น ครับ ส่วนคนกุลา หมายถึงชาวกุลา เดิมคำนี้ชาวพม่าใช้เรียกพ่อค้าเร่ ชาวอินเดีย ต่อมาชาวล้านนาส่วนหนึ่งที่เป็นพ่อค้า ไปรับของแถวเมืองท่าเมาะตะมะ ของพม่าและนำมาขายในหัวเมืองต่างๆของไทย ก็ถูกเรียกว่าชาวกุลาด้วย จึชาวกุลางเป็นนักเดินทางที่อทรหดดทน มีพ่อค้าชาวกุลากลุ่มหนึ่งเดินทางได้ไปขายของในแถบภาคอีสานต้องเดินข้ามทุ่งใหญ่แห้งแล้งและกว้างใหญ่มากแห่งหนึ่ง เมื่อต้องหลงอยู่ในทุ่ง ขาดอาหารขาดน้ำ นั่งลงร้องไห้ เพราะจนปัญญา จนชาวบ้านแถวนั้นไปพบเข้าและช่วยเหลือออกมา ทุ่งแห่งนั้นเลยได้ชื่อว่า "ทุ่งกุลาร้องไห้" แต่นั้นมา ส่วนพ่อค้าชาวกุลาบางส่วนเมื่อเบื่อการขายสินค้าเร่ไปเร่มา มีการลงหลักปักฐานตั้งชุมชน ในแถบบริเวณดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง สืบต่อเป็นชุมชนกุลา มาจนปัจจุบัน นี้ ครับ ขอโทษที่ตอบเสียยาว แต่คิดว่าจะเป็นความรู้ทั่วไปสำหรับผู้สนใจนะครับ
11 พฤษภาคม 2552 09:21 น. - comment id 982592
ขอบคุณ คุณกิ่งโศกที่มาเยี่ยมและนำกลอนมาฝาก ครับ พอดีคนเป่าเป็นผู้ดูแลรักษาป่าชุมชน (ดอนปู่ตา-เรียกตำแหน่ง ว่า- จ้ำ) ของหมู่บ้านจึงไม่เพียงเสียงจากป่าไพร หากยังเป็น เสียงจากผู้อนุรักษ์และสรรค์สร้างพงไพร ด้วยครับ
11 พฤษภาคม 2552 09:41 น. - comment id 982601
ขอบคุณ คุณม่านดอย ที่มาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ ครับ ไปปฏิบัติธรรมมาคงจะได้รับบุญกุศล ทำให้สุขกาย สุขใจ ตลอดไปนะครับ จะรออ่านบทกลอนงามๆ ต่อๆไป ครับ
11 พฤษภาคม 2552 10:02 น. - comment id 982603
คุณอัลมิตรา ครับ ผม ลองเป่าแล้ว แค่เป่าเป็น เสียงได้ แต่ไม่เป็นเพลง ครับ เลยได้แต่ฟังและเอามาเล่า ต่อ
11 พฤษภาคม 2552 10:06 น. - comment id 982604
คุญ ญามี่ ครับคืนนั้นเขาก็เป่าให้ฟังหลายเพลง เป่าสลับกับการเป่าขลุ่ย ของอาจารย์ธนิต ศรีกลิ่นดี ด้วยครับ อ.ธนิต ยังชมและแนะนำว่าควรนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ และยกระดับความรู้เรื่องคีย์เสียงเพื่อเล่นกับวงดนตรีได้ ด้วย ครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยม ครับ
11 พฤษภาคม 2552 10:10 น. - comment id 982605
ใช่ ครับ คุณช่ออักษราลี ฟังอยู่ข้างชายป่าชุมชน เป่าโดยนักอนุรักษ์ป่าชาวบ้าน ในคืนเพ็ญ ตอนนี้นักเป่าคนดังกล่าวเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ตามโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต ของมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร ด้วยครับ ได้บรรยากาศมากเลย
11 พฤษภาคม 2552 10:13 น. - comment id 982606
ปี่ ซังข้าว ผมก็เคยทำและเป่าเล่นตอนเด็กๆ ครับ ว่างจะลองระลึกความหวังช่วงนั้นเอามาเขียน บ้าง ครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยม ครับ คุณเพียงพลิ้ว ครับ
11 พฤษภาคม 2552 14:54 น. - comment id 982734
เคยเอาใบไม้มาเป่า แต่เสียงมันดัวแปร่ด แปร่ดอ่ะค่ะ เคยฟังคนที่เป่าเป็นนะคะ เพราะมากๆเลย แบบว่าเคยดูเคยฟังในทีวีอ่ะ
11 พฤษภาคม 2552 18:40 น. - comment id 982816
เรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับความรักและตั้งใจทำ นะครับ ใบไม้ก็คงเหมือนเครื่องดนตรีอื่นๆ ถ้าไม่รักและหมั่นฝึกฝน ก็ไม่สามารถเป่าให้เป็นเพลงที่ไพเราะได้ ผมลองแล้วก็มีเสียงแปร๊ดๆไม่เป็นเพลง เช่นกัน ครับ คุณ เฌอมาลย์
11 พฤษภาคม 2552 20:57 น. - comment id 982898
กระท่อมใบไม้! กระท่อมใบไม้.. แฝงตัวอยู่บนเนินผา ในหุบเขา..พะงันงาม.. ที่ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้เมืองร้อนนานาชนิดสูงใหญ่ เป็นช่อชั้น ราวป่าดงดิบสลับสล้าง..ใบไม้เขียวพร่างระยิบระยับ..ไปทั้งราวป่า และ... งามจับตายามถึงคราฤดูใบไม้เปลี่ยนสี...ที่มีเสียงจิ้งหรีด เรไร ดนตรีไพรดนตรีธรรมชาติและสายลมอันอ่อนโยนละมุน หอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้ไพร..อวลไกล..ในยามค่ำ.. ..... ยามเช้า... ยามอุษาฟ้ากระจ่าง.. เมื่อดวงตะวันสาดแสงสีทอง อันอ่อนอุ่นมาแตะแต้มทายทักโลก.. มวลหมู่นกกา..พลันพรึบพรูโผผินบินว่อนร่อนจากรวงรังออกหาเหยื่อ.. .. สัตว์ป่านานา..ก็พากันเที่ยวท่อง.. จดจดจ้องจ้องออกล่าเหยื่อ..เฉกเช่นกัน เป็นวิถีอันเป็นธรรมชาติเพื่อดำรงรอด.. ไพรกว้างเงียบงาม.... ซ้องผสาน..เสียงเพลงไพรเสียงสัตว์ไพร ขับขาน ทั้งดุร้ายและหวานเศร้าคละเคล้าดำดิ่งลึกล้ำงามเงียบไห้ไหยหวน. สู่ห้วงหฤทัยผู้รักไพรพงเป็นชิวิตจิตใจ.. ธรรมชาติ..เปิดม่าน.. หวานหวานหว่านมนตราเริ่มตั้งแต่ยามทิวา อรุณรุ่ง มุ่งสู่ราตรีที่ฟ้ากว้างประดับด้วยทางช้างเผือก.. ระดะดาวพราวพร่างเต็มอ้อมฟ้าเต็มอ้อมฝัน..พริบพราวเคล้า นวลจันทร์กระจ่างฟ้า..เล้าโลมหล้าโลก ให้มวลมนุษย์คลายโศกหรือยิ่งเศร้าหม่น สุดแต่คน..แต่ใจใคร..จะไขว่คว้า กระท่อมใบไม้.. งามง่าย หลังคาจาก โครงเคร่าใช้ไม้มะพร้าวที่หักโค่น.. มาเป็นเสาค้ำตั้งรับสอดประสาน...ใช้ทุกส่วนให้งามอย่างคุ้มค่า ฝา..คือไม้ไผ่ขัดแตะอย่างละเอียด และยิ่งละเมียดละไมด้วยเสื่อจูดสานสวยซ้อนทับ..อีกชั้น.. กันสายฝนแรงรับลมพายุ.. ไม่มีโต๊ะ ตั่งเ ตียง..มีเพียงเสื่อสานละเอียดปูฟูกที่นอนขาว กับหมอนอีกใบ.. มีมุ้งที่บัดนี้หอบขึ้นไปผูกไว้ ยามมิได้ใช้งาน..ก่อนนอน.. หัวนอน.. มีขอนมะพร้าว..เตี้ยๆไว้วางของจุกจิกไม่กี่ชิ้นจำเป็น มีตะเกียงเทียนเหลือเทียนครึ่งเล่ม..เพียงนั้น กับขันทองเหลืองที่เจ้าของกระท่อมทับ ใช้จัดใส่ดอกไม้ไทยรายรอบนานาพรรณ ที่บัดนี้พลันพากันมาหอมอวลคละคลุ้ง จรุงไปทั่วทั้งกระท่อม กับสายลมเย็นยามค่ำ กับยามที่พรายวสันต์เพิ่งราเม็ดพร่างพรมห่มไปทั่วทั้งราวไพร..ให้ฉ่ำเย็น.. ทางขึ้นกระท่อมนั้น.. ดังพรมสวรรค์สีเขียว..ของหญ้ามอสส์สอดแทรก ตามปุ่มปมหินแง่งาม ที่เกาะเกี่ยวให้ไต่ตาม ค่อยๆเลี้ยวเลาะ.. ให้สงบ..ให้ผ่อนคลาย ... ทุกก้าวย่าง...ในอ้อมเขียวเรียวไพลเรียวใบไม้ไหวระยับ.. ทุกฝีเท้า..ของผู้โชคดี... ที่ได้ละลดวางและหลีกลี้หนีจากความวายวุ่นจากสังคมเมือง.. เสมอเหมือน กำลังได้สลัดแอกใจ อันอ่อนล้า ที่โหยหา แสวงหาธรรมชาติเย็น.. ชุบชื้นชื่นชีวีต..ชุบดวงจิตดวงใจ ชุบจิตวิญญาณ ชุบใสงามดื่มด่ำฉ่ำเย็น ให้ระรินไหลเข้าเบื้องลึกภายใน ให้พลันสดใสตระการราวแก้วงามแก้ววิเศษ ที่จะพรายพร่างนำทางใจ..สู่ สว่างใส สงบ.พบ.ร่มชีวี.. ที่ดั่งหยาดน้ำทิพย์..ที่ละลายร่าง ไร้ร้างตัวตน ให้ห่างจากความยึดมั่นถือมั่น ในทุกวันทุกสิ่งมากมีที่ไม่จีรังยาวยืน.. ร่างกาย.. ร้อนรน..ได้ผ่อนคลาย ดวงใจได้นิ่งงันผ่อนพัก พึ่งพิงธรรมชาติไพร เกิดใสงามสวยสดเป็นธรรมดาใจธรรมชาติงาม..อันมิรู้สิ้นรู้จบ ......... เส้นทางสายสวย..สู่กระท่อมใบไม้. ราวเส้นทางสายสวรรค์สรวง กระท่อมใบไม้ ...ที่ไร้ร้างในสายตาคนเมือง ผู้นิยมวัตถุมากมี..หามาประดับบารมีให้เป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตา. กระท่อมใบไม้.. ที่ไม่สิ้นเปลืองผลาญพร่าทรัพยากรธรรมชาติ หากเพียงแค่ได้เอนอิงเอื้อโอบใจไปพร้อมกัน..เป็นหนึ่งเดียว.. ให้นวลเนื้อใจละไมละมุน..ในงามง่ายนั้นมิมีวันสิ้นสุดรัก..สุดงาม! ........... กลางกระท่อม.. กลางเงาเทียนวูบไหว ในร่มเงาไม้ให้สงบเงียบ มีร่างงามเรียบนอนสยายผม มีดวงดอกไม้แนบนวลแก้ม มีเรียวรอยยิ้มพริ้มพราย คล้ายรอรับจูบละเมียดละไมจากชายในฝันในดวงใจ.. ..................... ตามมาสิทุกดวงใจ.. มาฟังเสียงนกไพร ฟังเสียงดุเหว่าแว่วหวาน ดูเงาดาวทอแสงนวลใย แข่งกับหยาดเพชรพราวในดวงตาดวงใจของนางไพรอันเป็นที่รัก ยามสะอื้นอ้อนหารักครางครวญ.. พระจันทร์หวานคงอิจฉา.. ราตรีคงเงียบงัน... ฟากฟ้านั้นเลิกหมองหม่นชั่วครู่ ลมคงหยุดพัดไหว ใบไม้คงปลิดปลิวโปรยพร..เพื่อสองเรา..ตราบชั่วกาล..
12 พฤษภาคม 2552 16:43 น. - comment id 983240
เพลงปี่ใบไม้ ..ที่กระท่อมใบไม้ ครับ ..งามง่ายคือความจริงที่แสนงาม...... แม้ถ้อยถักอักษราที่ว่าหวาน ฤๅจะทานหวานใจไม่สิ้นสาย ที่ถักร้อยถ้อยรินสิ้นใจกาย เพราะงามง่ายงามล้ำเกินจำนรรย์ งามกายประดับดอกบุปผชาติ แก้มขนงบรรจงวาดปาดสีสัน ช้องนางน้องกรองผมประพรมพลัน น้ำอบกลั่นกลิ่นกรุ่นละมุลใจ ทบผ้าถุงนุ่งห่มเนื้อเสื้อลายดอก วิหคหยอกลายเย้าคู่อยู่ไหวไหว สงบงามท่ามหนตำบลใด ตำบลใจงามดั่งฝันปั้นแต่งมา งามใจยิ่งงามล้ำเกินคำขาน ด้วนสายธารรสพระธรรมนำทิศา ด้วยดวงใจใสครบสงบกริยา งามสง่าดุจเทพีที่แดนไตรย์ แม้ให้ทั้งเทพเทพินสิ้นสามโลก ร่ายโศลกก็เกินการจะทานไหว ตรับกระแสสิ้นรินจินตนาใจ วิโยคไหววะวับวับดับอินทรีย์ คงเป็น ณ ที่นี่ที่เกิดโลก เกิดเป็นโศกสุขเศร้าเคล้าที่นี่ แล้วค่อยไหลเอิบอาบซาบอินทรีย์ จึงไม่มีวันรู้ได้ยามว่ายวน อยากมีปีกบินออกไปนอกโลก เพื่อเห็นโศกสุขเศร้าที่สับสน ที่เกิดทุกข์ก่อมาสาละวน เพื่อหวังผลที่เห็นตามเป็นจริง เพราะความจริงคือนิยามความงามง่าย งามกายงามใจในทุกสิ่ง เมื่อพบใจเหมือนพบรักที่พักพิง หวังแอบอิงอุ่นไอรักถักใจงาม "
12 พฤษภาคม 2552 18:57 น. - comment id 983268
กลอนงดงามครับ ฝากฝันเป่าใบไม้ไม่เป็นครับ แต่เคยเจอคนที่เป่าใบไม้เรียกกระจง ออกมาให้เห็นได้ และบางคนเป่าเป็นเสียงทำนองเพราะพริ้งทีเดียว
12 พฤษภาคม 2552 23:09 น. - comment id 983441
อยากเป่าใบไม้เป็นเพลงได้จัง ไม่ค่อยมีใครเป่าให้ได้ยินเลยอะ สวัสดีค่ะ คุณ คนกุลา