แก่นแท้ธรรมนำชีพสุกสว่าง ชีวิตใสกระจ่างพ้นทุกข์เข็ญ เพียรสำรวจตรวจตราความลำเค็ญ จิตตรมทุกข์เน้นเน้นในเหตุใด เพียรเฝ้าเพาะเสาะหาความว้าเหว่ เฝ้าหลงเล่กลลวงสะท้านไหว หลงละเมอเพ้อหาน้ำตาใจ จริงแล้วไซร้สมมุติฉุดวิญญาญ์ มัวหลงวนติดบ่วงห้วงผัสสะ ทั้งเราท่านลดละความปรารถนา ทิ้งเรื่องราวเขาเธอพรรณณา ปลดอัตตาขื่นขมตรมทรวงใน ธรรมดาสรรพสิ่งที่เปลี่ยนยุค ธรรมารมณ์บ่มสุกจนหมองไหม้ ธรรมดาสรรพสิ่งที่เปลี่ยนไป บัญญัติธรรมนี้ไซร้ในสมมุติ ทั้งกายจิตเจตสิกรูปกับนาม เป็นสื่อการรับรู้มิสิ้นสุด กิเลสเกราะตัณหากลยุทธิ์ จึงเวียนผุดเวียนว่ายในวัฏฏะ สรรพสิ่งทั้งหลายในสมมุติ เป็นผู้ฉุดเราท่านหลงวัณณะ เรียนรู้โลกสมมุติแห่งผัสสะ เจตนาสภาวะที่เป็นจริง (ของชีวิต)
19 มีนาคม 2552 07:35 น. - comment id 965175
... สาธุ..นับว่าเป็นเช้าดีๆตื่นขึ้นมาศึกษา ธรรมจาก ทั้งน้อง..พี่..เพือน..วันนี้อิ่มสุขเลย กำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพพอดี น้องดอกบัวสบายดีนะครับ ดูแลสุขภาพด้วย...ฝน..ฝุ่น..ครัน แดด ร่างกายปรับไม่ทันเลย
19 มีนาคม 2552 09:10 น. - comment id 965203
19 มีนาคม 2552 09:54 น. - comment id 965226
มารับฟังธรรมดี ๆ ยามสาย ๆ จ้าคุณดอกบัว....
19 มีนาคม 2552 11:20 น. - comment id 965254
ซาบซึ้งในรสพระธรรมคร้าบ
19 มีนาคม 2552 14:15 น. - comment id 965346
19 มีนาคม 2552 14:36 น. - comment id 965363
แวะเอาดอกไม้สวยๆมาฝากน้องดอกบัวค่ะ ค้นหาแก่นแท้ของตัวเองมาหลายปีแล้ว.. พี่แบมนะ ยังไม่รู้เลยว่า ความกระจ่างในใจจริงๆต้องการอะไรกันแน่ รู้เพียงว่า เท่าที่เป็นอยู่ขณะปัจจุบันนี้ดีพอประมาณ อิอิ
19 มีนาคม 2552 15:49 น. - comment id 965372
สวัสดีค่ะ เรียนรู้ และปฏิบัติด้วยจิตมุ่งมั่นก็จักประสบความสำเร็จได้ค่ะ
19 มีนาคม 2552 14:49 น. - comment id 965374
สวัสดีค่ะ พี่ฝากฝัน ดอกบัวสบายดีค่ะ พี่ฝากฝัน ดอกบัวระวังตัว ไม่ให้เป็นอะไรค่ะ พี่ฝากฝันคงงานยุ่งสิค่ะ ใช้ค่ะ ตอนนี้ปรับ ทุกอย่าง ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของมวลอากาศ เมื่อวานฝนตกหนักมาก พอดีดอกบัว ออกไปซื้อของโลตัสติดฝนอยู่ตั้งนานค่ะ ถ้าอยู่ในห้างก็ยังดีนี้ดอกบัวออกมาแล้ว เปียกปอนเชียวค่ะ วันนี้ก็ร้อน บ่ายคงตกอีกนั้นแหละค่ะ ดอกบัวขอให้พี่ฝากฝันมีสุขภาพที่ดีและมีแต่ความสุขค่ะ สวัสดีค่ะ พี่ฝากฝัน ดอกบัวสบายดีค่ะ พี่ฝากฝัน ดอกบัวระวังตัว ไม่ให้เป็นอะไรค่ะ พี่ฝากฝันคงงานยุ่งสิค่ะ ใช้ค่ะ ตอนนี้ปรับ ทุกอย่าง ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของมวลอากาศ เมื่อวานฝนตกหนักมาก พอดีดอกบัว ออกไปซื้อของโลตัสติดฝนอยู่ตั้งนานค่ะ ถ้าอยู่ในห้างก็ยังดีนี้ดอกบัวออกมาแล้ว เปียกปอนเชียวค่ะ วันนี้ก็ร้อน บ่ายคงตกอีกนั้นแหละค่ะ ดอกบัวขอให้พี่ฝากฝันมีสุขภาพที่ดีและมีแต่ความสุขค่ะ สวัสดีค่ะ คุณครูกระดาษทราย เขียนสดับธรรมชาติของดวงจิต เพื่อเพ่งพิศอายตนะในสัมผัส สัจธรรมนำทางกรรมวัฏ หวังกำจัดความทุกข์คลุกภายนัย ขอบคุณค่ะ คุณครู มีความสุขมากๆค่ะ สวัสดีค่ะ คุณพี่รี สบายดีนะค่ะ ขอบคุณค่ะ สาธุค่ะพี่รี ขอให้มีแต่ความสุขทุกวันค่ะ สวัสดีค่ะ คุณธนา ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาฝากถ้อยให้ถักทอต่อไปค่ะ ให้มีแต่ความสุขค่ะ สวัสดีค่ะ คุณพิมญดา ขอให้คุณมีความสุขทุกวันค่ะ ขอบคุณทุกนามค่ะ ขอเทวัญคุ้มครองทุกท่านมีแต่ความสุขสมหวังในชีวิตตลอดนิรันดร์ค่ะ
19 มีนาคม 2552 15:00 น. - comment id 965382
สวัสดีค่ะ พี่แบม ขอบคุณกับดอกไม้ค่ะ พี่แบมค่ะ สภาพรู้ทั้งหลายมีจิต เป็นผู้รู้ ยามระลึกนึกสร้างความประเสริฐ คือบุญเลิศประสิทธิ์ประสาทผล เมื่อดวงจิตใฝ่เพียรเรียนรู้ตน ประสิทธิ์ผลบุญเกื้อเอื้ออำนวย ขอเทวัญคุ้มครองพี่แบมค่ะ
19 มีนาคม 2552 16:33 น. - comment id 965479
มีพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมากที่ไม่ทราบแก่นธรรมของพระพุทธศาสนานั้นคืออะไร หรือนัยหนึ่งไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนอะไรเป็นหลักสำคัญ การที่พระองค์ทรงอุตสาหะเสด็จจาริกไปในที่ต่างๆ ตั้งแต่ตรัสรู้จนถึงเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน รวมเป็นเวลาถึง ๔๕ ปี ก็เพื่อจุดประสงค์อันเดียวคือทรงสั่งสอนแก่นธรรม ๓ ประการนั้น คือ ๑. การละความชั่ว ๒. การทำความดี ๓. การชำระใจให้บริสุทธิ์ ในบรรดาศาสนาต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นก่อนพระพุทธศาสนาและที่เกิดมาในภายหลัง ต่างก็มีหลักสอนให้ละความชั่วและให้ทำความดีเป็นประการสำคัญ แต่ไม่มีศาสนาใดที่สอนถึงวิธีชำระใจให้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นวิธีที่มีอยู่ก็แต่ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น พระพุทธเจ้าได้ทรงเล็งเห็นโดยแจ้งชัดว่าโลกของรานี้เป็นโลกของความทุกข์ คือ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากกันเป็นทุกข์ การร่ำไห้อาลัยเป็นทุกข์ ความเสียใจเป็นทุกข์ ความเหี่ยวแห้งใจเป็นทุกข์ มูลเหตุที่ก่อให้เกิดทุกข์ ก็คือตัณหาหรือความอยาก ซึ่งก่อให้เกิดกิเลสเกรอะกรังดวงจิต ได้แก่ โลภ โกรธ หลง ที่จะให้พ้นทุกข์จึงจำจะต้องตัดมูลเหตุ คือ กิเลสตัณหาออกไปให้สิ้น เมื่อละกิเลสตัณหาให้หมดไปได้หมดแล้ว จิตก็จะบริสุทธิ์ เป็นการดับทุกข์ได้สิ้นเชิง แต่ตราบใดที่ผู้ใดยังไม่สามารถจะทำให้กิเลสตัณหาหมดไปได้ ผู้นั้นก็จะต้องประสบทุกข์และเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏฏ์อยู่เรื่อยไป ต่อเมื่อสามารถละกิเลสตัณหาได้หมดสิ้นแล้ว ก็จะพบกับความดับทุกข์หรือที่สุดแห่งทุกข์คือนิพพาน ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป และพระองค์ก็ได้ทรงค้นพบทางดับทุกข์หรือวิธีจะทำให้ทุกข์ดับโดยสิ้นเชิงนี้คือ อริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นธรรมวิเศษที่จะพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ วิธีจะทำให้ทุกข์ดับ หรือวิธีชำระใจให้บริสุทธิ์นั้น ตามหลักพระพุทธศาสนาเรียกว่า การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน หรือการปฏิบัติธรรม การเจริญวิปัสสนากรรมฐานนี้เป็นทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติได้รู้แจ้งเห็นจริงในธรรมวิเศษของพระพุทธเจ้า ที่เรียกว่าบรรลุมรรคผลนิพพาน การทำความดับสนิทในกองทุกข์ทั้งมวล ที่ตัณหาได้ก่อขึ้นไว้นั้น อยู่ที่ตรงการ กระทำ ความคลายคืนโดยที่ไม่มีเหลือและความดับไม่เหลือ ความละวาง ความสละคืน ความผ่านพ้น ความไม่อาลัย ซึ่งตัณหานั้นเทียว มีปัญหาว่าการที่จะดับตัณหาเสียนั้น จะดับที่ตรงไหน คำตอบมีว่า สิ่งใดที่สภาวะเป็นที่รัก ที่สภาวะเป็นที่ยินดีในโลก ตัณหานี้เมื่อบุคคลจะละ ย่อมละได้ในที่นั้น เมื่อจะดับย่อมดับในที่นั้น นี้คือ การค้นพบอริยสัจข้อที่ ๓ รู้ตัว รู้ธรรม รู้กรรม รู้นิพพาน..ครับ..บัว..
19 มีนาคม 2552 19:06 น. - comment id 965547
สวัสดีค่ะ คุณกบ ขอบคุณกับกำลังใจค่ะคุณกบ ดอกบัวจะเรียนรู้และปฏิบัติควบคู่ไปกับชีวิตประจำวันค่ะ ขอให้คุณกบพบแต่ความสุขสมหวังตลอดไปค่ะ
19 มีนาคม 2552 19:19 น. - comment id 965554
สวัสดีค่ะ พี่อรุณสุข สาธุ ค่ะ ดอกบัวรู้แจ้งเห็นจริงในคำของพี่อรุณค่ะ ในปุถุชนธรรมดาอย่างเราคงยากที่จะไปถึงซึ่งนิพพาน ดอกบัวแค่เรียนรู้ในการดำรงชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบันให้มีความสุขเท่านั้นค่ะ เพราะในความปรกติธรรมดาแล้ว จิต เป็นธรรมชาติทำหน้าที่ เห็นได้ยิน รับกลิ่น รับรส รู้สัมผัส เมื่อสภาวะของจิตรับรู้ เจตสิกเป็นธรรมชาติประกอบจิต จึงมีการปรุงแต่งอารมณ์ ให้เกิดความรู้สึก นึก คิด ที่แตกต่างกันออกไป ขั้น นิพพาน คงยาวไกล สำหรับเราๆ มากมายหนัก นิพพาน เป็นจุดหมาย สูงสุดในพระพุทธศาสนาที่พุทธศาสนิกชนอย่างเรา จะเอื่อมไปถึง เราคงต้องเรียนรู้มากมาย ที่จะให้จิตเราละซึ่งกิเลสทั้งปวงได้ ดอกบัวขอแค่เรียนรู้ในเหตุที่เกิด แล้วทำอย่างไรให้ถ่องแท้ในเหตุและผล จิต จะเกิด ดับอย่างรวดเร็วชั่วเวลาลัดนิ้วมือก็จริง เมื่อจิตเกิดอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง ปุถุชนอย่างเราดับยากถ้าไม่หาเหตุที่เกิด และรู้เท่าทันอารมณ์นั้นๆ ดับทุกข์ที่เกิดในใจได้ก็สุดยอดแล้วค่ะ อิ อิ ดอกบัวถ้าจะไปไกล กู่ไม่กลับเสียแล้วค่ะพี่อรุณ สุขสวัสดิ์จงมีแด่พี่อรุณตลอดไปค่ะ ดอกบัวรออ่านงานพี่อรุณนะค่ะ
19 มีนาคม 2552 20:58 น. - comment id 965632
ดอกสาละ งามมากครับคุณดอกบัว...กลอนให้ข้อคิดดีมาก
20 มีนาคม 2552 02:29 น. - comment id 965705
สวสดีงามๆยามราตรีเจ้า คุณดอกบัว อ่านกลอนยามดึก สงัดอย่างนี้ได้อารมณ์เกินบรรยายแต้ๆเจ้า สุดยอดไพเราะเพราะพลิ้วเจ้า สาธุ เจริญธรรมเจ้า
20 มีนาคม 2552 06:56 น. - comment id 965711
หวัดดีคับ...คุณ"ดอกบัว...." ล้ำลึก...เป็นบทธรรมที่ไพเราะมาก...คับ...
21 มีนาคม 2552 11:05 น. - comment id 965979
สวัสดีค่ะ คุณกิ่งโศก ดอกสาระ หรือบัวสวรรค์ ดอกบัวไปจิ๊กมาจากพี่ๆที่เคารพค่ะ ดอกบัวไปกราบพระที่วัดบวรดอกบัว เห็นดอกเกราะอยู่บนต้นสวยมากค่ะ ตั้งใจว่าไปเที่ยวนี้จะถ่ายรูปมาไว้ เวลาดอกบัวเขียนกลอนแนวนี้จะเอามาประกอบกันค่ะ ขอบคุณ คุณกิ่งโศกนะค่ะ ขอให้โชคดีมีแต่ความสุขค่ะ เพื่อนทางอักษรสวัสดีค่ะ คุณม่านดอย ขอบคุณรอยยิ้ม ขอบคุณคำพร สาธุ ขอให้คุณม่านดอย มีแต่ความสุขตราบนิรันดร์เจ้า% สวัสดีค่ะ คุณkirati ขอบคุณในคำทักทาย ขอบคุณที่แวะมาอ่าน ขอบคุณในรอยยิ้มที่มอบให้ สาธุ ธรรมรักษาค่ะ