รักแผ่นดินเหลืองระย้าด้วยรวงข้าว รักงามพราวบัวขาวในบึงฝัน รักดวงตะวันแดงเด่นเริ่มรุ่งวัน รักแสงจันทร์แจ่มกระจ่างสว่างตา รักแสงสงฆ์แสงธรรมคอยร่ำริน รักมิสิ้นแดงชาติศาสนา รักร่มฉัตรมิ่งมงคลมหากษัตรา รักท้องฟ้าพุทธภูมิคุ้มดวงใจ รักสายน้ำสีเงินแสนสงบ รักยามพลบยามตะวันลาลอดกิ่งไผ่ รักดายเดียวสอนให้งามเงียบใจ รักกระท่อมไพรในดงไม้สายธารริน คือดวงใจหญิงหนึ่งมิสิ้นฝัน เป็นนิรันดร์สร้างงามมิรู้สิ้น ตราบลมหายใจสุดท้ายรักแผ่นดิน หวังถวิลลบรอยโศกสร้างโลกงาม....!
23 พฤศจิกายน 2551 14:46 น. - comment id 916943
รักๆๆ... ด้วยคนนะครับ
23 พฤศจิกายน 2551 14:49 น. - comment id 916945
.....ตั๊บแก พี่พุดสบายดีไหมคะ ... แวะทักทายพี่คนงามคะ แหะ..แหะ..
23 พฤศจิกายน 2551 20:37 น. - comment id 917017
เหลืองระย้าแดงระยับพร้อมจับศึก ต่างห้าวคึกดุจคะนองประลองขวัญ พรุ่งนี้นัดซัดรัฐสภาประดาพลัน ลงเอยนั้น...จะอย่างไรไม่รู้เลย
27 พฤศจิกายน 2551 21:06 น. - comment id 918574
ภาพต้นไม้ผลัดใบคล้ายที่ทองผาภูมินะครับ มีนาข้าวเยอะจัง ดู ๆ แล้วมีอะไร ๆ ใกล้ตัวผมเยอะ ผมไปเก็บหินริมลำธารที่ทองผาภูมิมาจัดสวนให้หน่วยงานราชการเลยเกิดแรงบันดาลใจใจให้แต่งโคลงบทแรกในกวีนิพนธ์ของผม (แนวโลกนิติฯ) และ เกี่ยวกับนาข้าวก็เป็นลิลิต ๘ บท แต่งเป็นครั้งแรกเหมือนกันและได้รางวัลด้วย (ฟลุ้ค) ลองคีย์คำว่า "ม่านรุ้งลานตม" ดูนะครับ ผมใส่คำให้กรรมการเลือกเยอะแยะบอกให้กรรมการเลือกให้ปรากฏว่าเขาไม่เลือกให้ ใส่ให้มาหมดเลย (ตอนนั้นยังมองไม่ออกว่าคำไหนเหมาะสมเพราะเพิ่งหัด) บทโลกนิติแรกที่แต่งเพราะเห็นจิงโจ้น้ำมันตัวเล็กลอยอยู่ผิวน้ำและก้อนหินจมน้ำมีตะไคร่เกาะ ผมนั่งเล่นบนก้อนหินให้พม่าเก็บหินเลยลองแต่งเล่น ๆ (ความจริงแต่งเรื่องสั้นด้วยแต่ไม่จบ) ดังนี้นะครับ (มีโทโทษด้วย)........ จิงโจ้น้ำนิดจ้อย..................ลอยชล น้ำเชี่ยวยังเที่ยวซน...........โยกเต้น ลอยได้เพราะว่าตน............บ่หนัก บ่ห่วงบ่แบกเฉ้น (เช่น)......จิตผู้พรหมจรรย์ ................