ดวงตาพร่าอาทรภมรหนุ่ม สองใจซุ่มเห่อเหิมเติมไฟฝัน ศรัทธากับกลิ่นไอไฟคนธรรพ์ ทุกวัยวันเพลิงพิษติดมายา ปล่อยความรักเบ่งบานกลางม่านหมอก รักผลิดอกฉันเป็นเช่นบุปผา เขาเปลียบเหมือนภุมรินบินผ่านมา ร่อนถลาเคล้าคลึงซ่านซึ้งทรวง หอมดอกชู้ชูก้านบนลานรัก ซึ้งตะหนักรักแนบแอบหวงห่วง ระเริงหลงเร้าเร่งเพลงลมลวง หลงติดบ่วงทั้งที่รู้มีภัย ก้าวสู่ทางหนุ่มสาวเรื่องราววุ่น โชนกลิ่นกรุ่นแฝงมนต์จนหวั่นไหว อำนาจลับภมรร้างรักจางไป ทิ้งดอกไม้อับเฉาเหงาฤดี เป็นกุหลาบกลีบช้ำสิ้นไร้กลิ่นหอม ถูกดมดอมหมดสิ้นทั้งกลิ่นสี ดอกซ่อนชู้ตายเห็นเป็นราคี ภมรหนีหลงไพรดอกไหนกัน สมน้ำหน้าบุปผาว้าเหว่หนาว ภมรห้าวเอมอิ่มยิ้มเยาะหยัน จะให้ง้อขอรักคืนยังตื้นตัน คนอย่างฉันหยิ่งพอไม่ง้อเธอ
17 พฤศจิกายน 2551 23:20 น. - comment id 914824
เฮ้อ ! เข้าใจค่ะ
13 มกราคม 2552 12:19 น. - comment id 935219
ภมรใด ไยชั่ว ทำมัวหมอง ให้ร่ำร้อง โหยหา น้ำตาไหล บุปผาช้ำ คร่ำครวญ หวนอาลัย อยู่แห่งไหน รีบกลับมา หาคนดี หากแม้นเลย เวลา ล่วงลาลับ คิดหวนกลับ มาอยู่ คู่จู๋จี๋ อย่าได้หวัง ได้เชยชม สมฤดี บุปผามี ภมรอื่น มาชื่นใจ จะขอเป็น ภมรใหม่ อยู่ใกล้ชิด และไม่คิด ทิ้งร้าง ห่างไปไหน อยู่คลอเคล้า กับเจ้า ตลอดไป คอยเยียวยา หัวใจ ให้ชื่นบาน