*** อนิจจังวัฏฏะสังขารา *** ตะวันลาล่วงลับดุจดับกาล เปรียบสังขารแปรเปลี่ยนเวียนสนอง ยามสิ้นแล้วดีชั่วตามครรลอง บังเกิดผองเวรกรรมเข้าซ้ำเติม แสนเสียดายเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ ยามมาเกิดเพื่อสร้างทางส่งเสริม ล้างกรรมชั่วผ่านมาหาเพิ่มเติม ทำดีเพิ่มลบชั่วร้ายสลายมาร ประกอบกรรมธรรมส่งดำรงจิต หมั่นลิขิตพิจารณาฝ่าสังขาร ที่เกิดแก่เจ็บตายคลายวิญญาณ คอยเผาผลาญล้างดีที่สร้างมา ด้วยโลภะโทสะและโมหะ ตัณหาจะครอบงำย้ำสิ่งหา เกิดจากขันธ์เวทนามานำพา เกิดปรารถนาอนิจจังพังทลาย ไม่หันมองสังขารอันไม่เที่ยง กลับบ่ายเบี่ยงหลีกเร้นเด่นสลาย หวังอำนาจบาดใหญ่จนได้กลาย สิ่งทั้งหลายเกิดแล้วแคล้วจากลา อันโลงศพใส่ตนยังล้นกว้าง น้ำตาสร้างรินอาบทาบสิ่งหา กว่าจะรู้ก็สายเสียดายเวลา ใยใฝ่มาสู่กว้างมิสร้างธรรม ยามสิ้นแสงเจิดจ้าเข้ามาขวาง ความอ้างว้างหดหู่สู่สิ่งถลำ กรรมที่สร้างเวรก่อท้อระกำ เข้าแต่งแต้มแย้มซ้ำย่ำหัวใจ สิ่งนำไปโลกนี้มีสามอย่าง ที่จะสร้างแต่งเติมเสริมสดใส คือเวรกรรมวิญญาณพลันนำไป สู่ภพในกฎกรรมยามก่อนตาย ความไม่แท้เที่ยงธรรมนำสังขาร ดุจสสารผสมกันพลันแยกสลาย หลักชีวะวิทยามาเปลี่ยนกลาย ก็เหมือนคล้ายกรรมเวรเน้นคนทำ. *** แก้วประเสริฐ. ***
23 ตุลาคม 2551 12:34 น. - comment id 906669
เข้ามาอานกลอนธรรมะครับ
23 ตุลาคม 2551 13:42 น. - comment id 906682
เห็นสัจธรรมของวัฏสงสารเลยค่ะคุณครู ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะคุณครู
23 ตุลาคม 2551 15:48 น. - comment id 906689
เบื่อสงสารเวียนว่ายใช้ชีวิต เบื่อสังคมเบือนบิดผิดธรรมศีล เบื่อต่อสู้คู่แย่งแข่งอาจินต์ เบื่อชีวินดิ้นรนทนทำดี เบื่อที่สุดเบื่อตนทนหม่นหมอง เบื่อที่ต้องสู้ไปไม่สิ้นสี เมื่อไหร่กันที่ฉันหมดหน้าที่ สิ้นชีวีคงหมดเบื่อโอ๊ยเบื่อจริง
23 ตุลาคม 2551 17:37 น. - comment id 906696
เข้ามาอ่านธรรมะชำระความเศร้าครับ
23 ตุลาคม 2551 18:10 น. - comment id 906704
สวัสดียามเย็นค่ะ คุณครูแก้ว พยายามตัดกิเลศให้เหลือน้อยลงค่ะ แต่จะไม่เบียนเบียนใคร ค่ะ
23 ตุลาคม 2551 21:41 น. - comment id 906739
อรหัง..เมตตาค่ะ คุณลุง. อ่านแล้วทำให้เห็นสัจจะธรรมมากๆเลยค่ะ วันนี้หลานไปกราบมนัสการหลวงพ่อวัดทุ่งเศรษฐี ขอให้ท่านนำทางผ่อนทุกข์จากการสูญเสีย ท่านถามหลานว่า "ก่อนพ่อจากไปท่านทิ้งสมบัติอะไรไว้ให้โยมบ้าง" หลานฝืนตอบเพราะกลืนน้ำตาไปหลายอึกแล้ว หลานตอบว่า "พ่อทิ้งสมบัติชิ้นสุดท้ายไว้ให้คือ คำสอนให้ทำความดี" พราะท่านบอกว่า "นั่นแหละ เจ้าต้องรักษาสมบัติของพ่อไว้ อย่าให้หมดไป หมั่นทำความดี และนั่งสมาธิ เจ้าจะดีขึ้น อาตมาอวยพรให้" แวะมากอ่านกลอนที่สอนใจค่ะคุณลุง
23 ตุลาคม 2551 23:25 น. - comment id 906759
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คารวะคุณครู กลอนเพราะค่า
24 ตุลาคม 2551 02:29 น. - comment id 906766
... สังขารไม่เที่ยงหนอ... เข้าถึงธรรมชาติก็เข้าถึงธรรมครับ ดูแลสุขภาพนะครับ....
24 ตุลาคม 2551 10:43 น. - comment id 906833
24 ตุลาคม 2551 12:01 น. - comment id 906866
รูปสวยมากค่ะ บทกลอนก็มากความหมาย ชีวิตคนเราก็เท่านี้ เท่านี้จริงๆ
24 ตุลาคม 2551 12:52 น. - comment id 906885
วลาเราเจอเรื่องทุกข์ใจบางทีก็คิดนะคะ เราไม่ได้เบียดเบียนใคร ไฉนเลยถึงต้องทุกข์ คงเป็นเพราะเรามาชดใช้กรรมในชาติก่อนคิดได้แบบนี้ก็ปลงนะคะ แล้วคนที่สร้างกรรมใหม่ในชาตินี้อีกล่ะคะ ทบต้นทบดอกไปเรื่อยๆคงจะไม่หมดกรรมในเร็ววันเป็นแน่
24 ตุลาคม 2551 13:22 น. - comment id 906895
24 ตุลาคม 2551 20:32 น. - comment id 907043
คงดั่งคำพระท่านว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เฮ้อ... เราหนอเรา(ยานะคะ) ยังมิอาจหลุดได้เลย.. ลุงแก้วสบายดีนะคะ อย่าลืมห่มผ้านะคะ ชักเริ่มหนาวๆแล้ว
24 ตุลาคม 2551 22:27 น. - comment id 907125
คุณ อรุโณทัย ระยะนี้บ้านเมืองวุ่นวายนัก จะเขียนหรือ แก่แล้วเอาแค่หอมปากหอมคอก็พอ แก่แล้วนี่เรา ก็เอาทางธรรมมาฝากไว้บ้างก็ดีนะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 22:36 น. - comment id 907138
คุณ ครูกระดาษทราย อันที่จริงครูศึกษาธรรมมาและปฏิบัติตั้งแต่ ยังหนุ่มๆ ด้วยคิดว่าหากจะเชื่อมั่นตามครอบครัว นั้นจะดีจริงหรือ คือเชื่อมั่นตัวเองหากไม่ทดลอง ก็จะไม่รู้จริงจึงค่อนข้างจะรู้ว่าจริงแท้แน่นอนไม่ เพียงศาสนาอื่นๆและลิทธิอื่นๆด้วยก็ศึกษาจ๊ะ แต่ ด้วยปัญญาน้อยนิดได้แค่เพียงนิดๆหน่อยๆเท่านั้น เองจ้า เพราะต้องยุ่งเกี่ยวกับทางโลกมากไปและ บวชแค่พรรษาเดียวแต่ว่าก็คุ้มค่ามากจ๊ะศึกษาไป ปฏิบัติไปแม้เขาจะว่าผมบ้าก็ตาม แต่ความสงบ นั้นเกิดแก่ผมมากเกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริง ตามพุทธพจน์วาจา หากไม่พิสูจน์ก็ไม่รู้จ๊ะ เอา แค่นี้นะเดี๋ยวเขาจะว่าเว่อร์ไปจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 22:39 น. - comment id 907141
คุณ บ่นบ่น บ่นไปเถอะครับจริงอย่างคุณว่าแหละทางโลก น่าเบื่อจริงๆ แต่ทางธรรมไม่น่าเบื่อหรอกครับใคร ทำมากก็ได้มาก ทำน้อยก็ได้น้อยครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 22:49 น. - comment id 907149
คุณ ฝนทอง ครับธรรมย่อมนำสู่แสงสว่าง ทำให้จิตสงบ เกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริงตามโลกได้อย่างแท้จริง แต่ว่าต้องมิใช่เพียงแค่อ่านต้องปฏิบัติควบคู่ไปด้วย การปฏิบัตินั้นไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิ การปฏิบัติ สมถะภาวนา ทำได้ทุกๆอริยาบถครับ แต่หากได้ นั่งสมาธินั้นดีที่สุดเพราะจิตจะรวมตัวกันเร็วกว่า เมื่อจิตสงบนิ่งปราศจากนิวรณ์แล้วก็จะเป็นสมาธิ ตามขั้นตอนจะเกิดความสุขสงบปราศจากความ เศร้าหมองปัญญาก็จะค่อยๆเกิดครับ ทดลองซิ ครับ ไม่ทำไม่รู้หรอกครับ เมื่อทำบ่อยๆเข้า ก็จะเป็นนิสัยของเราเข้าหลักของความไม่ประมาท แม้แต่ในขณะละสังขารเราก็จะไปสู่สุขคติครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 22:56 น. - comment id 907154
คุณ ช่ออักษราลี ดีแล้วล่ะศิษย์รัก พวกเราก็เพียงแค่พยายาม หลีกเลี่ยงกิเลศเท่าที่ทำได้ถือได้ว่าเป็นการสร้าง ความดีแล้ว รากเง่าใหญ่ของกิเลศคือ โลภ โกรธ และหลง ซึ่งมันแตกแยกออกไปดุจดังรากไม้ที่มี รากแก้วของต้นไม้ใหญ่นั่นแหละจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 23:02 น. - comment id 907160
คุณ แก้วประภัสสร อนุโมทนาด้วยครับในผลบุญกุศล และยิ่ง กุศลกว่าคือพบพระที่รู้แจ้งแล้ว ครับรักษาสมบัติ นี้ไว้แหละครับทุกๆอย่างนั้นเกิดจากใจเราเองทั้ง สิ้นเป็นตัวสั่งการว่าจะพ้นวัฏฏะสังสารได้หรือไม่ ึครับ ทำความดีแม้จะน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 23:14 น. - comment id 907166
คุณ กันนาเทวี ถูกต้องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็คือไตรลักษณ์ นั่นเอง เพราะทุกๆอย่างย่อมเปลี่ยนไปเสมอแม้ แต่ร่างกายของเราหากสังเกตุดูคือจากเด็กเป็น ผู้ใหญ่ แล้วก็มาแก่เช่นผมเป็นต้น ไม่ว่าสิ่งใดๆ ก็เป็นอนิจจังทั้งสิ้น ส่วนทุกขังคือความเร่าร้อนนั้น ไม่ใช่เกิดที่ใดเกิดจากใจเราเองทั้งสิ้นทำให้เกิด เองแหละไม่แต่ตัวเราเท่านั้นภูเขาเองก็ยังเกิดขึ้น ส่วนอนัตตาย่อมดับไปส่วนคนเรานั้นไม่ดับสูญ สิ้นย่อมเวียนว่ายตายเกิดตามกรรมเวรเพราะ สังขารที่ครองอยู่ด้วยดินน้ำไฟลมวิญญาณธาตุ ย่อมเสื่อมสลายไปคงเหลือไว้แค่ความดีชั่วที่เกาะ อยู่ในวิญญาณจ๊ะ ดีแล้วล่ะศิษย์ที่เข้าใจได้ดี อนุโมทนาด้วยนะ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 23:20 น. - comment id 907167
คุณ ฝากฝัน ธรรมชาติคือแหล่งแห่งธรรมทั้งหลายแต่ว่า ธรรมชาติให้อะไรเราบ้างหากไม่พิจารณาด้วย ไตรลักษณ์แล้วก็หาประโยชน์อันใดมิได้นอกจาก จะเพิ่มกิเลสมากครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 23:32 น. - comment id 907172
คุณ เฌอมาลย์ ครับเจ้าหญิงภาพบนนั้นแฝงความนัยไว้มาก ครับหากพิจารณา ชีวิตคนเราสั้นนักเกิดเป็น มนุษย์นั้นตามคำสอนนั้นยากนักเพราะอยู่ระหว่าง กลางของสามภพ เพราะเป็นสถานที่สร้างความดี แห่งเดียวเท่านั้น ดังนี้นะเจ้าหญิง สวรรค์ทำความ ดีได้ยากเพราะเป็นดินแดนแห่งความสุขของผลบุญ ที่กระทำจากโลกมนุษย์ ส่วนนรกนั้นคือดินแดน แห่งการใช้กรรมชั่ว บนสวรรค์เมื่อหมดบุญแล้วก็ต้องมาใช้กรรม จะมากน้อยอยู่ที่กรรมเคยทำไว้หากมากก็ไป นรกไม่ได้เป็นมนุษย์อาจดีหน่อยก็เป็นสัตว์ ต่างๆหนักหน่อยก็เป็นเปรตอสุรกายหนักกว่า ก็อยู่ในขุมนรกซึ่งมีขุมใหญ่แต่ละขุมใหญ่ยัง แตกแยกออกเป็นหลายๆขุมซึ่งกล่าวมานี้รวม เป็นนรกทั้งสิ้นจ๊ะ การเกิดเป็นมนุษย์มีหน้าที่ สองอย่างคือทำความดีและทำความชั่วต้องอยู่ที่ เราแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ก็ต้อง มาเกิดเป็นมนุษย์จ้า ใช่แล้วชีวิตคนเราก็แค่ นี้เองแหละจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 23:43 น. - comment id 907175
คุณ โคลอน ทุกๆคนจะดีหรือชั่วอยู่ที่ใจเราครับ ใจเป็น ประธานที่จะนำส่งไปยังขันธ์ห้าครับ ใจนั้นประกอบ ด้วยจิตและเจตสิกเพราะทั้งสองอย่างนี้ไม่อาจจะอยู่ นิ่งเฉยได้ชอบสอดรู้สอดเห็นเปรียบดังลิงย่อมไม่ อาจอยู่เฉยๆได้ต้องบังคับไว้นั่นแหละครับ จิตกับ เจตสิกคนละอย่างกันนะครับ จิตเป็นผู้สอดส่าย ดิ้นรนจากอายาตนะนั่นแหละ ส่วนเจตสิกก็ เหมือนเงาของจิตมันจะจดไว้ทุกขณะของจิตแล้ว ก็ส่งไปที่ใจของเรา ใจเราก็ส่งไปยังขันธ์เพื่อ ปรุงแต่งเกิดเป็นอารมณ์สู่ยังวิญญาณเราครับ โอ้ยเอามาพร้าวมาขายสวนหรือเปล่าหนอ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 23:49 น. - comment id 907179
คุณ เพียงพลิ้ว หลานกานต์ที่รัก อย่าพึ่งโกรธแง่งอนนะที่ ข้ามไปหน่อยเพราะตอบกระทู้ดึกเกือบเที่ยงคืนจ๊ะ สายตามเลยไม่ค่อยดี ขอบใจหลานรักมากจ้า รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
24 ตุลาคม 2551 23:52 น. - comment id 907180
คุณ มณีจันทร์ ขอบใจมากจ้าเจ้าหญิงคนสวย รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2551 00:04 น. - comment id 907185
คุณ ยาแก้ปวด จ้าหลานรัก ขอบใจยิ่งนักแต่ที่บ้านผมยัง ร้อนอยู่เลยจ้าต้องเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืนเลยล่ะ เดี๋ยวฝนก็ตกอีก แต่อิอินอนต้องใส่เสื้อสามตัว เลยล่ะ คนแก่ก็อย่างนี้แหละยิ่งแพ้อากาศอีกด้วย รักเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2551 13:18 น. - comment id 907373
มันก็เป็นความจริง ที่แม้จะหลีกลี้หนีอย่างไร หรือก้มหน้าก้มยอมรับ จะอย่างไรก็หนีไม่พ้นค่ะ
25 ตุลาคม 2551 16:24 น. - comment id 907405
คุณ ฟา นานแล้วซินะที่ไม่ได้เจอกันเสียนาน ใช่แล้ว ทุกๆคนย่อมหลีกหนีไม่พ้นไปได้ครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.