ณ กระท่อมห้อมหมอกในซอกผา คืนนภาไร้ดาวคราวอับแสง รันทดท้อรอวันฝันเปลี่ยนแปลง มิอาจแย่งแบ่งใครให้จากกัน แม้นสูญสิ้นดินฟ้าอย่าสิ้นรัก ช่วยพิทักษ์รักษาสัญญามั่น สองดวงใจไหลร่วมหลอมรวมพลัน คือความฝันสัญญาต่อฟ้าดิน รักของเราเงาฝันจันทร์ในน้ำ กระเพื่อมซ้ำกล้ำกรายกลับหายสิ้น เพียงเฝ้ายลบนฝั่งทั้งชีวิน เกินจะดิ้นถวิลหมายจะได้ครอง จะเก็บฝันวันวานอันหวานชื่น เก็บห้วงคืนรื่นรมย์สมสนอง ในอ้อมแขนแสนอุ่นหนุนประคอง คืนหนาวล่องสองเราใต้เงาจันทร์ เคยหวั่นหวั่นวันหนึ่งมาถึงแน่ วันท้อแท้แพ้พ่ายคลายจากฝัน เมื่อสายใยใจอื่นฟื้นสัมพันธ์ ดั่งโทษทัณฑ์วันนี้ที่ต้องเจอ ยอมดื่มด่ำคำชายผู้พ่ายแพ้ แม้ใจแย่แก้ไขได้เสมอ เพียงเขานั้นมั่นคงหลงรักเธอ พี่นะเออสุขแล้วนะแก้วตา ฝากฝัน ๖ ตุลาคม ๒๕๕๑
6 ตุลาคม 2551 22:16 น. - comment id 902904
สวัสดีครับ... แหม...ออกแนวพระเอกมาแต่ไกลเลยนะ ครับ ดีใจที่ลงกลอนใกล้ๆกัน แต่ก็น่าอายนะครับ.....กลอนของฝากฝัน สุดยอดจริงๆครับ โอ.เค.ครับหลับฝันดีนะครับ
6 ตุลาคม 2551 22:40 น. - comment id 902913
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่าง พอว่างก็ต้องเข้ามาหา กลอนอ่าน แหม โชคดีจริง ก่อนนอนได้อ่านกลอนเพราะๆ ของคุณ คงหลับฝันดี เป็นแน่ สบายดีนะครับ
6 ตุลาคม 2551 22:41 น. - comment id 902914
ณ กระท่อมห้อมหมอกในซอกผา มาตามหาฝากฝันพลันได้เห็น นั่งกอดเข่าเจ่าจุกทุกข์ลำเค็ญ รำพันรักที่เร้นไปจากใจ ....เขาจากไปมีความสุข เราก็สุขด้วยนะ...ไปกลับบ้านเถอะ มานั่งรำพันอยู่ด้าย..
6 ตุลาคม 2551 23:24 น. - comment id 902934
รักดั่งเงาจันทร์ ....ลับลา กลับมาเยือน ................. คุณลุงวันนี้แต่งกลอนเศร้ามากมายเลย แต่ก็ไพเราะมากค่ะ
6 ตุลาคม 2551 23:50 น. - comment id 902940
เพราะมากเลยค่ะ ช่างเหมือนตัวเองในตอนนี้เลย น่าเป็นกำลังใจให้นะคะ ถึงเขาจะไปมีใครใหม่ เรารักเค้า เราก็เป็นสุขแล้วที่คนที่เรารักมีความสุขนะคะ
7 ตุลาคม 2551 01:41 น. - comment id 902943
รักดั่งเงาจันทร์ ไหวหวั่นใจหวิว ลมพัดปลิดปลิว ลอยลิ่วหายไป....... ยามเดือนเลือนลา จากฟ้าคราใด น้ำตารินไหล ใต้แสงแห่งจันทร์ ???????
7 ตุลาคม 2551 08:13 น. - comment id 902962
มาป้วนเปี้ยนเวียนดูรักว่าเหตุใดรักจึงประดุจเงาจันทร์
7 ตุลาคม 2551 08:49 น. - comment id 902987
ฮั่นแน่.... มาแนวหวานตลอด เอาข้อมูลดวงจันทร์มาฝากครับ ระยะจุดใกล้โลกที่สุด: 363,104 กม. ระยะจุดไกลโลกที่สุด: 405,696 กม. อัตราเร็วเฉลี่ยในวงโคจร: 1.022 กม./วินาที ระยะทางเฉลี่ยจากโลกถึงดวงจันทร์ 384267 km รักของคุณฝากฝัน (กะคัยก็มะรุ) น่าจะยาวกว่า 384267 km เพราะวัดจาก ซอกผาลึกๆ ต่ำกว่า ระดับน้ำทะเล....ถึง...หุบผาลึกๆ บนดวงจันทร์ แวะมาแซวตอนเช้าๆครับ
7 ตุลาคม 2551 09:26 น. - comment id 903000
:) ดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง อ่านแล้วได้อารมณ์นั้นเลยน่ะเนี่ย..
7 ตุลาคม 2551 10:03 น. - comment id 903012
คนที่พี่ฝากฝันเขียนถึง เป็นสมาชิกคนหนึ่งในบ้านกลอน ใช่รึป่าวค๊า.....วานบอก ๆๆ
7 ตุลาคม 2551 10:11 น. - comment id 903019
รักดั่งเงาจันทร์อันทอแสง สะท้อนแรง ณ ผืนนทีสาย คลื่นกลบกระทบกลาย รักมลายกลายเป็นเงา........
7 ตุลาคม 2551 10:21 น. - comment id 903020
เลือดนองที่หร้ารัฐสภาวันนี้ ยังมารักดั่งเงาจันทร์อยู่หรือคะ ใจร้ายแท้ๆ
7 ตุลาคม 2551 10:35 น. - comment id 903022
ขอหลบข่าววุ่นวายสลายม็อบ มาดูเรื่องราวรักหวาน ๆ ของคนในบ้านกลอน อีกรอบ ๆ อิอิ เฉลยได้ยัง...ใครเอ่ย
7 ตุลาคม 2551 12:18 น. - comment id 903047
iรักเอย..จริงหรือที่ว่าหวาน..หรือทรมาณใจคน.. ร้องเพลงให้ฟังค่ะ แวะมาอ่านบทกลอนที่ไพเราะค่ะ
7 ตุลาคม 2551 13:55 น. - comment id 903089
ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะว่าจะมีชายเช่นนี้ อิอิ
7 ตุลาคม 2551 19:43 น. - comment id 903194
เฮ้อ สวนกระแส เศร้าจัง หากแต่บ้านเมืองวุ่นวายจังค่ะ
7 ตุลาคม 2551 21:26 น. - comment id 903229
...มาอ่านกลอนเพราะๆ เคล้าเสียงเพลง... ..รักหนอรักไม่จริง...ใช่แล้วรักไม่จริง... ...หวัดดีครับพี่ฝากฝัน กิ่งโศก..ยุ่งกะงาน ไม่เห็นเดือน เห็นตะวัน...เงาจันทร์ยังไม่เห็นเลย.. ..พอเข้าบ้านเกือบหาทางเข้ามะถูก..อิอิอิ...
8 ตุลาคม 2551 04:54 น. - comment id 903250
ไร้รักในเงาจันทร์ มีแต่ฝันที่สลาย สิ่งที่เสียให้นาย คุ้มหรือไม่เพื่อใครกัน??? เมื่อมีอุดมการณ์ แมงเม่าลาญสิ้นชีพพลัน กับไฟผลาญชีวัน ไร้มนุษยธรรม โหดเหี้ยมอำมหิต ค่อยค่อยปลิดชีวิตซ้ำ คราบเลือดคือระกำ คือน้ำตาประชาชี เพียงเพื่อให้ได้ปลด เขาวงกตดอมินี ฤๅต้องสิ้นชีพนี้ เสียเลือดพลีเป็นเดิมพัน ขออภัยค่ะ ที่เขียนมาอย่างนี้ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่เขียนอย่างอื่น สับสน สงสัย เบื่อหน่าย เศร้าตรม ทุกข์ทับ ถั่งถม ระทม ฤดี
8 ตุลาคม 2551 07:07 น. - comment id 903256
มาพักผ่อนกับการอ่านบทกลอนที่งดงาม พร้อมบทเพลงที่ไพเราะครับผม ความงดงามของบทกลอน ทำให้คิดถึงพี่พุดไพรขึ้นมาทันที ขออนุญาตคัดลอกมานะครับ............. นานเท่าไรแล้วหนาฟ้าสีโศก โลกทั้งโลกเหน็บหนาวเศร้าปานนี้ เพราะหลงทางขวัญคว้างร้างฤดี หวังคงมีใครสักคนบนทางใจ เศร้าลำพังลึกลึกเกินนึกนับ กับการรอสายน้ำวนกลับเริ่มต้นใหม่ วันที่ดวงดอกไม้หวานหอมมารำไร วันที่เจ้านกไพรหวนคืนรัง ตราบสายนทียังระรินร่ำ งามบานฉ่ำจันทร์พูนดวงมิสิ้นหวัง ดวงตะวันยังรักฟ้าฝากพลัง ประดุจดั่งใจดวงนี้ที่เฝ้ารอ.....!