แสงตะวันเหลื่อมลายระบายฟ้า บอกร่องรอยกาลเวลาจะลับล่วง โลกจะเคลื่อนความจริงสิ่งทั้งปวง ให้ตักตวงความฝันวันเวลา แลประหนึ่งวิถีธุลีโลก วนสุขโศกประดับลวงห้วงยะถา คืบคลานรอยชีวิตลิขิตพา อหังการ์เขลาโง่และโสมม ห้วงวัยวันผันผ่านกาลชีวิต วาดถูกผิดใดสดับใจทับถม สามัญแห่งดำริอันนิยม ขับอารมณ์มารยาเพียงสาใจ จากวัยวันผันผ่านการเกิดก่อ เขลาพะนอปลอบปลุกยุคสมัย โลกวันนี้ที่เห็นความเป็นไป เรียนรู้ใดลึกซึ้งถึงชีวิต ดวงตะวันจะลับแสง ความเปลี่ยนแปลงเคลื่อนเงาเข้าสถิต วัยและวันล่วงวิถีทีละนิด จะครุ่นคิดใดสร้างบนทางนั้น แสงสุดท้าย กับบั้นปลายงดงามแห่งความฝัน กาลวิถีลับล่วงดังดวงตะวัน เจิดนิรันดร์คือความดีที่แสดง ............................ โดยคำ ลานเทวา
3 กันยายน 2551 12:04 น. - comment id 892195
แสงเรื่อเรื่องก่อกำเนิดสรรพชีวิต ไล่สีสิทธิ์แต่งแต้มรุ้งท้อสี ผลานผล่ากาลเวลาฆ่าราตรี เพื่อทอสียืนยัดอย่างมั่นคง อ่อนแรงโรยราเมื่อฟ้าเปลี่ยน โลกหมุนเวียนตามยถาที่เที่ยงตรง มิอาจฝืนยืนหยัดอย่างทะนง มีแต่มอดดับลงอย่างอาวรณ์
3 กันยายน 2551 12:21 น. - comment id 892200
ขอแสงนั้นส่องสว่างสู่กลางใจไทยทั้งผอง
3 กันยายน 2551 13:01 น. - comment id 892218
ขอความดีจงหยัดยืน และไทยจักผงาดอีกครั้งด้วยใจของนักสู้ทั้งหลาย แวะมาอ่านกลอนค่ะ
3 กันยายน 2551 13:57 น. - comment id 892240
ดูไกลจังเลย... ...แต่ก็อยากจะให้เป็นจริงนะ
3 กันยายน 2551 18:27 น. - comment id 892339
รีบทำความดีก่อนแสงแห่งชีวิตจะมอดดีกว่าค่ะ
4 กันยายน 2551 00:19 น. - comment id 892441
ใช่ค่ะ..สุดท้ายเหลือแต่ความดีเท่านั้นที่ยังอยู่
4 กันยายน 2551 03:34 น. - comment id 892459
ให้ความหมายดีค่ะ