อันงานศิลป์ถิ่นกวีที่ก่อเกิด มีกำเนิดจากอารมณ์ผสมฝัน ร้อยลำนำคำกลอนตอนรำพัน บทประพันธ์เริ่มเรื่องดำเนินไป บางอารมณ์มีเศร้าเหงาสุดสุด เขียนจี้จุดใจตนทนไม่ได้ น้ำตานองใบหน้าระอาใจ นั่งร้องไห้หลายราตรีวจีวอน บางอารมณ์บอกเหงาและว้าเหว่ จึงถ่ายเทอารมณ์เป็นอักษร เรียบเรียงคำเหงาเหงาเป็นบทกลอน เพื่อสะท้อนความจริงที่จ่อมจม บางอารมณ์ผิดหวังจากความรัก บอกจะหักใจลาความขื่นขม ลาแล้วขอลาทีความระทม ด้วยอารมณ์เหงาหงอยเหมือนน้อยใจ บางอารมณ์ชื่นชมธรรมชาติ อักษรวาดสาดคารมดูลื่นไหล เขียนโคลงกลอนเพื่อสะท้อนความในใจ ให้คนได้เห็นงามตามคำกวี บางอารมณ์สมหวังในความรัก บอกแน่นหนักในคำกลอนอย่างเต็มที่ ว่ารักแล้วแสนสบายในฤดี สุขชีวีชื่นใจใครจะเกิน บางอารมณ์เขียนกลอนสะท้อนจิต บอกมวลมิตรคิดเตือนแต่เนิ่นเนิ่น เป็นปรัชญาสอนใจและเชื้อเชิญ เป็นกลอนเกริ่นคำคมประโลมใจ บางอารมณ์เริ่มกลอนตามใจคิด โดยประดิษฐ์กลอนกานท์เป็นงานใหญ่ ร้อยอักษรเรียงคารมด้วยหัวใจ หวังไว้ในโอกาสพิเศษวิเศษจริง บางอารมณ์เกริ่นกลอนงอนนิดหน่อย เพียงรอคอยกำลังใจไม่หยุดนิ่ง เขียนรำพันเพ้อจำคำท้วงติง เพื่อเป็นสิ่งสร้างเสริมประสบการณ์ บางอารมณ์ขมขื่นฝืนขีดเขียน เฝ้าแวะเวียนหากลอนตะลอนอ่าน เริ่มเขียนใหม่หลายทีมีผลงาน แต่ไม่ผ่านการเม้นท์น่าเห็นใจ อันงานศิลป์ถิ่นกวีที่ก่อเกิด มีกำเนิดจากอารมณ์ที่อ่อนไหว ร้อยลำนำเรียงอักษรอยู่เรื่อยไป ด้วยหัวใจและอารมณ์ของกวี ฯ
20 สิงหาคม 2551 00:29 น. - comment id 887842
ตรงใจผมมากครับ งามจริงๆๆ
20 สิงหาคม 2551 01:21 น. - comment id 887850
แอบมาอ่านงานงามยามดึกๆ ให้รู้สึกนึกรักเพื่อนนักกลอน เพียงผ่านมาแค่กระเซ้าใช่เว้าวอน ใช่ออดอ้อนพรอดพร่ำรำพันหวาน... ......น้านนนนน ไปโน่นเลยเรา ฉางน้อย 55555 ...แหะ..แหะ.. คุณอรุโณทัยอย่าถือสานะเจ้าคะ อิอิอิ
20 สิงหาคม 2551 06:39 น. - comment id 887873
ใช่ค่ะ อยากระบายออกมาเป็นภาษากลอน บางครั้ง อ่านกลอนของคนอื่นก็ช่วยให้ อารมร์ดีขึ้นค่ะ แต่ถ้าถามว่าชอบอ่านกลอนประเภทใด มากที่สุด ขอตอบว่า กลอนชมธรรมชาติค่ะ อ่านแล้วสบายใจจริงๆ และกลอนประเภท ใช้ภาษาสวยงามค่ะ จะชมความงามทาง ภาษาไปด้วย เพลิดเพลินใจดีมาก
20 สิงหาคม 2551 07:37 น. - comment id 887881
เป็นเช้าที่ดีมากๆเลย อ่านอารมณ์กวีแล้ว วันนี้คงมีอารมณ์ทำงาน งานหนักจนแทบไม่มีเวลาพักเลยค่ะ แต่ต่อให้นอนดึกก็ยังลุกมา อ่านกลอนงามๆได้ มอบให้ค่ะลึกซึ้ง
20 สิงหาคม 2551 08:48 น. - comment id 887908
รจนาจนได้นามอัญมณีแห่งไพรพฤกษ์ งามรู้สึกลึกล้ำเกินใดหนอ ด้วยรักธรรม ธรรมชาติรู้เพียงพอ อธิษฐานขอเกิดเป็นกวีศรีชาติทุกภพไป ............................ มาอ่านงานยอดเยี่ยมในยามอรุณรุ่งค่ะ ทิวาสวัสดิ์นะคะ รักน้องและชื่นชม
20 สิงหาคม 2551 09:14 น. - comment id 887916
ชอบอ่านมากเลยค่ะ ประมาณว่าทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์ ชื่นชมค่ะ
20 สิงหาคม 2551 09:18 น. - comment id 887918
....เห็นทีจะเป็นเช่นนั้นจริงครับ
20 สิงหาคม 2551 10:58 น. - comment id 887942
เขียนกลอนให้ได้อย่างอารมณ์ ทำไม่ได้เลยจริงค่ะ
20 สิงหาคม 2551 12:48 น. - comment id 887973
ขอบคุณมากครับ สำหรับเส้นทางในการเขียน รับรู้และสัมผัส ถึงอารมม์กวี "ยินดีที่ได้อ่านงานเขียนดีๆครับ"
20 สิงหาคม 2551 15:08 น. - comment id 888019
หลากอารมณ์เลยนะคะ...
20 สิงหาคม 2551 18:53 น. - comment id 888108
อารมณ์แปรปรวนค่ะ อิอิ ตัวเองนะค่ะ ลม ๆ แล้ง ๆ
20 สิงหาคม 2551 20:57 น. - comment id 888151
แวะมาทักทายด้วยอารมณ์ นิ่ง เย็น สบาย ผ่อนคลายค่ะ
20 สิงหาคม 2551 21:04 น. - comment id 888155
มาอ่านงานเขียนที่ไพเราะ มาดูอารมณ์ของกวีด้วยครับ
21 สิงหาคม 2551 15:01 น. - comment id 888474
กลอนพาไปก็เยอะ ตกน้ำตกท่า...ตกม้าตายตอนจบ.. ไม่ต้องดูใคร ตัวเองล้วนๆ ... :) ขึ้นต้นอารมณ์หนึ่ง แต่ไปจบคนละเรื่องเงี๊ยะ ประจำเลย...