ฉากที่ 3 ชรางานในบ้านเช่า เมื่อชาวนาจากนามาย่ำกรุง ลมชายทุ่งเคยพัดก็เลยผ่าน กรรมกรห้ามแบกแอกแรงงาน เพราะไม่ผ่านการศึกษาปัจจุบัน จะบวกเลขลบหารการเสมือน คงนับดาวล้านดวงในห้วงฝัน รู้ทั้งรู้ว่าตัวไม่มีวัน ก็ไม่รั้นไม่ดื้ออือออตาม สีผมดอกเลาเล่าเรื่องราว เป็นเรื่องยาวชาวนาที่ฝ่าข้าม จากท้องทุ่งมุ่งสู่เมืองงดงาม เพราะคนทรามทำร้ายไม่ใยดี จึงจากจรดอนดงพงพนา สู่เมืองฟ้าว่าหวังวันสดศรี ใช้ชีวิตที่เหลือพนาลี เมืองคอนกรีตแห่งนี้จะเยียวยา ร่างชรากรำงานชั่วชีวิต เจือสารพิษทั่วร่างไม่รักษา เนินนานวันพิษร้ายกำเริบมา ร่างชราจึงล้ากว่าควรเป็น ตาคำสอนนอนซมในห้องอับ ไม่อาจจับสิ่งของที่ตนเห็น ยายคำสีจึงต้องคอยบำเพ็ญ ซับน้ำเย็นคลายร้อนผ่อนบรรเทา ยายคำสี นอนพักเหนื่อยเถิดหนาพ่อเอ๋ย ใจเสบยคืนวันอย่าอับเฉา ฉันนี่แหละจะเลี้ยงซึ่งสองเรา พ่อจงเบาวางใจอย่ากังวล เมื่อไม่อาจทำงานประจำได้ นายจ้างไล่เฒ่าสองให้ออกพ้น ยายคำสีต้องสู้ลำบากทน เลี้ยงสองคนทนทุกข์เวทนา เริ่มร้องเพลงมรดกถิ่นอีสาน บรรเลงตามถิ่นร้านย่านการค้า ขายเสียงเพลงเพื่อแลกกับเงินตรา ในนานว่าวนิพกพเนจร ใช่ขอทานแต่คือศิลปะ เป็นมรดกตกทอดอนุสรณ์ ร่ายบรรเลงมนต์เพลงหมอลำกลอน เซิ้งรำฟ้อนลีลาให้คนชม ขอเพียงเงินสักบาทหยิบยื่นให้ เป็นแรงใจนำพาให้สุขสม ขอชีวิตข้างหน้าคลายระทม ไม่ร้องอินทร์ร้องพรหมให้ระคาย สะสมเงินทุกบาทจากหยาดเหงื่อ เก็บไว้เพื่อรักษาพ่อให้หาย แล้วมุ่งหน้ากลับคอนก่อนตนตาย ลมสบายบ้านนาอ้อนรับขวัญ
4 สิงหาคม 2551 23:30 น. - comment id 882508
อ่านวิถีชาวนาสบายใจจังเลยคะ คิดถึงวิถีที่สบายๆๆไม่เร่งรีบร้อนไปไหนไม่ต้องแข่งขันกัน ชอบคำตอบ...ยายคำสี..
4 สิงหาคม 2551 23:48 น. - comment id 882518
สมันก่อน ตอนเด็กชีวิตชาวนาเรียบง่ายโดยแท้ ปัจจุบันไม่รู้ว่าเทคโนโลยีได้เข้าไปทำลายกลิ่นอายลูกทุ่งแค่ไหนแล้วเหมือนกัน
5 สิงหาคม 2551 07:05 น. - comment id 882583
มีรถไถนา มีรถเกี่ยวข้าว บรรยากาศการนวดข้าว ล้อมวง....ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว คิดถึงจัง...เวลาพ่อกับแม่และผู้ใหญ่นวดข้าว จะซัดฟาง...กองใหญ่..เคยไปเล่นซ่อนแอบ สนุกสานาเชียว...เดี๋ยวนี้..ไม่มีให้เห็นแล้วค่ะ
5 สิงหาคม 2551 08:01 น. - comment id 882601
แวะมาอ่าน เห็นภาพชีวิต ที่ไม่ค่อยได้เห็นค่ะ ยอดเยี่ยมเลย
8 สิงหาคม 2551 11:18 น. - comment id 883926
ขอใบคุณทุกคนนะครับที่ยังไม่ลืมกฤตศิลป์