เสียงนกป่ากาไก่เรียกให้ตื่น ลมพลิ้วผืนยอดข้าวยามเช้าสวย อากาศเย็นสบายพระพรายโชย กรุ่นปลายโปรยกอข้าวผลิรดอกรวง ม่านฟ้าใกล้เปิดรับแสงระวีส่อง ไก่นกร้องก้องไพรคล้ายในฝัน หรือตั้งใจจะร้องแข่งขันกัน เรไรสั่นกรีดกายคล้ายโดนตรี มองแมกไม้ไหวพลิ้วพระพรายฉิว เสียงหวีดหวิวตามคลื่นลมโลมลูบไล้ ฤาเป็นเสียงดนตรที่กล่อมไพร ธรรมชาติมอบให้ได้รื่นรมย์ เห็นผึ้งน้อยลอยบินกินน้ำหวาน ที่ผลิบานจากรวงข้าวเป็นเป้าหมาย ดอกไม้ป่าสร้างสีสรรหอมทั่วไพร มวลแมลงเซาะไซร้ตามใจตน กลิ่นเกษรมาลีที่ยวนเย้า หลอกให้เฝ้าชื่นชมเสน่หา จนคร่ำครวญชวนฝันคู่อุรา เคียงข้างพาสร้างขวัญกำลังใจ....... ไม่ได้หมายปองนวลนางสรวงสวรรค์ หาได้ฝันเกินใจปรารถนา เพียงใจเดียวที่ยอมให้บูชา เห็นคุณค่าความรักด้วยภักดี
25 กรกฎาคม 2551 05:58 น. - comment id 878426
วางกลอนได้ดีแล้วนี่นา.. แต่พี่ขาดูอีกนิดหนึ่งนะคะ กลอนเนื้อหา นะคะ แต่ยังขาดการสัมผัสระหว่างบทค่ะ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ จะต้องสัมผัสคำสุดท้ายของวรรคที่๒ ในบทถัดไปนะคะ เช่น เสียงนกป่ากาไก่เรียกให้ตื่น ลมพลิ้วผืนยอดข้าวยามเช้าสวย อากาศเย็นสบายพระพรายโชย กรุ่นปลายโปรยกอข้าวผลิรดอกรวง คำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ คือ รวง จะต้องสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ไก่นกร้องก้องไพรคล้ายในฝัน ซึ่งก็คือคำว่าฝัน....แต่ของพี่ไม่สัมผัส.. ปรับอีกนิดหนึ่ง..รับรองสวยค่ะ
26 กรกฎาคม 2551 00:27 น. - comment id 878834