ลงรถเมล์แน่นขนัดใจขาดดิ้น เดินผ่านวินมาข้ามคลองน้ำเน่า หน้าเปียกเหงื่อเปื้อนงานเป็นมันเงา พายกระเป๋าร้อยเก้าเก้าเดินเข้าซอย จบ ม.หกก็เห็นเป็นสาวห้าง ยืนเฝ้าบูธเครื่องสำอางช่างดูด้อย ลิปรองพื้นครีมแป้งแพงเลิศลอย คนเงินน้อยได้แต่มองไม่ลองทา ปรากฏสองไฮโซสาวพราวเสน่ห์ มาดโก้เก๋แลดูช่างหรูหรา เดินผ่านบูธประสานมิตรด้วยหางตา ทำลอยหน้าถามเรื่องเครื่องสำอาง ฉันคนโง่มีคำตอบมอบคำถาม แต่ขาดความรู้รอบตอบติดบ้าง เขาหยามหยันเหมือนขยะตามข้างทาง คำพูดช่างรุนแรงแทงขั้วใจ -------- เปิดประตูผุพังย่างเข้าห้อง แบกความหมองโศกสลดไม่สดใส เสร็จอาบน้ำดึกดื่นปิดฟืนไฟ ก็ติดค้างข้างในแม้ยามนอน คำว่าพวกบ้านจนยังวนวิ่ง ท่าทางหยิ่งตอกย้ำตามหลอกหลอน เดินมาปิดประตูบ้านแล้วลั่นกลอน ป้องกันโจรคนจรรุกทำลาย แต่ความคิดนิดหนึ่งพอถึงหมอน ไร้กรอบกลอนมาล็อกไว้จึงใจหาย ปล่อยคำคนเหยียดหยันอันตราย มาเวียนว่ายวูบวาบให้คับเคือง จริงสิเธอนั้นสวยรวยและเก่ง ตัวฉันเองโง่ง่ายเหมือนควายเชื่อง แอบร้องไห้ในห้องน้ำอยู่เนืองเนือง แสนเปล่าเปลืองน้ำตาราคาเยา ไม่มีความสามารถอัจฉริยะ ฉันก็กลายเป็นขยะในตาเขา เขาจบนอก เราจบนา ปัญญาเบา แค่รองเท้าก็ซึ้งตาว่าต่างกัน คนบ้านจนไร้หัวใจหรือไรหนอ โทรมมอซอนอนสลัมช่างต่ำชั้น มีหน้าที่รับใช้ไม่เว้นวัน เขามองฉันเป็นคนหรือเป็นควาย โง่ดักดานเทือกเถาเหล่าบ้านนอก แสนกระจอกสมองมดหมดความหมาย ไม่รู้กรอบรู้เกณฑ์ช่างน่าอาย ไม่รู้คลาสความฮายหรือพวกโล เสียเวลาสอนมันเรียน ป๊ะ เปลี่ยนบูธ ทำหน้าบูดเบะปากอย่างโมโห พวกสลัมต่ำต้อยซอยโลโซ แสนงอกง่อยเง่าโง่ชั้นแรงงาน "รู้ไม่เท่า เทียบไม่คิด คิดไม่เหมือน ไม่นับเพื่อนนับมิตรคิดประสาน เรียนมาน้อยก็ถ่อยถิ่นชั้นดินดาน อีพวกบ้านใส่กลอนสนิมกิน ไร้ห้องชุดรูดการ์ดผงาดฟ้า ถือว่าค่าของคนมันป่นสิ้น ความรู้ต่ำกระดำกระดากมาจากดิน" เธอรัวลิ้นปลิ้นกระดูกดูถูกคน ---------- มองดูรูปพ่อแม่แปะข้างฝา ไร้กรอบทองงามสง่าเลอค่าล้น ชีวิตหนูไร้กรอบเกณฑ์เป็นคนจน จบ ม.ต้น ม.ปลาย สายสามัญ ไม่มีกรอบปริญญาทองฝังเพชร ไม่เด่นเด็ดไปเหยียดหยามทำเย้ยหยัน หนูไม่เคยหมิ่นกมลคนด้วยกัน ว่าต่ำชั้น สูงชน คนหรือควาย เหมือนแท็กซี่สีไหนใหม่หรือเก่า ก็พาเราเร่งรุดถึงจุดหมาย อันคนเราถูกแพงเพียงแต่งกาย รสนิยมโลฮายก็เดินดิน ถึงไม่มีห้องชุดรูดการ์ดเข้า ห้องน้อยน้อยซอยน้ำเน่า อย่าติฉิน ประตูไร้เครื่องแสกนฟิงเกอร์ปริ๊นต์ ถึงจะกลอนสนิมกิน ก็บ้านกู - - - - - - - เพ้อเจ้อเขียนเป็นบทเป็นกลอนไปได้ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้แก่ สาวๆ กรรมกรแก้มแดง และผู้ใช้แรงงานทุกคนนะครับ เข้าใจคนที่มีอาชีพที่ต้องทนรับแรงกดดัน สำหรับเพื่อนๆที่ถูกใครดูหมิ่นเหยียดหยาม ก็ขอให้มีแรงใจที่จะสร้างสรรค์ ทำความดีต่อไปนะครับ ถึงสิ่งที่เราทำ มันจะไม่เลิศลอย หรือยิ่งใหญ่ แต่ก็ภูมิใจ ที่ไม่ได้ไปนั่งทำบนหัวใครนะครับ
9 กรกฎาคม 2551 19:42 น. - comment id 871112
กรรมกรแก้มแดง ต่าย อรทัย สาวรากหญ้า เข้ามาขายแรงเมืองใหญ่ แต่งตัวเหมือนเป็นเจ้านาย แต่อยู่ฝ่ายให้บริการ เดินทางมาจากบ้านนอก ทำงานหนักเงินเดือนหลักพัน ตากแอร์ในที่ทำงาน กลับเมือบ้านนอนห้องพัดลม ...... เหนื่อย ห้าม ท้อ หน้างอเงินเดือนบ่ออก ท่องคำเจ้านายเพิ่นบอก ยิ้มให้ออกถึงใจซานซม แอบร้องไห้ในห้องน้ำ เมื่อโดนคำย่ำใจขื่นขม คนจนล่ะบ่มีสิทธิ์จ่ม ซ่อนอารมณ์หลังรอยยิ้มงาม ..... แก้มใสบ่ให้ตกสี ทำหน้าที่บ่ให้ตกค้าง รับใช้จึงได้รับตังค์ ต้องใช้กำลังทุกงานที่ทำ เป็นกรรมกรแก้มแดง ขายแรงในชุดงามๆ ตามร้านตามห้างตามปั๊ม มีเพื่อนเราทำทุกตำแหน่งงาน ..... เก็บ ใจ มั่น อดออมทุกวันทุกอย่าง ของใช้ก็ซื้อนอกห้าง จึงพอมีตังค์ส่งให้ทางบ้าน ส่วนคนเป็นคู่เคียงใจ น้องเรียนจบจึงค่อยคิดกัน ฟังเพลงลูกทุ่งปลอบฝัน ให้ใจก้าวผ่านวันบ่มีแฟน....
9 กรกฎาคม 2551 19:49 น. - comment id 871116
ทุกคนเกิดมา...ศักดิ์ศรีของความเป็นคน..ย่อมเท่าเทียมกัน... คนเห็นคน ไม่ใช่คน ใช่คนไม่ อยู่ที่ใจ สูงหรือต่ำ ถ้อยคำหนา คนจะดี อยู่ที่ใจ ใช่เงินตรา เพียงกายา ปลิ้นปลอก คำหลอกลวง...ฯ น้องกี้...เขียนได้ดีค่ะ...คิดถึงนะจ๊ะ
9 กรกฎาคม 2551 21:16 น. - comment id 871129
สวัสดีครับ...เป็นอีกแนวกลอนที่ผมชอบอก ชอบใจ ตั้งใจอ่านแบบจดจ่อ...กลอนง่ายๆ ภาษาสบายๆแน่นเนื้อหา น่าอ่านืจะติดตามต่อไปครับ
10 กรกฎาคม 2551 07:57 น. - comment id 871219
อ่า...ถึงจะโลโซก็มีสายตาที่เปิดกว้างน่ะ
10 กรกฎาคม 2551 08:17 น. - comment id 871233
สะท้อนและเสียดสีสังคมได้ถึงแก่นเลยค่ะ
10 กรกฎาคม 2551 08:59 น. - comment id 871259
กรรมกรแก้มแดง(หน้าดำ)มาแล้วจ้ะ
10 กรกฎาคม 2551 13:15 น. - comment id 871356
10 กรกฎาคม 2551 13:47 น. - comment id 871380
บ้านพี่ก็มีกลอน แต่ไม่ใส่ เพื่อไว้ ให้หนุ่ม ๆ เข้ามาง่าย ๆ เอิ๊ก ๆๆๆ ล้อเล่นนะ อย่าไปคิดจริงอ่ะ ฮิ้วววววววววววววว
10 กรกฎาคม 2551 15:46 น. - comment id 871439
มาแอบแงะบ้าน อ่านกลอน ครับ ^ ^
10 กรกฎาคม 2551 17:13 น. - comment id 871480
แวะมาอ่าน...หมองเห็นแก่นของคนอีกด้านหนึ่งขอบคุณค่ะ..
11 กรกฎาคม 2551 18:00 น. - comment id 872063
..... ว๊าว .. สุดยอดเลยอ่ะค่ะ วิสกี้ ชอบจัง ... ม่ายด้ายทักทายนานเลย วันนี้อุ๊ มากลอนยาวๆของวิสกี้ อยากบอกว่าอ่านจบ นะ .... หุหุ ...
25 กรกฎาคม 2551 21:17 น. - comment id 878753
ใครจะเป็นไฮโซโก้แต่เกิด ใครจะเริ่ดก็ปล่อยมันไม่ต้องสน ค่าของเราใช่ยากดีหรือมีจน ค่าของคนอยู่ที่ผลการกระทำ ยิ่งทำเมินยิ่งบ่งบอกว่าต่ำจิต ยิ่งครุ่นคิดแต่อวดตัวยิ่งน่าขำ เราต่างใช้ชีวิตตามผลกรรม ขาวหรือดำย่อมรู้อยู่แก่ใจ คิดถึงนะพี่กี้ หยินเองค่ะ แวะมาทักทาย แต่งกลอนเพราะมากมายเลยนะ
26 กรกฎาคม 2551 05:34 น. - comment id 878884
เข้ามาอ่านค่ะ
14 มีนาคม 2552 20:30 น. - comment id 963090
อ่านเเล้วชอบมาก คนสารคามเด้อออ