เพราะชอบคำคล้องจองจึงลองอ่าน อยากเอาถ่านเหมือนเพื่อนเลื่อนมาเขียน ฆ่าเวลาคลายเครียดไม่เบียดเบียน ได้แลกเปลี่ยนความคิดจิตจำนง ในตอนแรกควานหาคำสัมผัส จับคำยัดลงผังด้วยยังหลง คิดเอาเองถูกทางวางคำตรง เดินเข้ารกเข้าพงคงเข้าตา- กรรมการคนหนึ่งบึ่งมาติ มีตำหนิทุกวรรคหลักภาษา เดินความแปร่งความเลือนเฉือนอุรา ตามทุกหน้าประทับความอับอาย แย่งสัมผัสคำซ้ำตอกย้ำเปรี้ยง ติงจนเดี้ยงเหลอหลาว่าเสียหาย ไร้ตัวอย่างหยิบยก.อกแตกตาย แก้/เปลี่ยน/ย้าย/สลับ/เปลี่ยน/ปรับ/แปลง เดินเป๋ปัดหวั่นไหวเหมือนไร้ทิศ ทางมืดมิดแต่ใจมิไร้แสง คงสักวันได้ดียังมีแรง ไม่โต้แย้งแม้เจ็บสู้เก็บงำ ต้องระแวงทุกคราหน้ามู่ทู่ คอยลุ้นอยู่มาไหมเพราะไม่ขำ ตรวจทุกถ้อยวลีตามชี้นำ ไม่ผิดซ้ำที่เดิมเสริมประเด็น คำค่อนแคะบั่นทอนดังศรปัก อาจเสียหลักเมื่อตามความคิดเห็น หวานเป็นลมขมเป็นยาไขว่คว้าเป็น พ้นลำเค็ญกลับมาแกร่งกว่าเดิม กำลังใจจากเพื่อนกลาดเกลื่อนฉุด อาจสะดุดก้อนหินแต่ดินเสริม ลุกขึ้นยืนแล้วสู้นำรู้เติม วิชาเพิ่มแถมครบประสบการณ์.. ..
24 มิถุนายน 2551 09:36 น. - comment id 865126
ถ้าเจอคนแนะนำที่ไม่มีศิลปะในการแนะนำ จากคิเพื่อก่อ..... กลายเป็นติเพื่อทำลาย แน่นอนคุณเก่งที่สู้สิ่งเหล่านั้นมาได้
24 มิถุนายน 2551 10:45 น. - comment id 865146
อีกหนึ่งแรงใจให้ทุกคน
24 มิถุนายน 2551 10:49 น. - comment id 865147
สวัสดีค่ะ พี่กุ้ง ดอกไม้และรอยยิ้มที่จริงจังมั่นคงค่ะ
24 มิถุนายน 2551 11:09 น. - comment id 865152
คำค่อนแคะบั่นทอนดังศรปัก อาจเสียหลักเมื่อตามความคิดเห็น หวานเป็นลมขมเป็นยาไขว่คว้าเป็น พ้นลำเค็ญกลับมาแกร่งกว่าเดิม เชื่อเถิดว่า..ในความชังยังมีความรักซ่อนเร้น.. ชอบนะ เป็นกำลังใจให้
24 มิถุนายน 2551 11:26 น. - comment id 865158
ว่ากันว่าดาบยิ่งตียิ่งลับยิ่งกดยิ่งคม นี่มันเอารถบทถนนมาขยี้แล้วบอกว่านี่คือการลับมีด คุณช่ออักษราลีเก่งมากๆครับที่ไม่โดนเขาทำลาย
24 มิถุนายน 2551 11:28 น. - comment id 865159
คุณเขียนดีจัง.. /
24 มิถุนายน 2551 13:58 น. - comment id 865200
กุ้งสุดที่รัก...ขอบใจมากที่ช่วยแต่งกลอนให้ แก่ช่ออักษราลีศิษย์รักผมเอง ผมเข้าไปอ่านงาน ของอิมถึงได้รู้ ที่จริงนั้นคำเลือนคำสัมผัสหรือแม้แต่ ชิงสัมผัสก็ตามก็ดีหาใช่เหตุสำคัญใดไม่ตามที่ ผมอ่านในตำราโบราณนั้นเขาเพียงกำหนด แค่ฉันทลักษณ์ไว้ในหลักการเขียนกลอนเป็น กฏข้อบังคับเท่านั้นไม่ได้กำหนดการเขียนไว้ แต่มาภายหลังปราชญ์เขามาเพิ่มเติมภายหลัง เพื่อความไพเราะ เช่นกันสัมผัสคำที่สามกับคำ ที่สี่เมื่อสัมผัสแล้วจะมีคำที่หกสัมผัสกับคำที่เจ็ด อีกเขาเรียกว่าสัมผัสซ้ำหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง เกินกว่าหนึ่งไม่งดงาม ข้อนี้ ไม่มีเกิดขึ้นภายหลัง ตามความคิดของแต่ละบุคคล ส่วนผมเองนั้น การแต่งจริงอยู่จะสัมผัสมีอยู่แต่บางครั้งก็ชิงสัม ผัสเหมือนกัน เพียงแต่เพื่อความงดงามหวาน อ่อนไหวพลิ้วไปตามอารมณ์ของคนอ่านเป็นหลัก จะคำนึงก็เพียงหลักใหญ่ๆเท่านั้นคือกฏข้อบังคับ และประกอบเข้ากับทำนอง เช่นทำนองเพลง เป็นต้น บางครั้งนั้นแม้แต่ท่านบรมครูสุนทรภู่ ท่านเองก็ยังไม่ติดยึดก็ยังมี่การชิงสัมผัสเหมือน กันนะ อย่างนิราศหรือพระอภัยมณีเป็นต้น ผม เองไม่ได้เก่งเพียงแค่เล่นเพื่อความสนุกสนาน มิได้คิดจะไปแข่งขันกับใคร และผมเองก็เจอ เหมือนลูกศิษย์ผม ผมไม่ติดยึดไม่โกรธเขา หรือเพราะเรารู้น้อยก็ไม่อาจจะรู้ได้ ผมเคย ทดลองแล้วหากกระทำตามว่านั้น กลอนมันจะ ไม่อ่อนไหว แข็งกระด้าง ไม่เร้าอารมณ์คนอ่าน ผมเองยังไม่ได้พบช่ออักษราลีเข้าไปอ่าน อีกทีตอนตอบกับอิม ผมจะเม้นท์ก็ไม่ดีจะหาว่า เป็นคนแก้ตัวให้ลูกศิษย์ผมเอง อย่างไรก็ดี ต้องขอขอบคุณอิมและกุ้งเพื่อนที่รักยิ่งไว้ ณ ที่ นี้ด้วยที่ช่วยแก้ต่างให้ คนที่เข้ามาตำหนิหรือมัก จะให้ข้อแนะนำ ปรากฏเป็นนามแฝงและไม่เคย ส่งกลอนในเวปฯไทยกลอนเลยครับ ขอบคุณ เพื่อนที่รักยิ่งมากครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
24 มิถุนายน 2551 14:47 น. - comment id 865207
คุณบุษย์ฯ อาจเป็นที่ผู้แนะนำ เป็นคนตรงไปตรงมามากเกินไป คำพูดเลยออกมายังงั้น แต่เจตนาลึกๆ คงจะหวังดีอยากให้งานออกมาดี และคิดว่าคนเขียนคนนั้นๆ สามารถทำได้..ถ้าได้รับการแนะนำที่ถูกต้อง...ตามที่ตนเองคิด.. เรื่องบางอย่างต้องมองลึกๆ น่ะค่ะ....ที่พูดได้นี่ไม่ใช่เก่งอะไรหรอก เพียงแต่มองย้อนไปในกรณีของตัวเอง....ที่เคยถูกตำหนิว่าเขียนไม่ได้เรื่อง ..ประมาณนี้...ตอนนั้นก็เศร้าเหมือนกัน ทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ๆ จะเขียนก็กลัวผิด ระแวง ระวัง สารพัด สารเพ เพราะตัวเองก็ไม่ได้รู้อะไรมาก ภาษาไทยนี่หวิดตกด้วยซ้ำ ตอนเรียนมัธยม.. แต่ภายหลังตั้งตัวได้ก็กลับมาเขียนเหมือนเดิมเพราะเราชอบเขียนนี่เป็นประเด็นหลัก (สำคัญมาก) ก็ลองเอาคำพูดเขามาคิดๆ ปรับใช้ดูรับสิ่งที่มีประโยชน์...ที่เป็นโทษทิ้งไป..(ก็ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม...) ก็เหมือนกินยานั่นแหละ มันต้องมีผลข้างเคียงบ้าง...แต่ถ้าไม่ป่วยไม่ไข้ เราก็ไม่ต้องไปรับยา...น่ะ เพียงแต่ดูแลสุขภาพให้ดีก็พอแล้ว.... :) เรารักทุกคนที่เขียน/อ่าน ค่ะ.. ไม่ใช่เฉพาะผลงานแต่รวมไปถึงผู้ที่กลั่นกรองออกมาทีเดียว.. ................................................................... ทิดธร รับไว้จ๊ะ ด้วยความขอบคุณ.. ................................................................... น้องดอกบัว ขอบคุณค่ะ รักษาสุขภาพ..ด้วย .................................................................... คุณก้าว..ที่กล้า ขอบคุณค่ะ....มีคนอ่านก็ต้องมีคนเขียนสิค่ะ :) ไม่งั้นถุงกล้วยแขกจะล้นโลกน่ะ .................................................................... คุณ DH หินลับมีด...ลับไม่ดีก็บาดมือ...น่ะ คนลับนี่เสี่ยงเจ็บตัวเหมือนกัน....อันนี้ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่พูดตามหลักความเป็นจริง.... ถ้ามีดเนื้อไม่ดี...คงไม่เสียเวลาลับหรอก..ซื้อเล่มใหม่ดีกว่า น่าภูมิใจที่มีคนเห็นคุณค่าของมีดเล่มนั้น อย่างที่บ้านลับกรรไกรแล้วเอาน้ำมันเคลือบเลย...ทนุถนอมไว้ใช้นานๆ อิอิ เปรียบเทียบซะยาว... .................................................................... คุณผู้หญิงช่างฝัน ขอบคุณค่ะ แค่เขียนตามที่คิดน่ะ พออ่านรู้เรื่องก็น่าจะพอแล้วล่ะ.. .................................................................... คุณแก้วประเสริฐ กุ้ง ก็เพิ่งทราบว่าคุณช่อฯ นับถือคุณแก้วเป็นอาจารย์ เมื่ออ่านกลอนของคุณช่อฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ยังนึกนิยมครูแก้วกับคุณช่อฯ :) :) และไม่ได้เขียนแก้ต่างให้ใครเป็นพิเศษหรอกค่ะ เพราะ.... คนเขียนกลอนทุกคนเป็นคนพิเศษเท่าเทียมกัน เพราะมีใจรักในอักษรเหมือนกัน..(อิอิ เปล่ายกยอเกินจริง แค่อยากระบายความรู้สึก) แต่ขอคอมเม้นต์นิดนึง...ถ้าจะแนะนำน่าจะมีวิธีการที่ดีละมุนละม่อมกว่านี้ ให้เขา/เธอ ค่อยๆ ปรับ มีเหตุผลเพียงพอที่จะยอมรับได้.. มิใช่หักด้ามพร้าด้วยเข่า...เพราะมันจะเจ็บเข่า :) และพร้าจะหัก.... เสียประโยชน์ทั้งสองฝ่ายค่ะ :) สำหรับคุณช่อฯ นึกซะว่าได้กระจกเล็กๆเพิ่มมาอีกบาน...จะปาทิ้งซะก็ได้ หรือจะเก็บไว้ใช้ประโยชน์ก็ย่อมได้ค่ะ...สุดแต่คุณจะเลือกค่ะ สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งศิษย์และอาจารย์ได้ทำงานที่ตนรักต่อไปตราบนานเท่านานค่ะ ขอแสดงความนับถือ กุ้งหนามแดง .................................................................... :)
24 มิถุนายน 2551 15:04 น. - comment id 865214
สวัสดีครับป้ากุ้ง.... จะดาบ หอก ทวน มี พร้า ขวาน อะไรก็แล้วแต่ ...มันย่อมมีคุณและโทษทั้งนั้นแหละครับ บางครั้งเราก็นึกโกรธหากคมใดคมหนึ่งมันบาดเอาเนื้อเราเอง ...แต่ในบางทีเราอาจขอบคุณมันก็ได้ ในรอยบาดแผลนั้นอาจให้บทเรียนควรระวัง คงไม่มีใครโดนบาดซ้ำสองที่รอยแผลเดิม ...ว่าไหมป้า ส่วนอีกคมที่เราเอาไว้ห้ำหั่น บางครั้งเราอาจจะใช้มันผิดที่ผิดทางก็ได้ บางสถานที่เขาห้ามพกอาวุธน่ะ.. บางสังคมที่มีแต่การยกยอปอปั้นเราอาจชอบ เราอาจมีความสุข...แต่ว่าเราอาจไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย บางทีก็อาจเป็นเรานี่แหละที่ทำอะไรที่ไม่ควรทำในบางสถานที บ้านนี้เขาเรียกว่า บ้านกลอน ไม่ใช่หรือ ผมก็เคยโดนมามิใช่น้อย มิเห็นมีคนปลอบใจ ก็ยังด้านทนอยู่จนทุกวันนี้เลย ดาบมีสองคม เหรียญก็มีสองด้านเสมอ .สงสัยจะเริ่มแก่ ชักขี้บ่น (ป้าจะลบก็ลบเถอะครับไม่เป็นไร)
24 มิถุนายน 2551 15:44 น. - comment id 865218
^ ^ อื้อ.. สงสัยจะแก่จริงด้วย
24 มิถุนายน 2551 16:15 น. - comment id 865223
สวัสดีค่ะ พี่กุ้ง.... อยากเขียน... ถูกบ้างผิดบ้าง แต่ก็อยากระบาย..."ฝัน" ขอบคุณพื้นที่ Thaipoem.com ที่กรุณา.. ให้วาด แต่งแต้มอารมณ์ ระบายอารมณ์ ผ่อนคลาย... คนเรามองได้หลายด้านมะกรูดคิดแบบนี้นะค่ะ แล้วแต่มุมมอง มองต่างมุม แต่มะกรูดไม่ดีตรงถ้ามองในมุมของตัวเองแล้วเปลี่ยนยาก.. พี่กุ้งฯ สบายดีนะค่ะ
24 มิถุนายน 2551 16:39 น. - comment id 865229
หนูกุ้ง...ครูพิมเขียนไม่เป็นกลอนกับเขา ก็ยังอยากเขียน อยากมีผลงาน เลยแวะมาพักบ้านหลังนี้...แล้วก็ไม่ยอมไปไหนเลย.. รักเพื่อน รักงานเขียน กลอนใดชื่นชอบ บางทียังเข้ามาอ่านแล้วอ่านอีก เอาน่านะคะ..ถ้าการดูแลกันด้วยการให้ข้อแนะนำ ติเพื่อก่อ... ยินดีรับฟัง..... ทุกอย่างล้วนมีสองด้าน... ทุกครั้งที่โดนมีดบาด...เจ็บ แต่นั่นคือบทเรียนอย่างลุงเรว่า.. ก็หวังเช่นเดียวกับหนูกุ้ง.. เราคงได้นั่งล้อมวง.. แย่งกันปั้นข้าวเหนียว..สักวันเนาะ.. กลับบ้านก่อนนะคะ...
24 มิถุนายน 2551 18:13 น. - comment id 865277
เห็นด้วยคะ ยิ่งคอมเม้นคุณลุงแก้ว ทำให้พิมยิ้มได้ คนไม่เก่งอะ.อิอิ พี่ครูเจี๊ยบลงกลอนด่วนคะ..
24 มิถุนายน 2551 18:21 น. - comment id 865281
ป้าๆๆ ตอนนี้ดาบผมทู่หมดแล้ว มีตั้งสองคม ขอซักคมได้ป่ะ อิอิอิ
24 มิถุนายน 2551 19:01 น. - comment id 865291
ลุงเรไร ก็มีบ้างที่เผลอ โดนที่เดิมเต็มๆ เช่นปอกเปลือกผลไม้...เพราะความแน่ไง คิดว่าปอกมาทั้งชีวิตแล้ว ไอ้มะม่วงลูกติ๊ดติ๊ดเนี่ย..หลับตาปอกยังได้ แล้วเป็นไงแค่แว๊ปเดียว....ขอย้ำ ว่าแว๊ปเดียวที่ตาไม่อยู่กับมีด...เลือดพุ่งกระจาย....สรุปว่ามะม่วงไม่ได้กินกับน้ำปลาหวาน...และน้ำตาไม่ได้มากับความเปรี้ยวแต่มันมาพร้อมความเจ็บ...5555 สรุปว่า....เวลาอยู่กับของมีคมพึงระวังแม้ว่าเราจะคุ้นเคยกับของชิ้นนั้นๆ พึงให้ความสำคัญและอย่าไว้ใจ...เด็ดขาด...พลาดแล้วมันไม่คุ้มเน้อ.. ส่วนเรื่องโดนติ มันก็มีบ้างทั้งชีวิตจริงก็โดน พ่อ แม่ นายจ้าง เพื่อน ฯลฯ...ทั้งนั้นแหละสุดแต่จะหามุขมายิง ก็แก้ปัญหาไปทีละเปลาะ ทำไงได้เกิดมาแล้วนี่.... แล้วในบ้านกลอนคิดเหรอว่า เรา จะรอดไปได้.....ก็ต้องมีบ้างแหละ ไม่เฉียดก็เต็มๆ ทำใจเถิด น้าแอ๊ดเขาว่า ไม่มีผลงานไม่มีความผิด และไม่ต้องรับผิดชอบ....แต่ให้อยู่เฉยๆ ก็ทำไม่ได้...เพราะฉะนั้น เจ้าจงรับโทษทัณฑ์ไปซะ ดี ดี ................................................................... คุณผู้หญิงช่างฝัน ลุงเรไร กับป้ากุ้ง.... ก็บ่งบอกแล้วล่ะว่าเลย ปวช..มาแล้ว.. อิอิ .................................................................... เจ้ามะกรูด...แมงกุ๊ดจี่ เหมือนกัน....ออกแนวดื้อนิดๆ ติดขำ ขำ :) พี่สบายดี ว่าแต่เราเถอะดูแลสุขภาพด้วย .................................................................. คุณครูพิม หนูชอบทานลาบน่ะครู...ใส่ตับหมูด้วย อร่อยค่ะ ................................................................... น้องพิม...พิมญดา สักวันเราคงเก่ง ถ้าไม่เด้งไปซะก่อน...ว่าแล้วก็ไปทาครีมหน้าเด้งก่อนเลย...อิอิ... ทานผลไม้เยอะๆ จะได้ไม่เป็นหวัดน่ะค่ะ .................................................................... นายเมา... คมในฝัก ชักมาทีสนิมกระจายหรือเปล่า นายเมา... เอาน่า ป้าเชื่อว่าทุกคนมีดี อยู่ที่ว่าเราค้นพบมันหรือยัง....เท่านั้นเอง... :) คิดถึง... .................................................................. .................................................................. .................................................................... ..................................................................
24 มิถุนายน 2551 20:13 น. - comment id 865318
ดาบสองคม ดาบสองคม คมหนึ่งมันคมเท่าไหร่ อีกคมมันมักจะคมเท่านั้น แต่เรามักจะเห็นมันคมเดียว ณ เวลาหนึ่ง จนกระทั่งอีกคมหนึ่งมันไปฟาดอะไรซักอย่างของเราเท่านั้นแหละ ที่เราจะเห็นอีกคมหนึ่ง เทคโนโลยีทุกอย่าง เป็นดาบสองคม การพัฒนาการทุกอย่าง เป็นดาบสองคม เข้าทำนอง ยิ่งรัก ก็ยิ่งทุกข์ เมื่อวันหนึ่งที่ความรักนั้นมันกลับมาเป็นดาบอีกคมหนึ่ง คุณกำลังสัมผัสดาบสองคม ที่คมที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ อินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ต ให้ Scale ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในแง่ของ Information Economy นั่นคือ ทุกคนแทบจะมี Economy of Scale เทียบเท่ากัน ขาดแต่เพียง Social Networking รองรับเท่านั้น ดาบสองคมที่ว่านั่น ก็คือ ถ้าทุกคนอยู่ในฐานะของ สื่อ ได้แล้วล่ะก็ จะมีกี่คนเล่าที่มีจรรยาบรรณของสื่อ หรือว่าคำถามที่ดีกว่านั้น จะมีกี่คนเล่าที่ใช้มันไปในทางสร้างสรรค์ เราต้องมี Information Literacy ที่ดีขึ้น .. นอกจากนั้น อินเทอร์เน็ต มันยังเป็นแหล่งเก็บข้อมูลชั้นดี ที่ไม่มีวันล่ม แทบไม่มีวันหาย ข้อมูลหลายอย่าง ถ้ามันอยู่บนอินเทอร์เน็ตแล้ว มันแทบจะเป็นอดีตที่ไม่มีวันลบวันเลือน . เช่น เมื่อไม่กี่ปีก่อน ถ้ามีแฟน แล้วเลิกกัน อยากจะตัดขาดทิ้งทุกอย่าง มันคงจะทำได้ไม่ยาก ก็แค่เอาเผารูป เผาฟิล์ม เผาจดหมาย ก็เท่านั้นเอง แต่ว่าทุกวันนี้ ถ้ามันอยู่บนอินเทอร์เน็ตเสียแล้ว Searchๆ ไป ค้นๆ ไป มันก็ยิ่งเจอไปเรื่อยๆ ทั้งข้อความที่เคยคุยกัน ซึ่งแสดงความสัมพันธุ์ที่เคยมี รวมทั้งภาพโน้นภาพนี้จากวันที่เคยมีกันและกัน และมันอาจจะดูดีกว่าปัจจุบันมากมาย วันดีคืนร้าย ภาพเหล่านั้นของวันที่เคยดี อาจจะกลับมาหลอกหลอนตัวเองหรือคนอื่น ในรูปแบบไหนก็ได้ อืมมม แล้วก็ .. บางคนก็เขียนแต่เรื่องดีๆ ของกันและกัน เรื่องเสียๆ หายๆ ไม่เคยเขียน บางคนกลับกัน เขียนแต่เรื่องเสียๆ หายๆ เรื่องดีๆ ไม่เขียน พอวันหนึ่งที่มันกลายสภาพเป็นเพียงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ ข้อความทั้งดีและไม่ดี ก็คงส่งผลต่างกัน ดาบสองคมชัดๆ
24 มิถุนายน 2551 20:48 น. - comment id 865331
ดาบที่บ้านผมไม่มีคมแระ ว่าจะยืมดาบสองคม ไปใช้หน่อย แม่ผมชอบพูดว่า "อันต้นยอ ปลูกยาก แต่คนก็อยากปลูกยอ" เอ้ จะเกี่ยวกับ เรื่องดาบสองคมป่าวน๊า มาทักทายครับ
24 มิถุนายน 2551 21:04 น. - comment id 865340
ยาขอเป็น กระบี่ฟ้า ดาบมาร ได้ป่าวเจ้าคะ จะได้เหินเหาะได้หน่อย...
24 มิถุนายน 2551 22:18 น. - comment id 865378
ขอบคุณคุณกุ้งมากค่ะ สำหรับบทกลอน ที่ให้กำลังใจ
24 มิถุนายน 2551 22:26 น. - comment id 865385
เรื่องของประสบการณ์น่ะ ถ้าอ้อม ๆ ก็จะไม่ค่อยจำ แต่ถ้าตรง ๆ ล่ะก็ แจ่มชัดจำแม่นเขียว นา ..
25 มิถุนายน 2551 01:23 น. - comment id 865440
จะกรีดปาดกราดเกรี้ยวไม้เรียวฟาด มิอาฆาตหากให้ได้ศึกษา หากตอกย้ำคำค่อนแม้นป้อนยา จะขอด่าเต็มคำให้หนำใจ
25 มิถุนายน 2551 07:55 น. - comment id 865479
ลุงก่อกกิก อ่าน่ะ...เหรียญมีสองด้าน เช่นเดียวกัน.. .................................................................... นายนักสืบ ต้นยอปลูกยาก แต่ก็ตายยากเหมือนกันนา...แถมมีสรรพคุณทางยา มากมาย.. .................................................................... คุณยาฯ ตัวเองจะแผ่รังสีเฮ้ากวงใส่เค๊าหรือเปล่า..จะได้หลบทัน.. .................................................................... คุณช่อฯ ด้วยความยินดีค่ะ..ขอให้มีกำลังใจสู้ต่อไปค่ะ.. .................................................................... คุณอัลมิตรา : ) ใครฉีดน้ำหอมในลิฟท์ กับ ใครผายลมในลิฟท์นี่มันคนละอารมณ์เลยเนอะ... .................................................................... คุณฝากฝัน น่านแหละ ธรรมชาติของคนเรา... ....................................................................
25 มิถุนายน 2551 08:46 น. - comment id 865497
สวัสดีค่ะคุณกุ้ง รันก็โดนของมีคมบาดบ่อย เผลอตวัดของตัวเองไปโดนคนอื่นก็บ่อย เพราะเป็นคนไม่คิดมาก และไม่ชอบเก็บอารมณ์ไว้คนเดียว จะออกเป็นตัวหนังสือเราเจ็บมั่งเค้าเจ็บมั่ง ก็แบ่งๆๆกันไป แต่ไม่เคยคิดทำร้ายใครถึงชีวิตและอาการสาหัส ค่ะ อิอิ แค่แสบๆๆ คันๆๆ ยืนยันความเป็นตัวเอง แค่นั้น แล้วก็จบไม่ติดค้าง ไม่ยึดติด รักษาเเผลเล็กๆๆ น้อยๆๆ กันไปด้วยกาลเวลาพร้อมกับบทเรียนเพิ่มขึ้น ในแต่ละแผลที่คนอื่นสร้างและเราสร้างเอง จบค่ะ อิอิ...
25 มิถุนายน 2551 09:42 น. - comment id 865530
คุณรัน..กชมนวรรณ เราก็แค่ทำตามที่ตัวเองชอบเท่านั้นเอง เข้าตาใครหรือเปล่าก็อยู่ที่คนมอง...อิอิ
25 มิถุนายน 2551 11:20 น. - comment id 865561
มีดบาดมือ ร้องจ๊ากเดี๋ยวก็หายค่ะ ตอนเด็กเป็นบ่อย แผลเป็นเยอะค่ะ
25 มิถุนายน 2551 14:59 น. - comment id 865641
เจ้ากานต์...เพียงพลิ้ว ตอนเด็กๆ พี่ไม่ค่อยโดนมีดบาด ส่วนมากจะถูกแม่ตีมากกว่า อิอิ