มองผู้ป่วยICUอาการหนัก ความหวังยากเกินกว่าจะรักษา วาระสุดท้ายของชีวิตใกล้เข้ามา จะรักษาอย่างไรไม่ทันการณ์ หมออย่างผมจนใจจะฉุดรั้ง หมดความหวังใจคิดจิตสงสาร ชีวิตคนหนึ่งคนเกิดไม่นาน ทรมานกับโรคร้ายวายชีวา อโรคา ไร้โรคประเสริฐนัก ได้ประจักษ์เมื่อเป็นแพทย์รักษา มองชีวิตเห็นความเวทนา วันเวลาผ่านไปตายเท่าไร ทรมานเวรกรรมมากมายโรค ญาติเศร้าโศกสูญเสียพาร้องไห้ ความพลัดพรากจากกว่าทำใจ ห่วงอาลัยอาวรณ์กี่แสนนาน
21 พฤษภาคม 2551 12:28 น. - comment id 852027
หมออะไรคะ หมอยาหรือหมอตรวจโรคคะ
21 พฤษภาคม 2551 12:40 น. - comment id 852033
ผมศัลยแพทย์
21 พฤษภาคม 2551 14:29 น. - comment id 852059
เกิด แก่ เจ็บ ตาย ในโลก ใครเล่าพ้นโศกเศร้าได้ เป็นคนพ้นกรรมกระทำใด ทนทุกข์ทนไปในชะตา
21 พฤษภาคม 2551 15:34 น. - comment id 852087
เจรจากับญาติให้ดีล่ะ ระวังจะถูกฟ้อง !!
21 พฤษภาคม 2551 16:25 น. - comment id 852103
คนทั่วไปอาจจะมองว่า หมอ คงจะชินชากับเรื่อง การเจ็บ การตายของผู้คน แต่แท้จริงแล้ว หมอก็คงจะไม่ต่างจากเราๆหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ขอบคุณ คุณหมอทุกท่านค่ะ
21 พฤษภาคม 2551 19:13 น. - comment id 852169
ความจริงหมอมีอุปกรณ์ให้ได้มองเห็นสัจธรรม เป็นข้อได้เปรียบของหมอ...
22 พฤษภาคม 2551 13:31 น. - comment id 852450
เป็นนามปากกาที่พาให้ พุดพัดชาต้องค้นหาเบื้องหลังค่ะอิอิ ภันเต.. คุณพุดพัดชาพ่อเพิ่งจากไป ก่อนหน้านั้นชีวิตพุดพัดชาต้องเวียนวน เข้าออกโรงพยาบาลเพื่อดูแลคุณพ่อ จนตราบถึงนาทีสุดท้ายในห้องใกล้ดับจิตค่ะ ภาพนั้นยังจดจำติดตา ภาพที่พุดพัดชาสวดมนต์พระพุทะคุณคาถา เพื่อนำพาจิตวิญญาณคุณพ่อ สู่แดนสว่างสงบค่ะ และ.. นี่คือธรรมดาชีวิตค่ะ ที่คืออริยสัจจ์สี่ที่พระพุทธองค์เพียรสอน พุดพัดชาพลีบทรจนาแด่ทุกดวงใจใสงาม ทั้งคุณหมอ พยาบาล และทุกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในความเมตตาเสียสละแด่เพื่อนมนุษย์ ผู้กำลังทุกข์ทนยากค่ะ ด้วยเรื่องนี้นะคะ เทพเทวา..นางฟ้า..ปีกเขียว..ใน..ห้องขาว..! ในอุษาวดี..นาทีนี้ ดวงกำลังนั่งนิ่งนิ่งบนเก้าอี้แดงในห้องขาว ที่มีบานกระจกกว้างยาวแทนผนังจรดพื้น จน..ทำให้ได้แลเห็นทัศนียภาพ.. *ธรรมชาติต้นไม้*..รายรอบบ้าน..วิมานดิน อันแสนร่มรื่น..อภิรมย์...ใจ.... แล.. ในท่ามจิตดวงใส..ไสวงาม ดั่ง..*ดวงอรุโณทัยแรกในยามอรุณรุ่ง* หลัง.. ผ่านพ้นพายุร้ายที่มากรายกล้ำ ให้เรียนรู้โลกย์ธรรมที่แสนทุกข์ทนวนว่าย *เกิดแก่เจ็บตาย*..คล้ายวิบากรักวิบากกรรม ดวง..ทอดตาจับนกน้อยๆ ที่ค่อยๆโผบินถลามาจับกิ่งการะเวก ที่ราวเปลใบไม้... ให้ได้แกว่งไกวล้อลมเล่น...เช่นฉะนี้... เสียงบทเพลงหวามไหวรับเช้าวันใหม่ จากเครื่องเสียงหวานแว่วแผ่วมากับฟ้ากว้าง กับสายลมเย็น อันอวลหอมกลิ่นดวงดอกไม้ไทยคละเคล้า.. มาให้คะนึงในทุกอณูนวล... ผืนนภา..เริ่มถูกจิตรกรเอกชื่อธรรมชาติ สาดแสงทองอันแสนจรัสรัศมี..ด้วยสีที่ผสมผสาน แสนนิ่มนวลกลมกลืน... ให้.. พรายพร่าง..สร้างพลังใจ แด่ทุกมวลชีวา ณ..ใต้หล้า ใต้ฟ้าไท ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ อย่างซื่อสัตย์ไม่มีวันเสื่อมคลาย.... ดวง..หลับตา.. แล.. ย้อนวันเวลาถอยหลังกลับไป ในทิวาวาร...นี้... ในเก้าอี้..เช่นนี้เฉกกัน หากต่างสี ต่างสถานที่กัน ต่างอารมณ์อันแสนยากยิ่งบรรยาย ห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ความพลัดพรากจากเจ็บ ของผู้เป็นที่รัก ห้องผู้ป่วยหนักได้มาพิงพักรักษา พร้อมฝากชีวาชีวิตในเงื้อมมือแพทย์ พยาบาล ให้ยื้อยุด ลมหายใจให้ไกลจากพญามัจจุราช.. ที่บางครั้งใครก็มิอาจผัดผ่อนได้... ดวง..นั่งหนาวเหน็บในดวงใจ ที่เห็นคนที่ดวงเคารพรักเทิดทูนยิ่งใหญ่ กำลังนอนหายใจระรวยระริน..อย่างมิสิ้นหวัง ด้วยพลังแห่งความเข้มแข็งเท่าแรงรักจักพึงมี จาก.. ทุกหลอมรวมแห่งความกตเวทิตาคุณของลูกหลาน และ.. เหลนที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้มิทันครบหนึ่งอาทิตย์ ที่..ทุกกระแสจิตได้มาสถิตภาวนา ให้เทพยดาฟ้าดินสิ้นอินทร์พรหมยมพญาผู้กำเพรงชะตา ได้เมตตา ประทานพรให้ผ่านพ้นวิกฤต ได้กลับมามีลมหายใจแห่งชีวิตใสงาม สร้างความดี สร้างกุศล เป็นผลบุญบารมี เป็นเสบียงบุญ สืบไป ดวง...น้ำตาซึมด้วยความรู้สึกแสนซาบซึ้งใจ ที่ได้เห็นความเสียสละ ยิ่งใหญ่ ความเมตตาของนางฟ้าแลเทพยดาในชุดเขียว ผู้กำลังกางปีกปกป้อง เยียวยา เอื้ออุ่นโอบอุ้ม ทุกผู้ป่วยอย่างญาติมิตรแม่พ่อ...อย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง อย่างผู้ที่มีจรรยาบรรณแลคุณธรรมล้ำเลิศ ตามรอย..*สมเด็จพระราชบิดามหาชนก..แห่งแผ่นดิน..* มิให้สิ้นหยาดฝนแห่งความกรุณา ปรานี... ดวง...นั่งตั้งจิตอธิษฐาน สมาธิภาวนา เมื่อในคลองตาแลเห็น เครื่องเตือนการเต้นของหัวใจผู้เป็นที่เคารพรัก ร้องลั่น สั่นเป็นระยะ ซึ่งหมายถึงภาวะการณ์ผิดปรกติที่แสนน่าวิตกกังวล หากดวงกมล ที่เพียรฝึก ให้มีสติ คิดดี คิดบวก คิดบุญ ดวงรู้ว่า ดวงชีวีของผู้เป็นที่รัก จักผ่านพ้นภาวะวิกฤต ด้วยบุญบารมี ที่ลูกหลานมากมีต่างเพียรสะสมมาอย่างยาวนาน..ต่อเนื่อง ดวง...เดินช้าช้าไปที่ร่างคุณพ่อผู้เป็นที่รัก จับมือมาหอมด้วยความรัก ความกตัญญูที่ยิ่งใหญ่ จูบที่เท้าอันเย็นชืด ปลุกดวงใจให้พลิกฟื้น รับรู้ ถึงพลังแห่งความรักนี้ ที่กำลังบ่าไหล มาอย่างท่วมท้น แล้ว... หลับตา..นิ่งทิ้งทุกสรรพสิ่งไว้ ณ..ภายนอก ในมโน..นึก ดวง..กำลังก้มศิระกรานกราบพระพุทธรัตนะ องค์ทองสุกปลั่งมลังเมืองในโบสถ์คร่ำ..อยุธยา... และ.. กำลังสวดมนต์อธิษฐานจิตภาวนา ท่ามน้ำตาเทียน ขอพร..แด่องค์พระอรหันตเจ้า *สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี* ที่ดวงนี้แสนเคารพศรัทธาคารวะ สวดพระคาถาชินบัญชรมานานนับ..หลายปี ได้ทรงมีพระเมตตาปรานีประทานพรให้ลูก มีพลังชีวิต ที่จักถ่ายทอดให้กับบิดาของลูกด้วยเทอญ ดวง..จับมือคุณพ่อและอย่างช้าๆมั่นคง ดวงรวบรวมพลังจิต พลังชีวิตจากความรักอันแสนยิ่งใหญ่ ค่อยๆส่งกระแสจิต กระแสใจ กระแสความร้อน ให้ไออุ่นคลายเหน็บหนาว..จากใจถึงใจ หลายนาทีผ่านไป เครื่องที่กำลังสั่นเตือน กลับสู่ภาวะการณ์ปกติ หนาวคลาย ร่างกายคุณพ่อเริ่มร้อน...ร้อนขึ้น.. เป็นลำดับ พร้อมกับการถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกของดวง.. ........................... ....................................... และ... ก่อนที่ดวงจะลากลับบ้าน คุณพ่อกระซิบบอกดวงว่า คุณหมอ..ถามว่าเวลานั้นดวงทำอะไร... ดวงได้แต่ยิ้มด้วยความอิ่มเอมปิติใจ ดวง..รู้เพียงว่า.. สิ่งยิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งใดในโลกหล้านี้คือ *พลังแห่งปาฏิหารย์รัก* ......................... ดวง.. ขอถือโอกาสนี้ กราบคารวะทุกดวงใจทุกหยาดน้ำใจใสหยาดเย็น แห่งห้องวิกฤต ตึกศัลยกรรมชายชั้นห้าโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่งามเกินกว่าจักจารหาคำขอบคุณใดมาเทียมเทียบ..ค่ะ ................ ๏เวนิสวาณิช๏ ๏ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 ๏ อันว่าความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน เป็นสิ่งดีสองชั้นพลันปลื้มใจ แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล เป็นกำลังเลิศพลังอื่นทั้งสิ้น เจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระกรุณา ประดุจทรงวราภรณ์สุนทรสวัสดิ์ เรืองจรัสยิ่งมกุฏสุดสง่า พระแสงทรงดำรงซึ่งอาชญา เหนือประชาพสกนิกร ประดับพระวรเดชวิเศษฤทธิ์ ที่สถิตอานุภาพสโมสร แต่การุณยธรรมสุนทร งามงอนกว่าพระแสงอันแรงฤทธิ์ เสถียรในหฤทัยพระราชา เป็นคุณของเทวาผู้มหิทธ์ และราชาเทียมเทพอมฤต ยามบพิตรเผยแผ่พระกรุณา -------- เป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ ๖ เรื่องเวนิสวาณิช
22 พฤษภาคม 2551 22:23 น. - comment id 852600