ใบไม้...เจ้าร่วงหล่น เกลื่อนกล่นทับถมอยู่มากมาย เพื่อ...ใบไม้...ผลิบาน เสียงก้องกังวานไพร ดุเหว่าร้องกู่.....ดูเดียวดาย จางหาย......ไร้เสียงตอบ เรื่อเรือง..เหลือง...แสด...แดง สาดแสงตะวันยามชิงพลบ ฉากจบ....รอวันใหม่ มืดหม่น...ช่างรัวลาง ม่านกำมะหยี่แผ่คลี่คลุม เงียบเหงา.....ที่ปลายฟ้า ดาวพราวพร่าง....กลางฟ้า ดั่งเพชรประดับ.....กำมะหยี่ เพียงดาว....ที่ดายเดียว สง่า...และใสกระจ่าง เพียงเดียว...โดดเด่น...กลางนภา ฤๅ....จันทร์...เจ้าหลงเงา
10 พฤษภาคม 2551 22:37 น. - comment id 848427
เพราะครับ...เพราะมากเลย...... แวะมาเยี่ยมครับ..
10 พฤษภาคม 2551 22:53 น. - comment id 848435
...ไม่ใช่บทกวีแนวรักหวานซึ้ง ..หรือโศกศร้าในรูปแบบที่เคยสัมผัส ..เหมือนกับคำถาม ยามเมื่ออ่านจบ ชื่นชมครับ....สวัสดี
10 พฤษภาคม 2551 23:09 น. - comment id 848445
แวะมาชื่นชมครับผม
11 พฤษภาคม 2551 09:54 น. - comment id 848530
สื่อความหมายได้ประทับใจมากค่ะ...
11 พฤษภาคม 2551 16:14 น. - comment id 848674
ไพเราะมากเลยค่ะ แวะมาชื่นชมในผลงานนะค่ะ
11 พฤษภาคม 2551 16:18 น. - comment id 848681
เค้าเรียกอะไรคับพี่ เนื้อหา การแต่งสวยดีอ่ะครับ ชอบบบบบ
11 พฤษภาคม 2551 17:56 น. - comment id 848721
คงต้องคนอ่อนโยน อ่อนไหว ถึงจะมีจินตนาการเช่นนี้ เฮ้อ เรามันคนกระด้างนิ อิอิ
11 พฤษภาคม 2551 18:53 น. - comment id 848739
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นรินคงต้องขออธิบายนิดนึงนะคะ แล้วก้อคงจะตอบคำถามของหลายๆ คน ที่เคยถามรินว่าเขียนอะไร กลอนอะไรเป็นแบบนี้ เรื่องของกลอนที่รินแต่งช่วงนี้ คือมันเกิดจากความสนใจส่วนมานานแล้ว เกี่ยวกับคำว่า...กลอนเปล่า... กลอนเปล่าๆ ที่ไม่จำกัดเกี่ยวกับรูปแบบหรือสัมผัสอะไร แล้วเคยได้เรียนการแต่งคำประพันธ์ของญี่ปุ่นที่เรียกว่า ...ไฮกุ... แต่บังเอิญหากจากห้องเรียนในฐานะนักเรียนกลายมาเป็นครู แล้วก้อครูที่ไม่มีความสามารถด้านภาษาไทยนะคะ เลยไม่ได้ศึกษาจริงจัง ทีนี้ตอนหลังๆ เกิดอยากแต่งกลอนรูปแบบใหม่ๆ มั่ง เลยนึกถึงไฮกุขึ้นมา ก้อเข้าไปค้นหามาแล้วก้อลองแต่งดู ทีนี้ไฮกุนี่เขาออกแนวที่เน้น...สงบ เย็น ...ประมาณนี้นะคะ คำที่นำมาแต่งมักจึงสั้น ให้ได้ความหมาย ไม่เยิ่นเย้อ ไม่พรรณนา ให้คนอ่านอ่านแล้วเข้าใจและสัมผัสความรู้สึก เห็นภาพ แต่....รินไม่ได้เก่งอะไรมากมายนะคะบอกไว้ก่อน แค่กำลังเรียนรู้อยู่ แล้วรอแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับมิตรกลอนทุกคนนะคะ
11 พฤษภาคม 2551 19:02 น. - comment id 848742
ขอบคุณมากค่ะคุณฝากฝัน ...ชื่อคล้ายๆ นามปากกาอีกด้ามนึงของรินเลย แหะๆ
11 พฤษภาคม 2551 19:08 น. - comment id 848744
แนวกลอนพี่เอาแน่ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเรไร ตามใจตัวเองมากไปหน่อย .....บางครั้งเรามีคำถามนะกับความรู้สึกของตัวเอง...
11 พฤษภาคม 2551 21:32 น. - comment id 848776
หมากไม้ร่วงรายป่า เพื่อแตกมาเป็นเบี้ยใหม่ ใบไม้ที่หายไป เพื่อเป็นปุ๋ยแด่แผ่นดิน เหมือนชนที่ถือชั้น แต่วรรณเพียงก้อนหิน เหนือฟ้าต่ำกว่าดิน ก็ไม่พ้นหนทางตาย สวัสดีครับ
11 พฤษภาคม 2551 22:09 น. - comment id 848783
ขอบคุณอีกครั้งนะคณรัมณีย์
11 พฤษภาคม 2551 22:14 น. - comment id 848787
ขอบคุณอีกเช่นกันนะคะคุณราชิกา ดีใจค่ะหากบทประพันธ์นี้พอจะสื่อให้คนอ่านได้สัมผัสความรู้สึกที่พี่รินอยากจะถ่ายทอดนะคะ
11 พฤษภาคม 2551 22:25 น. - comment id 848795
คุณผู้หญิงไร้เงาคะ ช่วงนี้พี่รินจะมาแบบขาดๆ หายๆ อย่าว่ากันนะคะ พอเปิดเทอมแล้วคงไม่ค่อยมีเวลาแล้ว แต่จะแวะมาอ่านผลงานนะคะ
11 พฤษภาคม 2551 22:34 น. - comment id 848801
คุณแขม่วแมว อ่อ...แมน..ค่ะ ก้อแค่...ไฮกุ...ง่ายๆนะคะ มีคณะแบบนี้ค่ะ ๐๐๐๐๐ ๐๐๐๐๐๐๐ ๐๐๐๐๐ ลองแต่งดูมั๊ยคะ
11 พฤษภาคม 2551 22:37 น. - comment id 848806
พี่ว่ารันต้องแต่งได้แน่ค่ะ ที่ยากๆ กว่านี้ รันยังทำได้เลยนี่คะ ...อยากให้ลองนะ
11 พฤษภาคม 2551 22:44 น. - comment id 848812
ใบไม้ที่ร่วงจม และทับถมจนเปื่อยเน่า ใบใหม่แทนใบเก่า ช่อผลิบาน...ชูก้านใบ สวัสดีค่ะคุณเอาชาวดอย
12 พฤษภาคม 2551 04:37 น. - comment id 848854
ไพเราะและงดงามมากค่ะพี่พยายามยังไงก็แต่งกลอนเปล่าไม่เคยได้สักที คงเข้าไม่ถึงอารมณ์แน่ะค่ะ แต่พี่ก็จะพยายามค่ะน้องริน
12 พฤษภาคม 2551 10:32 น. - comment id 848895
ขอบคุณค่ะ คุณนรศิริ หาแนวแต่งที่แตกต่างไปบ้าง...นิดหน่อยนะคะ
12 พฤษภาคม 2551 10:58 น. - comment id 848904