ณ ปางอุ๋ง
นรศิริ
สายลมร้อนร่อนฟางกลางท้องทุ่ง
วอนลมพัดสายรุ้งที่สูงสอย
วอนผ่านดาวผ่าวเดือนลงเยือนดอย
ขอสายลมเกี่ยวก้อยผู้ด้อยความ
วิมานหนึ่งบ่ลืมเลยข้าเคยอยู่
ใช้ชีวิตดั่งทุกผู้รู้แบกหาม
สัจธรรมหนึ่งนาข้าเห็นตาม
หนอเพชรใดใสงามเช่นน้ำใจ
แววใสใสซื่อซื่อคือจริต
หาประดิษฐ์คิดค้นเล่ห์กลไหน
แต่งามล้ำงามเด่นเป็นนัยนัย
กลางพงไพรไกลเมืองกลับรองรอง
แดนดอยเด่นเห็นค้อมเหมือนอ้อมกอด
ปานจะทอดเชื่อมทางทั้งข้างสอง
ผีเสื้อเอยโบยบินถิ่นรวงทอง
จิ้งหรีดเคยแซ่ซร้องเคยร้องครวญ
ม่านหมอกเมฆเฉกรับกับฟ้าแสด
รับเปลวแดดแผดไหวในสรวงสรวญ
ลมรำเพยเลยพร่ำลมรำจวน
ปานเจ้าร้องเรียกชวนหาพาข้าไป
รูปสมบัตินั้นหรือคือของแน่
ต้องผันแปรผุทิ้งแม้ยิ่งใหญ่
ถึงคนจนจนนี้มีหัวใจ
ยังมีลมผ่าวให้ได้แว่วยิน
น้ำซังซ่าถาไหลพาใจนึก
พาหัวใจไหวรำลึกนึกถวิล
เสียงของใครไหนเล่าผ่าวแผ่นดิน
เสียงคนจนทั้งสิ้นใช่หินดอย
ข้าเฝ้าคอยเวลาพาข้ากลับ
สู้รอลับแลเล่าใจเหงาหงอย
เม็ดฝนเคยพร่างฟ้ามาปรอยปรอย
หยาดน้ำตาข้าก็พร้อยดั่งฝนพรำ