ในราตรีที่เดือนครึ่งดวงลอยคว้าง อย่างอ้างว้างเดียวดายท่ามผืนฟ้าหม่น ดวงแลลอดผ่านเรียวใบไม้ริมชายคา แลเห็นแรมจันทร์ทอแสงนวลเหนือนภา ที่ยังคงให้ความรู้สึกงามแผก..งามเศร้า งามให้คนทั้งโลกหล้า ต่างพากันได้ฝากฝันฝากใจ ไม่ว่าจะในกระท่อมทับวิมานไพร ฤาในคฤหาสน์ใหญ่ ณ กลางเมือง ธรรมชาติที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันที่จะ นำมาดลฝันสร้างสรรสิ่งสุนทรีย์ ดับร้อนให้โลกนี้ผ่อนเพลา.. ฟ้าคืนนี้ดูเทาทึม อึมครึมแลสลัวเลือนลาง ในท่ามดวงดารา ที่เปรียบประดุจดั่งผองชนคนบนผืนหล้า เฉกเช่นกัน ที่ต่างพากันสร้างขวัญอัญมณีจิต ให้ดวงชีวาชีวิต ยังคง.. เปล่งแสงกระพริบระยิบระยับด้วยแรงใจ ที่มิมีวันมอดดับ ที่จักไม่ยอมแพ้ ตราบจนกว่าจะถึงวันลา ใช่..!มีแค่เพียงลมหายใจนับเวลารอ... ดวง..รู้สึกราวกับว่าโลกนี้ช่างไร้สิ้นสิ่งจีรัง กับหลากเรื่องราวที่ประดังมาแปรผันยอกย้อน มาสอนสัจจธรรม... ให้ดวงได้เห็นบ่วงกรรมย้ำวิบากวน อันแสนทุกข์ทนวิปโยคแสนโศกสะเทือนใจ ของมวลมนุษย์มากมาย ที่ดวงได้ชิดใกล้ ได้รับรู้ ได้เรียนรู้ ดวง...เห็นความไม่เที่ยงแห่งสังขาร อันเกิดได้ทุกวัยวัน ได้เห็นความเป็นนิรันดร์ แห่งคำสอนของพระพุทธองค์ ดวงได้แต่นำมาปลง ปลด และอยากปล่อยทุกข์พันธนา ทุกดวงชีวาที่รอเมตตาจากดวง อันคือสร้อยโซ่บ่วงกรรม ที่คงตามติดกันมาแต่ภพภูมิหลัง ให้ทุกดวงใจได้ดำเนินชีวิตไปอย่างอิสรา ให้ภารกิจอันหนักอึ้งบนบ่า ของดวงได้วางลง ก่อนที่.. ดวงจิตดวงจักพรากลาสู่สวรรค์นิทรารมย์..นิรันดร์... ดวงจึ่งเพียรรจนา พินัยกรรมแห่งรักนี้ เพียงเพื่อจะกระซิบฝากถึง ทุกคนดีที่ดวงแสนรักเอยแสนรักในกมล ให้ได้รับรู้รับทราบในบึ้งลึกอันล้ำล้นด้วยความ ปรารถนาดีที่มากมีความเมตตาเสียสละ หวังกรุณาจากฟ้าดิน ได้เปิดทาง ให้อัญมณีชีวิน มิสิ้นแสงนำทางใจ ก่อนได้ทำสิ่งยิ่งใหญ่ ฝากไว้ให้ผืนหล้ามาตุภูมิแม่ แล.. แด่ทุกผู้ที่เป็นที่รัก.... ให้ได้ตระหนักซึ้งถึงค่า แห่งหนทางอริยสัจจธรรม...! สี่แผ่นดิน คนมี ชีวิตและกายา ถือ กำเนิดเกิดมา เป็นหญิง หรือว่าเป็นชาย ผู้มี พระคุณอันแสนยิ่งใหญ่ กว่า สิ่งใด ก็คือแผ่นดิน เป็นแดน ที่ให้ชีวา พึ่งพา อาศัยและอยู่กิน คุณใด จะเปรียบแผ่นดิน เอื้อชีวิน จากวันที่เกิด จนตาย ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน...
17 มีนาคม 2551 17:06 น. - comment id 832596
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem113530.html ฝากไว้ในงานคุณอิมค่ะ ดาวแลเดือนนำทางระหว่างฝัน ให้ฝากใจนิรันดร์ตราบชีพนี้ เสมือนเธอนำทางจิตดั่งเข็มทิศดวงชีวี ให้ทำดีพลีแด่โลกไว้หมายตราจำ... ซึ้งใจนะคะ กับทุกสิ่งค่ะ ระหว่างเรา ที่วันเวลาได้พิสูจน์สอนใจสัจจธรรมค่ะ รักเสมอ พี่พุด
17 มีนาคม 2551 17:12 น. - comment id 832597
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem113481.html ฝากให้กำลังใจน้องแดนไกล ไลบีเรียนะคะ ในงาน*เหนื่อย* น้องรัก..... เหนื่อยนักก็หลับตา ดูแสงจันทรา ดูฟ้ายามอรุณรุ่ง ดูดวงดอกไม้ ฟังเสียงสายลมร่ายรำ ผสานให้ดวงจิต พบความสดชื่นเย็นฉ่ำสราญใจ พี่พุดไพร พี่สาวนา จะรอท่ารับขวัญน้อง ณ ร่มรักเรือนไทยเรือนทอง แห่งผองเราค่ะ จะถักร้อยสร้อยมาลัยเพชรอักษรา รอวันเวลาที่จะชื่นชมยินดี กับค่านิยมแห่งโลกนี้ ที่เรายากจะหนีพ้นค่ะน้องรัก และจักส่งใจไปเคียงข้าง เป็นสายน้ำใจงามเสมอไป เป็นนิรันดร์หวังค่ะ ด้วยรัก พี่พุด
17 มีนาคม 2551 18:09 น. - comment id 832601
มาแอบอ่านพินัยกรรมแห่งความรักขอ พี่พุดค่ะ