ณ กระท่อมไม้ซุงกลางทุ่งกว้าง ดงดอกหญ้ากระจ่างในเงาฝัน ดาวร้องเพลงหยอกล้อพ้องามจันทร์ คีตสวรรค์บรรเลงเพลงแห่งไพร ฟืนปะทุริมชานให้หวานวับ วะวูบรับพร่างโชนแสงไสว เสียงเก้งกวางบ่างชะนีมาแต่ไกล ไฟในใจก็โชติช่วงดั่งรวงดาว แล..ลอดทอดตาสู่ฟ้ากว้าง ทางช้างเผือกสว่างลืมเหน็บหนาว มณีรุ้งรุ่งทิพย์พรายพราว ดูราวสวรรค์ลอยเลื่อนสู่เรือนใจ ดาวแขวนย้อยห้อยดวงเรี่ยยอดไม้ ไผ่ซัดส่ายพร้องเสียงอยู่ไหวไหว มวลดอกไม้รายรอบเรือนผลิปลอบใจ ให้หลับไหลท่ามธรรมชาติฝันนิรันดร......! ........................................................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song367.html เดือนเพ็ญ เดือนเพ็ญ สวยเย็นเห็นอร่าม นภาแจ่มนวลดูงาม เย็นชื่นหนอยามเมื่อลมพัดมา แสงจันทร์นวล ชวนใจข้า คิดถึงถิ่นที่จากมา คิดถึงท้องนา บ้านเรือนที่เคยเนาว์ กองไฟ สุมควายตามคอก คงยังไม่มอดดับดอก จันทร์เอยช่วยบอก ให้ลมช่วยเป่า สุมไฟให้แรงเข้า พัดไล่ความเยือกเย็นหนาว ให้พี่น้องเรา นอนหลับอุ่นสบาย เรไร ร้องดังฟังว่า เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้ นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป บอกเขานั้นหนา ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย เรไร ร้องดังฟังว่า เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้ นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป บอกเขานั้นหนา ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย...
18 กุมภาพันธ์ 2551 13:18 น. - comment id 824780
อยากมีบ้านกลางทุ่งกว้างๆ แลไปทางไหน ก็เห็นทุ่งข้าวเขียวๆ มีแม่น้ำไหลผ่านหลัง บ้าน มีลมพัดเย็นสบายทั้งวัน มีเสียงดนตรี ธรรมชาติให้ฟัง จังเลยค่ะพี่พุด..เบื่อชีวิต ในเมืองใหญ่ๆ เบื่อเสียงรถวิ่งไปมาทั้งวัน เฮ้อออ ฝันไปอีกแระ ป
18 กุมภาพันธ์ 2551 13:54 น. - comment id 824784
น้องปราณรวี ที่รักของพี่สาวนา ขอพลีเรื่องกระท่อมทำใจ แด่น้องน้อยค่ะ ผู้ประดุจสายแสงทอง แห่งดวงใจพี่สาวนาคนนี้ค่ะน้องรัก กระท่อมทำใจ.. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1444.html (วอนลมเกี่ยวใจ) ใกล้ค่ำ..วันนี้ วันที่..สาวนาแสนดายเดียว เดียวดายเสียเหลือทน สาวนา.. ไปอาบน้ำในบึงบัวแล้วพาตัวมานอนนิ่งนิ่งริมคันนา ทิ้งตาดูม่านฟ้าสลัวๆ ด้วยดวงใจหมองหม่นมัวราวเมฆฝนบนฟ้านั่น เพราะ.. อ้ายมาพรากขวัญพรากลาสาวนาไปหลายวันแล้ว หลังกลับมาให้คำมั่นสัญญา ว่า.. *จะรักภักดีต่อสาวนาตราบชั่วดินฟ้า* ให้อินทร์พรหมยมพญามารับรู้เป็นพยาน เมื่อวันวิสาขะที่ผ่านมา ด้วยการประคองพากันไปเวียนเทียนรอบโบสถ์คร่ำ ก่อนที่.. จะมานอนร้องเพลงรักเพลงฝันตรงนอกชานเรือน ที่มี.. ดาวเดือนเป็นเพื่อนพลอยกระพริบระยิบระยับรับฟัง ที่ทำเอาสาวนาถึงกับแทบอยากจะระรินหลั่งน้ำตา ................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5459.html วอนลมเกี่ยวใจ วอน ลมพัดพา สัญญาเคยฝากใจน้อง วาน บอกทุ่งทอง สองใจลู่ลมรัญจวน หวนรักรำพึง เฝ้าคิดถึง เสน่หา จำเสียงคำสัญญา ฝากลมพาสู่ใจของนาง คิดถึงข้าวรวงอุ่นทรวงไม่ห่าง คิดถึงแก้มนางกรุ่นกลางสายลม ใจ ได้รักเธอ ขอเจอเพียงเจ้าเท่านั้น เคย กระซิบกัน ฝังรอยร่วมเรียวเคียวคม หวนครวญรำพึง เฝ้าคิดถึงกรุ่นเรือนผม ยามใดพอสายลม กล่อมเอวกลมฝากลมเว้าวอน มองแสงเดือนนวล ป่วนใจไหวอ่อน มองแสงเดือนรอน อ่อนใจให้ครวญ ขอดวงฤทัย ฝากปันใจเนื้อนวล ขอรอยรัญจวน คร่ำครวญสายใจอาทร วอน ฝากสายลม พริ้วพรมเนียนแก้มนางนั้น คอย คืนสัมพันธ์ ฝังรอยรักนางกลางใจ หวน รักรำพัน ผ่านผิวลมข่มใจไว้ นางเอ๋ยเคยอุ่นไอ กู่สุดไกลให้หวนคืนมา วานข้าวเรียวรวง เกี่ยวทวงสัญญา วานสายลมพา เกี่ยวใจเจ้าคืน วานสายลมพา เกี่ยวใจเจ้าคืน... ............. แล้ว วันเวลาก็มาพรากอ้ายไปอีกคราอีกครั้ง ไปทำหน้าที่ลูกผู้ชายชาติทหารคนดี ไปพลีร่างยอม..ถวายจิตวิญญาณเป็นทหารอาสา เพื่อ.. ปกบ้านป้องเมือง ให้พบกับคำว่า*รู้รักสมานฉันท์สามัคคี* โดยใช้คุณธรรมความดี พร้อมพลีพิสูจน์ ให้พี่น้องผองเพื่อนในแผ่นดินเดียวกัน อย่าได้มาเสียเวลาฆ่าฟันห้ำหั่นทำร้าย คิด จะปันแบ่งผืนดินอันแสนสุขสงบร่มเย็นกันอยู่เลย ให้ทุกดวงใจรู้รักษาความสงบงามยิ่งใหญ่ ที่บรรพชนไทยได้พลีชีพหลั่งเลือดประโลมรักษา มาเพื่อให้เราได้พบคำว่าไท ไทย ในสุวรรณภูมิทอง ...................... ราตรีนั้น กับโมกกอ พ้อพร่าง กับลั่นทม แทบปลิดร้างไร้ดอก อ้ายเวียนกระซิบรักพร่ำบอกริมหู แล้วพรายพรมโลมลูบจูบไล้สาวนาจนฟ้าใกล้สาง แม้นดุเหว่ายังครางแว่วแผ่วครวญ พลอยหวนไห้อาลัยรัก ... ............... และ...กับวันนี้ ในยามเย็น ยามตะวันรอนๆอ่อนแสงสวย เคลียทิวตาลดงไผ่ วันที่หัวใจดวงซื่อใสแสนภักดิ์รักคิดถึงอ้าย หลังจูงลูกควายสายน้ำ มานอนแช่น้ำในหนองแล้ว สาวนาได้ยินเสียงพี่ทอง มากู่ก้องร้องตะโกน บอกให้สาวนาไปดูรายการแสนโปรด *ชิงช้าสวรรค์* ดูโรงเรียนชื่อดังแสนหวาน*สายน้ำผึ้ง* ที่หยาดสายราวสายธารธาราสวรรค์ ประชันเพลง.. ชิงตำแหน่งแชมป์ฤดูร้อนกับ.. โรงเรียนบัวใหญ่..จากนครราชสีมา ผู้เคยครองตำแหน่งปีที่แล้ว สาวนาชื่นฉ่ำใจ เพราะ.. ดวงใจสาวนาคนยากนั้นแสนรักและหลงใหล ในทุกมนต์เพลงลูกทุ่ง ที่.. แสนให้อารมณ์ละมุนละเมียดมากเหลือเกิน จนใครๆแถวนี้ให้สมญาสาวนาว่า เจ้าแม่เพลง*ดั่งจินตหราน้อย* ไม่รู้สินะ ว่าจริงๆแล้ว.. ทำไมสาวนาจึงได้เลือกจะรักเฉพาะ เพลงลูกทุ่ง คงเป็นเพราะคงโดนใจเนื้อนวลใจสาวนาเต็มๆ ทั้งทำนองลีลา ที่แสนให้ชีวิตชีวาสาวนาพรายพร่างด้วยไฟฝัน พบพลังแสนวาบหวามไหว ดื่มด่ำ เงียบงามยามได้รับฟัง..กระมังนะ สาวนา... จึงน้ำตาคลอ กับเนื้อเพลงชื่อ*เขียนฝันไว้ข้างฝา* ของคุณครูสลา คุณวุฒิ ที่ท่านได้ประพันธ์เอาไว้ อย่างกระเทาะเข้าไปถึงแก่นกระพี้ ของชีวิตชีวา สาวบ้านนา บ้านทุ่ง ผู้หวังมุ่งจะเข้าเมืองมาเพื่อสานฝันให้พลันจริง และ สาวนาก็แสนตื้นตันกับบทเพลงบทนี้ ที่คุณครูสลา ใจดีได้รจนาอย่างแสนงดงาม จนมิอาจหานิยามใด มายกย่องชมเชยไปได้เสียทั้งหมดทั้งสิ้น สาวนาเลยค้นหาบทเพลงงามๆ ที่มีอยู่ณร่มรักเรือนใจเรือนไทย กระท่อมไพร ณที่แห่งนี้ ที่เป็นฝืมือของคุณครู มาเชิดชู ยกย่องชื่นชมด้วยศรัทธาคารวะ และ.. สาวนา..อยากกราบมอบ *มาลัยใบข้าว*จากพราวเพชรในรวงเรียวเกี่ยวใจ มานานปีของสาวนา เพื่อ พลีเทิดเกียรติพระคุณครูผู้แสนยิ่งใหญ่ ผู้มีดวงใจดวงสวยใสสะอาด.. รู้รักษ์วิถีชาติ วิถีไทย วิถีทอง เพียร.. จรรโลงครรลองบทเพลงแห่งชีวิต อันดิบเดิมติดดิน อันยังมิสิ้นกลิ่นอายแห่งท้องทุ่ง รุ้งเรียว..เคียวคมแลความรัก อันคือ.. สายธารธารารักที่แสนเรียบง่ายและงดงาม ดั่งนิยามรู้สมถะพอดีพอเพียง... และนี่ คือชื่อบทเพลงที่สาวนาพอจดจำได้ จดหมายเปื้อนชอล์ค สัญญาเมื่อสายันณ์ ปลาร้าสัญจร คิดถึงแม่ สาวตีข้าว วอนลมเกี่ยวใจ บัวตองต่างเมือง ริมฝั่งมูล บัวลา เพลงรักเพลงคิดถึง ผู้หญิงสีขาว ............. สาวนาจึงนอนน้ำตาไหล เมื่อได้ยินเสียงหวูดรถไฟแว่วมา คำสัญญาของอ้ายยังดังก้อง.. ยามที่.. อ้ายบอกว่าสักวันจะกลับมา พร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ ให้สาวนาได้สวมสวยไสว ราวข้าวสุกกอรอเคียวคม ที่จะพลีโน้มลงขอเพียงได้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ให้อ้ายคนดีได้นอนฝันในอ้อมตัก พร้อมกับ.. รอบรรเลงบทเพลงรักอันแสนหวานหอม หลอมพลีร่างไปด้วยกัน...เป็นหนึ่งเดียว เป็น..นิรันดร์รัก.. ...................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1729.html เพลงรักเพลงคิดถึง รัก ฝากฝังตรึง สื่อบทเพลง คิดถึงเธอ ใจ ใฝ่ละเมอ อยากเจอะเจอ สองดวงตา ฟ้า โปรดเห็นใจ อยู่สุดไกล ให้นำพา เธอ อยู่หนใด สุดป่าไพร โพ้นพนา ขอ เถิดรักมา อุ่นอุรา ซบดวงใจ หมาย มั่นรักคืน ส่งใจยืน มองฟ้าไกล ลมยังคงรำเพย พัดเปรยปลิวยอดไม้ ลมยังคงเป็นใจ ล่องพา ใจยังคงรำพึง คิดถึงไม่สร่างซา ปรารถนา นั้นเพียงเธอ ใจ ให้เหลียวดู โปรดจงรู้ รักล้นเอ่อ เธอ อยู่หนใด โปรดนำใจ ร้อยฤดี รู้ ไหมเพลงนี้ ส่งใจพลี ให้คิดถึงเธอ...
18 กุมภาพันธ์ 2551 20:12 น. - comment id 824844
แวะมาเยี่ยมชมครับ....น่าอ่านมากครับ..เห็นภาพเห็นอารมณ์จังเลย ดูเหมือนเหงาอ้างว้าง..แต่ไม่ตัดพ้อ เหมือนรอคอย....แต่ไม่รำพัน เหมือ่นเหมือนฝัน....แต่คือความจริง เหมือนเดียวดาย....แต่ควาย..ภาระกิจ เสียงเพลง..และความสุขที่เพิ่งพ้นผ่านเป็นดั่งพันธนาการ..และชีวิตชีวา
18 กุมภาพันธ์ 2551 22:53 น. - comment id 824871
เห็นกระท่อมหลังแรก บอกตัวเองว่านี่และที่อยากได้มานาน ชอบมากค่ะ ประกอบกับกลอนไพเราะและโรแมนติคมาก รู้สึกเป็นสุขค่ะ
19 กุมภาพันธ์ 2551 10:51 น. - comment id 824956
ชอบบ้านหลังริมน้ำครับพี่พุด มีแค่ข้าวสารนอนตกปลาทำกับข้าว แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ
19 กุมภาพันธ์ 2551 19:50 น. - comment id 825090
หวัดดีครับ เห็นแล้วนึกถึงสมัยเด็กๆ ได้อยู่ในพื้นที่แบบนี้เลยครับ ช่วงนั้นเวลาเดินช้ามาก ผิดกับปัจจุบันซึ่งเวลาเดินเร็วหลือเกิน ขอให้มีความสุขครับ
20 กุมภาพันธ์ 2551 09:26 น. - comment id 825176
สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่พุด
20 กุมภาพันธ์ 2551 12:18 น. - comment id 825251
สวัสดีค่ะ ชอบจังเลย เยี่ยมค่ะแอบอ่านผลงานคุณเป็นประจำ ชื่นชมมาก ยินดีที่รู้จักค่ะ
20 กุมภาพันธ์ 2551 12:21 น. - comment id 825253
สุขสันต์วันเกิดนะคะ