เศษดิน-แสงดาว
เวทยา
๏ เหมันต์พรรณราย
เริงระบายเมื่อปลายหนาว
ฟ้าไกลใสสกาว
ระยับยิบกระพริบตา
๏ แสงสรรค์แจ่มจันทร์ส่อง
เป็นแสงทองกระจ่างหล้า
เด่นดวงห้วงนภา
จรัสเลิศเจิดอำไพ
๏ แสงดาวพราวสว่าง
ถูกเสกสร้างวิจิตรใจ
ราตรีศรีวิไล
อัมพรสวยระรวยรื่น
๏ ลมหนาวถึงคราวพัด
โบกสะบัดณ.หยัดยืน
เหยียบย่ำณ.ค่ำคืน
เหม่อมองฟ้าปิดตาลง
๏ หลับใหลใต้เงาฝัน
ดาวนับพันพราวบรรจง
มั่นหมายอยู่มั่นคง
จะไขว่คว้าดาราราย
๏ กรวดหินเศษดินน้อย
คงหวังคอยได้เพียงหมาย
แค่ฝันอยู่บั้นปลาย
จะเก็บดาวลงกับดิน
๏ แหงนมองท้องนภา
หมายชะตาหมดราคิน
พบพากว่าชีวิต
ฤๅชีวาตย์มิอาจปอง
๏ ดาวเอ๋ยประดับฟ้า
จะไขว่คว้าฤๅครอบครอง
จวบใจใฝ่สนอง
คงต้องท้อเพราะรอเธอ
๏ ดินเอ๋ยเจ้าหมายดาว
พอถึงคราวเจ้าคงเก้อ
หอมหวนชวนละเมอ
เจ้าอยู่สูงเกินจูงใจ
๏ ดาวเอ๋ยบนนภา
มองลงมาเห็นข้าไหม
ดาวเอ๋ยเจ้าห่างไกล
ฤๅจะกล้าไปหาเธอ
๏ เศษดินใช่จินดา
ฤๅควรค่ามาเสนอ
ชาติเกิดใช่เลิศเลอ
ใช่กานต์แก้วอันแววไว
๏ ใช่เพชรวิเศษศรี
งามรุจีอย่างที่ไหน
เธอหรือจะสนใจ
กับดินก้อนที่วอนรอ
๏ ดินเก่าเพียงเท่านี้
หรือจะมีสิทธ์ร้องขอ
บุญดีไม่มีพอ
จะเคียงคู่อยู่ข้างกาย
๏ เด่นดาวสกาวฟ้า
น้อมลงมานั้นอย่าหมาย
ฟากฝันเกินบรรยาย
ไม่เคยแม้จะแลมา
๏ ดินร้างกระด้างหยาบ
เจ้าริอาบแสงดารา
รู้ดีไม่มีค่า
มิอาจเอื้อมแสงสุวรรณ
๏ ดาวจ๋ายินข้าไหม
ทุกข์ในใจสารพัน
เหลียวแลอยู่แค่นั้น
คงเท่านี้ก็ดีใจ
๏ เห็นดาวพราวสว่าง
ดินกระด้างก็แจ่มใส
คืนหนาวทุกคราวไป
ยังพร่ำเพ้อเผลอคำนึง
๏ เพียงนี้แหละดินหนอ
ได้เพียงรอพอคิดถึง
จดจำและรำพึง
แค่แอบหวังก็ยังดี
๏ อื่นใดคงไม่กล้า
เพราะเกินค่าที่ดินมี
ความฝันพอกันที
อย่าหลงใหลให้เกินเลย
๏ เท่านี้เถอะดินหนา
เหม่อมองฟ้าเหมือนเช่นเคย
เลิกคิดจะชื่นเชย
เธอแสงดาวเราเศษดิน...
...ดาวจ๋า เศษดินอย่างข้า ฤๅหวังกำลังใจ...