ฉันไม่เหลืออะไรไว้ชมชื่น เมื่อได้ตื่นจากกมลที่หม่นหมอง ลบกิเลสชั่วร้ายคอยหมายปอง ลด,ละ,ครองอัตตาพาทุกข์ตรม ฉันไม่เหลืออะไรไว้เบื้องหลัง คงแต่ยังสัจธรรมนำสุขสม ที่ปลุกใจให้สะอาดปราศโง่งม สุขบรมหวังบรรลุโลกอุดร ฉันไม่เหลืออะไรไว้ยึดติด นอกจากจิตซึ้งพระธรรมคำสั่งสอน ของพระองค์พุทธะชินวร ไว้ริดรอนทุกข์มหันต์ให้บรรเทา ฉันไม่เหลืออะไรไว้เบื้องหน้า ไม่นำพาต่อชีวีที่โง่เขลา ความทรงจำประทับไว้ตรึงใจเรา มีแต่ความว่างเปล่า...เท่านั้นเอง
20 มกราคม 2551 11:30 น. - comment id 813060
ปราถนาให้เหลือแค่ความว่างเปล่าค่ะ.. เป็นบทกวีที่ให้ข้อคิดดีค่ะ..
20 มกราคม 2551 12:10 น. - comment id 813091
อนุโมทนาบุญด้วยจ้า
20 มกราคม 2551 12:17 น. - comment id 813095
ขอบคุณ "ครูพิม" เพื่อนผู้สร้าง ร่วมแนวทางวางรากฐานการศึกษา เราเป็นครูไร้ซีแถมขี้ยา ชมชอบดื่มสุราเป็นอาจินต์ ประเมินผลหลายปีไม่มีขั้น เพราะเงินเดือนตีบตันเพดานปลิ้น ว่างเลยเพียรเขียนภาษาสุราริน วรรณศิลป์แบบท่าน"ภู่" ครูกลอนเอย
20 มกราคม 2551 12:34 น. - comment id 813101
สาธุ ให้ข้อคิดที่ดีจริงๆค่ะ คนเราถ้าไม่ยึดติด กับสิ่งใด ก็จะมีแต่ความสุขใจ ความพอเพียง เป็นครูไร้ซีเหมือนกันค่ะ แต่งได้ดีมากค่ะ
20 มกราคม 2551 14:22 น. - comment id 813156
ความทรงจำสีจางเกือบว่างเปล่า ยังมีเงาเลือนรางอำพรางแฝง ที่หลงเหลือเอาไว้ไม่แสดง จึงต้องแสร้งเกลื่อนกลบเพื่อลบรอย สวัสดีค่ะ มาเปลี่ยนอารมณ์นิดหน่อยนะคะ
20 มกราคม 2551 14:42 น. - comment id 813161
ความทรงจำเคลือบแคลงแอบแฝงอยู่ คือ-ตัวกู-ยังติดพิษตัณหา นั่น-ของกู-ยังเป็นบ่วงหน่วงชีวา จักไขว่คว้านิพพานได้ฉันใด ทุกทุกสิ่งทุกทุกอย่างคือว่างเปล่า เพียงสามัญอย่างเราเข้าใจไหม ? ถึงเรารู้เหมือนว่าเราจะเข้าใจ ดูเหมือนใกล้แต่ไกลลิบ...แดนนิพพาน ขอบคุณด้วยใจจริงครับ สำหรับกลอนธรรมะสำชำระ-ขัดเกลาจิตใจให้ว่างเปล่ายิ่งขึ้น
20 มกราคม 2551 18:58 น. - comment id 813244
หวัดดี ครับ... อ่านกลอนใน คห.๓ นึกแล้วเห็นภาพเลยครับ ว่าแต่จริงตามที่บรรยายหรือเปล่าครับ เผื่อจะได้ เป็น ๑ผู้ร่วมก๊งกันในสักวันครับ...
5 มีนาคม 2554 10:07 น. - comment id 1186661
แต่งได้ไพเราะ กินใจมากๆเลยครับ ตรงกับความรู้สึกของผมในตอนนี้