มนุษย์เอ๋ยมีอะไรมาด้วยเจ้า ถึงมัวเมาคอยอิจฉาริษยา เห็นเขาดีเขาเด่นเกิดอัตตา อย่ามัวบ้าวางเถิดหนาจะพาจม หากจิตเราคอยแต่คิดอกุศล ใจคงหม่นร้อนรุ่มพาขื่นขม จิตระแวงขัดแย้งแปร่งอารมณ์ นั่งทุกข์ตรมด้วยไฟไหม้อุรา ปิยมิตรดีกว่าอย่าห้ำหั่น จับมือกันให้มั่นนั้นเถิดหนา แสงสีทองส่องฟ้าอิสรา ไม่โรยราสังคมดีมีน้ำใจ มีรอยยิ้มมาฝากยามพบเจอ อย่ามัวเหม่อเย่อหยิ่งทำยิ่งใหญ่ เหยียดหยามกันแล้วนี่ได้อะไร มีไมตรีให้กันไว้ใช้ปัญญา ไม่มีใครเหาะเหินเดินอากาศ ร่างสลายกลายเป็นธาตุของดินฟ้า อยู่ด้วยกันอย่ามัวแบ่งศักดินา ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้สักคน.......
16 มกราคม 2551 19:26 น. - comment id 811933
โลภโกรธหลงยึดถือคือกิเลส ในขอบเขตอกุศลผลนี้หนา อย่าไปยึดตัวตนเห็นเป็นอัตตา ใช้ปัญญาพินิจคิดด้วยธรรม
16 มกราคม 2551 19:26 น. - comment id 811934
เจริญพร คุณพิมญดา พระมาเยี่ยมจ้า บทกลอนแบบนี้ไม่เรื่อยเปื่อยแน่นอน ให้ข้อคิดดีด้วย ไม่มีใครอยู่ย้ำจนค้ำฟ้า ถึงเวลาเน่าสลายกลายเป็นผง แต่บุญบาปซาบซึ้งยังยืนยืนยง สถิตย์คงมั่นหมายไม่หายไป... เจริญพร....
16 มกราคม 2551 22:14 น. - comment id 811978
สาธุ..อยากกินกล้วยบวชชีจริงๆ อิอิ ฝันดีค่ะ
16 มกราคม 2551 22:25 น. - comment id 811981
มะมีใครอยู่ค้ำฟ้า แต่ เมามากต้องหาไรค้ำ เดียวกลิ้งค่า อิอิ .... บวชดิค่ะ จาไปสึกชี
16 มกราคม 2551 22:38 น. - comment id 811991
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าไปหาเถิด ด้วยเมื่อเกิดแล้วต้องตายสลายหนี ร่างผุพังฝังไว้ใต้ปฐพี ทั้งคนดีคนเลวแหลกเหลวลง ไม่มีใครมีสุขหรือทุกข์ท้อ เพียงตนก่อสร้างเรื่องเฟื้องใหลหลง คิดคาดเดาตามเขาเล่าบอกบ่ง หมั่นบรรจงแต้มสีตามที่จินต์ ไม่มีใครรักใครในที่สุด แค่เพียงพูดเพ้อพร่ำจำถวิล ทุกสิ่งล้วนลับหายละลายสิ้น คู่ชีวินต์คงพรากต้องจากลา ไม่มีใครรักเธอเพ้อเท่าฉัน เฝ้ารำพันถึงเธอละเมอหา ด้วยฉันแจ้งจิตเธอเหม่อวิญญาณ์ รู้เธอหนาคือใจฉันมิผันแปร ฉันคือเธอ เธอคือฉัน ทั้งที่ไม่มีฉันไม่มีเธอ เมื่อไม่มีฉันไม่มีเธอ...ย่อมเหลือเพียงความรักที่แท้จริง..เหนือความตายทั้งมวล เนื่องเพราะหามีใครเกิดใครตายไม่ เรามิใช่สองคล้องเป็นหนึ่ง !.....อิอิอิ หนุกจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
16 มกราคม 2551 23:02 น. - comment id 812000
แต่งกลอนบทนี้ออกมาก็แสดงว่าสร่าง.......แล้วละ.
17 มกราคม 2551 05:08 น. - comment id 812042
17 มกราคม 2551 05:46 น. - comment id 812055
สาธุ ให้ข้อคิดดีค่ะ
17 มกราคม 2551 07:34 น. - comment id 812072
ใช่แล้วครับไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรอก จะทำอะไรก็ต้องรีบทำ คำพระสอนไม่ให้อยู่อย่างประมาท ( ใกล้วาเลนไทม์อีกแล้วนะจ้ะ )
17 มกราคม 2551 09:08 น. - comment id 812082
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า แต่ความดี/ชั่วอยู่ค้ำตัวคน..เนาะ
17 มกราคม 2551 10:58 น. - comment id 812109
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้หรอกค่ะ..แต่ความดีที่เราทำเท่านั้น ถึงจะอยู่เชิดชูต่อไป...
17 มกราคม 2551 11:34 น. - comment id 812147
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าค่ะ ไปทานข้าวกันค่ะ หิวแล้ว
17 มกราคม 2551 11:42 น. - comment id 812161
แค่สูง 176 นี่ก็ว่าสูงแล้วนะ หากให้ค้ำฟ้า ไม่เอาแล้วครับ
17 มกราคม 2551 16:02 น. - comment id 812238
รายเนี่ย พิมจัง ออกแนวธรรมะตั้งแต่เมื่อไหร่นี่ ยาขออยู่ค้ำฟ้าแระกาน บังเอิญตัวหนัก..หุหุ
17 มกราคม 2551 20:24 น. - comment id 812363
* ฝากประชาสัมพันธ์ท่านผู้ชื่นชอบบทกวี * ขอเชิญทุกท่านร่วมส่งบทกวีในหัวข้อ "Generation me: ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม" เข้ามา เพื่อร่วมอ่านบนเวทีกับ ศักดิ์สิริ มีสมสืบ ไม่จำกัดอายุผู้ส่ง ไม่จำกัดจำนวนบทกวี ไม่จำกัดประเภท ไม่จำกัดความยาว ไม่จำกัดอะไรเลย! แต่จำกัดระยะเวลาส่ง วันนี้ - 20 มกราคม ทางอีเมล yv@deksiam.com หรือแฟ็กซ์ 02-9383831 ส่งมาแล้วได้อะไร รับของที่ระลึกสุดพิเศษ (ยังไม่บอกตอนนี้ เพราะเดี๋ยวจะไม่พิเศษ) ได้ลองเขียนบทกวี (หรือได้เขียนอย่างที่เคยเขียน) ในหัวข้อที่ไม่เคยเขียนมาก่อน ได้ขึ้นเวที กระทบไหล่กวี 2 คนในเวลาเดียวกัน ทั้งกวีซีไรต์และกวียุคใหม่ ได้มาร่วมงานนี้พร้อมกับเรา! สิทธิประโยชน์มากมายขนาดนี้ ไม่เขียน-ไม่มา-ไม่ได้แล้ว...
17 มกราคม 2551 20:46 น. - comment id 812378
สงบจิต ใจพบสงบแน่ ไม่อ่อนแอ แพ้ใจให้ฝึกฝน ใจเยือกเย็น สดับ กับผู้คน คงสุขล้น....พบสงบ พบแสงธรรม.. ขอให้คุณแม่หายป่วยไวไวนะคะ รักค่ะ
17 มกราคม 2551 21:14 น. - comment id 812384
"เป็นวัฏจักรวงล้อของชีวิต วงเวียนชีวิตที่มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นปฏิจสมุปัณธรรม เป็นลักษณะของอริยสัจ 4 และมี 12 ราศีคือ สัตว์ทุกตนต้องอยู่ในเกิด แก่ เจ็บ ตาย สัตว์ทุกตนต้องมีทุกข์ และ เมื่อเห็นเหตุแห่ง ทุกข์ก็จะหาวิธีพ้นทุกข์ ใน 12 ปีเกิด ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ... อักษรไทยโบราณ มีความหมายว่า กายศักดิ์สิทธิ์ ธรรมศักดิ์สิทธิ์ จิตศักดิ์สิทธิ์ และวิถีแห่งพุทธะ อันเป็นหนทางการเข้าไปสู่เป้าหมายของชีวิตคือ ความเป็นอิสระ และ เสรีภาพ ...ฉันไม่อยากให้เห็นว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องเลวร้าย แต่อยากให้พิจารณาว่า การเกิดมีแล้วก็ใช้ให้คุ้มค่า การแก่มีแล้วก็ใช้มันให้เป็นครูเรา ความเจ็บมีแล้วก็ใช้มันเป็นเครื่องสอนเรา เตือนสติเรา อย่าให้หลงงมงาย จนเมาในวัย ในชีวิต ลาภ ยศ ศักดิ์ศรี ชื่อเสียง เมาในทรัพย์สมบัติ ความตายเมื่อมีแล้วก็ใช้มันเป็นเครื่องสอนเราว่า ความเมาทั้งหลาย เมื่อตายแล้วไม่ได้อะไรกลับไป " คัดลอกจาก http://www.dhamma-isara.org/ คัดลอกมาให้อ่านจ้า แล้วตัดสินใจจะบวชชีเมื่อไหร่อย่าลืมบอกด้วยนะครับ