1. ฯพณฯ อารมณ์ดี เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มองเห็นเหตุประเทศใด ไม่ใส่ใจคนไม่สำคัญ เห็นแล้วท่านหัวร่อ ว่าเออนี่แหละหนอกุญแจนั่น กุญแจไขจากปัจจุบัน สู่อนาคตอันรุ่งเรือง 2. ท่านจึงจารถ้อยคำ อ่านสนุกอย่างลำนำเฟื่อง หมายให้ปัญญาประชาประเทือง คนไม่สำคัญเต็มเมืองมีคนใส่ใจ 3. คนแรกที่เขียนถึงคือนายสอ คนหนุ่มรูปไม่หล่อร่างใหญ่ ผิวคล้ำถึงดำเมี่ยม ถนัดงานจนเจียมกับจอบไถ ไถดะ แปร และดะ ไม่ดักไถกระทั่งพระแบบไผ ที่ตั้งด่านสะดวกดี รีดไถประชาชีผู้ยากไร้ นายสออุตสาหะ แต่ไม่พอกินนะเชื่อหรือไม่ ใครไม่เห็น ฯพณฯ เห็น คอยติดตามประเด็นต่อไป ------------------------------------------------------------------------------------------ สอปลูกมันสำปะหลัง แลกข้าวสารทีละถังกินยาไส้ (กลอนหัวเดียว) หัวมันสี่ห้าหัว แต่ก่อนหนักปานวัวยกบ่ไหว ตอนนี้หัวเล้กเล็ก เท่ามันเทศแขกเจ็กงงกงันใหญ่ ว่าทำไมปลูกกันอยู่ ก็เมื่อคนเขารู้ว่าพืชไร่ พวกนี้ทำลายดิน ความอุดมมีแต่จะสิ้นลงไป สอบอกให้ปลูกหยัง ที่มันได้กะตังสิปลูกให้ ปลูกข้าวยังซื้อข้าว ปลูกเรือนบ่มีแม้เล้าจะอาศัย ดินดอนในดงด่าน แค่แมวดิ้นก็เป็นดานปานอะไร หัวมันรีบจะลีบ เห็นมันแล้วมันบีบหัวใจ ขุดมันขายไปซื้อข้าว ต่อชีวิตให้ยาวยืดออกไป ก่อนนี้สอก็เก่งนา เก่งทั้งปุ๋ยทั้งยาแกลลอนใหญ่ เกษตรเขาส่งเสริม ให้ทิ้งแบบเดิมเดิมทำแบบใหม่ ปลูกข้าวหมายเอารวย แต่ที่สุดก็แทบม้วยแกมหมองไหม้ โรคข้าวเคล้าโรคคน ยิ่งเจ็บก็ยิ่งจนจนยางไหล ขายข้าวรักษาแขน เกิดหนี้สินถึงแสนขึ้นจนได้ สอโซอกอักเสบ ซมซานปานบาดเจ็บตรงขั้วใจ เพื่อนสอนับถึงซาว ชวนขึ้นภูเอื้อมดาวเพื่อวันใหม่ เลิกนามาปลูกมัน ปีแรกอัศจรรย์ปานเทพให้- พรเพื่อจะพ้นทุกข์ ก็ขยายแดนปลูกมันกันใหญ่ หักล้างและถางพง ตัดไม้ใหญ่น้อยลงเพื่อเอาไร่ พอมันจะพอหนี้ ราคามันก็ตกซีเอ๊ะปีไหน ฝรั่งซื้อมันเลี้ยงม้า คนปลูกมันเหมือนหมาเลยว่าไหม ขว้างมันใส่หัวหมา มันแพงกว่าขี้ม้าก็หาไม่ ขายมันมึนกลับมา เอาไปซื้อน้ำปลาน้ำตาไหล ได้น้ำปลาขวดเท่าก้อย เหยาะลงแจ่วจิ้มอร่อยพอกินได้ หมดมันก็หมดข้าว เรื่องของสอยังอีกยาว โปรดอดใจ 4.ตอนที่สอต้องสูญนา ลุงป้าน้าและอาหาอยู่ไม่ ทุกคนอยู่บนสวรรค์ ป่วยด้วยโรคอะไรนั้นจำไม่ได้ เจ็บขาและเจ็บหัว และก็เจ็บทั่วตัวแถมมีไข้ บ้างก็ว่าไข้ฉี่หนู แต่สอบอกว่ากูว่าไม่ใช่ อาการมันเหมือนง่อย เปลี้ยลงทีละน้อยแล้วหลับไหล ไหลตายแหละเขาว่า โรคสำหรับบรรดาประชาไทย ที่เจ็บจนและข้นแค้น ทั้งๆ ที่เขาแสนจะมีไฟ ไฟความอุตสาหะ แต่ยังจนเออวะ เพราะอะไร 5.ฯพณฯเขียนแล้วยิ้ม (กลอนสุภาพ) วงหน้าเอิบอิ่มนั้นผ่องใส บางทีหมายเหตุประเทศไทย จะเหมือนหมายเหตุใหญ่ในลาติน ทุกคนดูขยันแต่ทุกข์ยาก ประเทศมั่งคั่งมากด้วยทรัพย์สิน คนเป็นแสนเป็นล้านไร้อันกิน สุดท้ายสูญที่ดินเร่ขายแรง ฯพณฯ อมยิ้มอยู่คนเดียว นึกภาพสอซีดเซียวทุกหัวระแหง นี่ไงไทยแลนด์แดนทองแดง มีจุดแกร่งตรงคนยากมากนี่ไง ฯ -----------------------------------------------------------------------------------
1 ธันวาคม 2550 14:19 น. - comment id 795408
สวัสดีครับมิตรทุกท่าน ผมนึกสนุกนะปีนี้ กะจะเขียนชีวประวัติบุคคลไม่สำคัญ ออกมาซักหนึ่งชิ้น เป็นแบบไปเรื่อย ๆ ฉันทลักษณ์ผสม เนื้อหาคงหมายให้สนุกเสียดเย้ยน้อยๆ ที่เสียดเย้ยคงเป็นชีวิตคนเขียนเองมากกว่า ถ้างานนี้ดัง ผมขอยกความดีทั้งหมดแด่นักเขียนที่ผมเพิ่งอ่านงานของท่าน คุณวิกรม กรมดิษฐ์ครับ
1 ธันวาคม 2550 14:48 น. - comment id 795429
สอปลูกมันสำปะหลัง แลกข้าวสารทีละถังกินยาไส้ หัวมันสี่ห้าหัว แต่ก่อนหนักปานวัวยกบ่ไหว ตอนนี้หัวเล้กเล็ก เท่ามันเทศแขกเจ็กงงกงันใหญ่ ว่าทำไมปลูกกันอยู่ ก็เมื่อคนเขารู้ว่าพืชไร่ พวกนี้ทำลายดิน ความอุดมมีแต่จะสิ้นลงไป สอบอกให้ปลูกหยัง ที่มันได้กะตังสิปลูกให้ ปลูกข้าวยังซื้อข้าว ปลูกเรือนบ่มีแม้เล้าจะอาศัย ดินดอนในดงด่าน แค่แมวดิ้นก็เป็นดานปานอะไร หัวมันรีบจะลีบ เห็นมันแล้วมันบีบหัวใจ ขุดมันขายไปซื้อข้าว ต่อชีวิตให้ยาวยืดออกไป
1 ธันวาคม 2550 15:03 น. - comment id 795436
ก่อนนี้สอก็เก่งนา เก่งทั้งปุ๋ยทั้งยาแกลลอนใหญ่ เกษตรเขาส่งเสริม ให้ทิ้งแบบเดิมเดิมทำแบบใหม่ ปลูกข้าวหมายเอารวย แต่ที่สุดก็แทบม้วยแกมหมองไหม้ โรคข้าวเคล้าโรคคน ยิ่งเจ็บก็ยิ่งจนจนยางไหล ขายข้าวรักษาแขน เกิดหนี้สินถึงแสนขึ้นจนได้ สอโซอกอักเสบ ซมซานปานบาดเจ็บตรงขั้วใจ
1 ธันวาคม 2550 15:07 น. - comment id 795439
จะติดตามอ่านนะคะ อยากให้แต่งเป็นโคลงบ้างนะคะ.. ครูพิมกำลังสอนนักเรียนมอสามเขียนโคลง แต่ครูเขียนไม่เป็น
1 ธันวาคม 2550 15:17 น. - comment id 795442
เพื่อนสอนับถึงซาว ชวนขึ้นภูเอื้อมดาวเพื่อวันใหม่ เลิกนามาปลูกมัน ปีแรกอัศจรรย์ปานเทพให้ พรเพื่อจะพ้นทุกข์ ก็ขยายแดนปลูกมันกันใหญ่ หักล้างและถางพง ตัดไม้ใหญ่น้อยลงเพื่อเอาไร่ พอมันจะพอหนี้ ราคามันก็ตกซีเอ๊ะปีไหน ฝรั่งซื้อมันเลี้ยงม้า คนปลูกมันเหมือนหมาเลยว่าไหม ขว้างมันใส่หัวหมา มันแพงกว่าขี้ม้าก็หาไม่ ขายมันมึนกลับมา เอาไปซื้อน้ำปลาน้ำตาไหล ได้น้ำปลาขวดเท่าก้อย เหยาะลงแจ่วจิ้มอร่อยพอกินได้ หมดมันก็หมดข้าว เรื่องของสอยังอีกยาว โปรดอดใจ
1 ธันวาคม 2550 15:19 น. - comment id 795443
สวัสดีครับครูพิม ก็คิดไว้อยู่นะครับ ว่าจะใส่โคลงลงไปด้วย แต่อาจจะเป็นเรื่องของบุคคลไม่สำคัญต่อจาก สอ เขา ขอบคุณมากนะครับที่เข้ามาคุยด้วย
1 ธันวาคม 2550 15:25 น. - comment id 795445
สวัสดีค่ะ ตอนนี้พิมขออนุญาตขุดงานของคุณ ที่เป็นโคลง... เอาไปเป็นตันตัวอย่างให้นักเรียนอ่าน.. ::ชีวประวัติบุคคลไม่สำคัญ:: งานที่คุณเขียนอ่านได้อรรถรสดีค่ะ รูปแบบก็แปลกดีน่าสนใจ
1 ธันวาคม 2550 15:29 น. - comment id 795447
ขอบคุณอีกครั้งครับครูพิมพ์ ถ้างานของผมมีประโยชน์ใด ๆ ต่อเด็ก ผมขอยกความดีนั้นแด่คุณคมทวน คันธนู ครูที่ผมเรียนรู้จากท่านโดยการติดตามอ่านในสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์ เมื่อนานมาแล้ว กับคุณเวทย์ คุณอัลมิตรา ที่ผมเคารพนับถือ ที่ได้แนะนำการเขียนโคลงแก่ผม ครูพิมพ์นำไปใช้ได้ตามสะดวกเลยครับ
1 ธันวาคม 2550 15:35 น. - comment id 795450
สวัสดีอีกรอบค่ะ ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ ขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้พิมก็พยายามเรียนรู้การเขียนที่นี่ รวมทั้งได้นำนักเรียนเข้ามาศึกษาและสังเกตการใช้คำ การวางแนวคิดในการเขียนที่นี่ค่ะ อากาสเย็นมากดูแลสุขภาพนะคะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
1 ธันวาคม 2550 15:41 น. - comment id 795452
ชื่นชมครูพิมพ์ครับ อุณหภูมิลดลงเร็วมาก เย็นวันหนึ่งผมอาบน้ำอุ่น ออกจากห้องน้ำมาเจออากาศหนาว ผมหนาวจนสั่น ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงนี่เจอหนาวๆคงทนไม่ไหวแน่ แต่ก่อนเคยคุยกับลูกว่าจะไปอยู่เหนือทำสวนสตรอเบอรี่ ตอนนี้เปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว ผมทนหนาวไม่ค่อยได้ คงได้พูดคุยกันอีกนะครับ
1 ธันวาคม 2550 15:48 น. - comment id 795454
คุณก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ ค่ะ การได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว.. เป็นความสุขที่สุดค่ะ.. อากาศหนาวมาก...โดยเฉฉาะที่เลย. เย็นจนเจ็บกระดูกเลยละค่ะ.. เคยดูสารคดีเทิดพระเกียรติพ่อหลวง เกี่ยวกับไร่สตรอเบอรี่..ได้แต่ชื่นชมคนทำสวนทำไร่ และคิดขอบคุณที่ทำให้เราได้ทานสตรอเบอรี่ ผลไม้ที่สวย และรสชาดแซบ...หวานอมเปรี้ยว.. ขอให้คุณและครอบครัวมีแต่ความสุขนะคะ. ต้องพิมพ์งานต่อแล้วล่ะคะ..
1 ธันวาคม 2550 15:53 น. - comment id 795457
ตอนที่สอต้องสูญนา ลุงป้าน้าและอาหาอยู่ไม่ ทุกคนอยู่บนสวรรค์ ป่วยด้วยโรคอะไรนั้นจำไม่ได้ เจ็บขาและเจ็บหัว และก็เจ็บทั่วตัวแถมมีไข้ บ้างก็ว่าไข้ฉี่หนู แต่สอบอกว่ากูว่าไม่ใช่ อาการมันเหมือนง่อย เปลี้ยลงทีละน้อยแล้วหลับไหล ไหลตายแหละเขาว่า โรคสำหรับบรรดาประชาไทย ที่เจ็บจนและข้นแค้น ทั้งๆ ที่เขาแสนจะมีไฟ ไฟความอุตสาหะ แต่ยังจนเออวะ เพราะอะไร
1 ธันวาคม 2550 15:55 น. - comment id 795458
มีสุขกับงานนะครับครูพิม สวัสดีครับ
1 ธันวาคม 2550 16:20 น. - comment id 795483
แวะมาชมครับ ตอนนี้สายสอ.กำลังมาแรงนะครับ มีสอ.ใดบ้างที่ช่วยสะกัดได้
1 ธันวาคม 2550 16:24 น. - comment id 795487
ฮ่าๆ สวัสดีครับ คงสะกัด-และกั้นยากล่ะถ้ามาแรง ขอบคุณคุณบนข. อย่างยิ่งครับ ที่มาทักทาย พูดคุยด้วย
1 ธันวาคม 2550 17:20 น. - comment id 795502
ไม่ค่อยมีโอกาสเข้ามาบ่อยนัก แต่ยังคงคิดถึงชาวบ้านกลอนสม่ำเสมอ และจะรออ่าน "ประเด็นต่อไป" ค่ะ ขอบคุณที่ยังระลึกถึง...อากาศหนาวแล้วรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
1 ธันวาคม 2550 17:36 น. - comment id 795508
ฯพณฯเขียนแล้วยิ้ม วงหน้าเอิบอิ่มนั้นผ่องใส บางทีหมายเหตุประเทศไทย จะเหมือนหมายเหตุใหญ่ในลาติน ทุกคนดูขยันแต่ทุกข์ยาก ประเทศมั่งคั่งมากด้วยทรัพย์สิน คนเป็นแสนเป็นล้านไร้อันกิน สุดท้ายสูญที่ดินเร่ขายแรง ฯพณฯ อมยิ้มอยู่คนเดียว นึกภาพสอซีดเซียวทุกหัวระแหง นี่ไงไทยแลนด์แดนทองแดง มีจุดแกร่งตรงคนยากมากนี่ไง
1 ธันวาคม 2550 17:38 น. - comment id 795509
ขอบคุณคุณนางสาวใบไม้มากครับ ดูแลสุขภาพเช่นกันนะครับ
1 ธันวาคม 2550 18:34 น. - comment id 795519
สวัสดีค่ะพี่ก่อพงษ์ ดอกบัวมาอ่าน ชีวประวัติบุคคลไม่สำคัญ แต่ที่แน่ๆ ดอกบัวขอแอบปริ้นไปอ่าน หน่อยนะค่ะ เพราะพี่ก่อพงษ์เขียนดีจังค่ะ และหลายบทด้วยสิค่ะ บัวขอให้พี่ก่อพงษ์และครอบครังมีความสุขค่ะ
1 ธันวาคม 2550 19:50 น. - comment id 795532
สวัสดีครับน้องดอกบัว ขอให้มีความสุขเช่นกันครับ ปีใหม่ที่จะถึงนี้พี่ขออวยพรให้น้องมีความสุขสมหวังทุกอย่างด้วย ด้วยไมตรีจิตครับ
2 ธันวาคม 2550 23:35 น. - comment id 795867
ไม่ค่อยซาบาย น้ำมูกย้อยเป็นธารน้ำตก ไม่ดีเลยแฮะ เลยปั้นขี้มูกเล่นไม่ได้ ไปนอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ จะมีคนมายิ้ม ที่นี่ .. รู้หรอกน่า
3 ธันวาคม 2550 08:48 น. - comment id 795926
สวัสดีครับพี่.. อ่านชีวประวัติของคุณวิกรม กรมดิษฐ์แล้วเช่นกันครับใน"ผมจะเป็นคนดี" ภาษาราบรื่นของคุณประภัสสร เสวิกุลด้วยหรือเปล่า ที่ทำให้อ่านรวดเดียวจบ บ่อน้ำตาตื้นอะพี่ อ่านแล้วอึ้งกับอะไรต่อมิอะไร กว่าจะมาเป็นวิกรมวันนี้ ขนาดว่ายังไม่ลงรายละเอียดชีวิตรันทดของผู้หญิงแต่ละคนในเรื่องนะ ยังนิ่งงันหลังอ่านจบใหม่ ๆ ได้สาระชีวิตไปเยอะ *** ชอบที่พี่เขียนจัง อ่านอย่างตั้งใจ และปริ๊นส์เก็บไปอ่านที่บ้านต่อด้วย ชอบครับ คำว่า เสียดเย้ย ได้อารมณ์ดี จะตามอ่านต่อเรื่อย ๆ นะครับ
3 ธันวาคม 2550 16:35 น. - comment id 796135
สวัสดีครับคุณอัลมิตรา และคุณร้อยแปดพันเก้า อากาศหนาวเย็นลงอีก 2 องศา ตอนนี้ผมรู้ชัดแล้วว่าผมไปไม่ได้กับอากาศหนาว ความฝันที่จะไปอยู่ทำไร่สตรอเบอรี่เป็นอันพับเก็บไว้ อยู่สกลปลูกหม่อนกินลูกหม่อนไปตามประสาคงพอได้ อากาศที่สกลนครว่าไม่หนาวก็หนาวครับ ผมพยามออกกำลังเรียกเหงื่อและความอบอุ่น แต่พอเจอน้ำเย็นๆก็แหยง ๆ แม้แต่น้ำอุ่น อาบเสร็จมาเจอลมหนาวๆ ก็สั่นอีก ร่างกายในวัยที่แก่ตัวลงนี่ไม่เหมือนเดิมเลย ตอนเป็นหนุ่มผมเคยไปอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ใครเขาอาบน้ำไม่ได้ ผมตักน้ำอาบโครมๆสบายมาก สังขารไม่เที่ยงหนอ ฮา คุณอัลมิตราสบายขึ้นหรือยังครับ ขอให้หายไว ๆ นะครับ คุณ-ร้อยแปดพันเก้า- ครับ เล่มใหม่ของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ชื่อ CEO มองซีอีโอโลกครับผมได้มาจากร้าน สะดวกซื้อที่ปั๊ม ปตท.เล่มละ 100 อ่านสนุกมาก ได้แรงบันดาลใจเพียบ คำเสียดเย้ย ดูเหมือนผมจะเก็บมาจาก คอลัมน์สิงห์สนามหลวง ของคุณสุชาติ สวัสดิ์ศรีนะครับ ผมชอบคำ ของท่าน ภาพเขียน และงานบรรณาธิการของท่านด้วย ผมนับถือความเรียบง่ายแต่อัศจรรย์ของท่านมากครับ ปีนี้ผมอยากสร้างงาน ซักชิ้นจึงได้ลงมือนี่แหละครับ ขอบคุณครับ
4 ธันวาคม 2550 12:13 น. - comment id 796509
สวัสดีครับพี่ก่อพงษ์ ผมยังไม่ได้อ่านเล่มหลังน่ะครับ จะคุยก็คุยไม่ได้ เลยเล่าที่อ่านแล้วน่ะครับ พี่พูดแบบนี้ เดี๋ยวคงได้หยิบมาอ่าน กำลังหาแรงดาลใจอยู่เหมือนกัน ความหนาวทำเจ้าชู้.. เลยคุดคู้ใต้ผ้าห่ม ขี้เกียจเขียนไปซะงั้น
4 ธันวาคม 2550 15:55 น. - comment id 796579
อืมม.....น่าศึกษา
4 ธันวาคม 2550 16:52 น. - comment id 796610
สวัสดีครับคุณร้อยแปดพันเก้า ผมเคยลองจะเขียนตอนที่อากาศหนาวจัดๆ เขียนไม่ออกดอกครับ จนเวลาล่วงเข้าหน้าร้อนจึงเขียนถึงความหนาวได้ บทนั้ชื่อคืนที่เยือกหนาวที่สุด ได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสารผู้หญิงครับ รักษาสุขภาพนะครับ
4 ธันวาคม 2550 16:55 น. - comment id 796611
ทักทายคุณโคลอนครับผม ผมอยากเขียนต่อจังครับ ชีวประวัติบุคคลไม่สำคัญในประเทศของเรา ผมกะว่าจะเข้าไปนั่งในใจของท่านนายกรัฐมนตรีแล้วมองมายังชาวบ้านซึ่งเป็นบุคคลไม่สำคัญหลังเลือกตั้งเหล่านั้น ฮา ขอบคุณนะครับที่เข้ามาพูดคุยด้วย รักษาสุขภาพนะครับ