เทียนกระทงวิบวาวอยู่ไกลลิบ ส่องกระพริบแพรวพราวราวฝุ่นแสง “เอาเถอะน่า เที่ยวสุดท้ายก่อนหมดแรง” ขอค่าแกงมื้อรุ่ง ของพรุ่งนี้ ..................................... เขาบรรจงส่งจิตอธิษฐาน ล่องผ่านธารไหลมาถึงนี่ ลอยความทุกข์ลาลับกับวารี ให้สิ้นเคราะห์เสียที ทั้งปีนั้น แหวกว่ายแคล่วคล่องล่องน้ำเชี่ยว ประเดี๋ยวเดียวก็ถึงซึ่งใฝ่ฝัน เห็นเหรียญสิบหยิบไว้ให้ตื้นตัน คงเหลือพอแบ่งปันไปโรงเรียน .......................................... เหรียญเต็มทั้งสองมือ ยังถือแน่น เกลียวคลื่นก็โลดแล่นน่าปวดเศียร ตะกายน้ำกลับฝั่งทั้งวิงเวียน มือยังกำเหรียญ ไม่ยอมคลาย สติวูบวิบวับ ดับกลางน้ำ เงาร่างสีดำก็ลับหาย ดิ่งลงสู่พื้น โคลนดินทราย ท่ามกลางเสียงวี้ดว้าย ที่ชายฝั่ง สลัมหลังน้อย ยังคอยท่า แววตาเศร้าสร้อย คอยความหวัง เหมือนนกน้อยคอยแม่ บินกลับรัง ดึกแล้วพี่ยังไม่กลับมา ทราบข่าวพี่ชาย ตายเสียแล้ว ศพนิ่งแน่แน่ว ที่ชายท่า ก้มลงกอดพี่ ทั้งน้ำตา มือของพี่ยา ยังไม่คลาย พี่ชายของสายลม+ระพีพงษ์
24 พฤศจิกายน 2550 23:01 น. - comment id 793072
เรื่องนี้เป็นข่าวทุกปีเลยนะ สักครู่นี้ก็ยังมีข่าว เด็กๆ ลง ไปหาเหรียญในกระทง กับ รับจ้างดึงกระทงไปปล่อย กลางแม่น้ำ โอกาสเสี่ยงที่ จะเกิดเหตุการณ์เหมือน ในกลอนจึงมีมากนะคะ
25 พฤศจิกายน 2550 00:25 น. - comment id 793086
เป็นความรู้สึกที่เศร้าแต่มีความคิดถึงที่ดีของคนในครอบครัวที่ระลึกถึงคนที่จากด้วยความดี และสู้ชีวิตนะ แต่ฝากเตือนอันตรายดังที่เคยเกิดด้วยนะ
25 พฤศจิกายน 2550 20:56 น. - comment id 793270
ไพเราะมากมายครับ ยอดเยี่ยมเลย....
26 พฤศจิกายน 2550 11:57 น. - comment id 793469
มันเป็นความเศร้าอย่างยิ่ง,,,,,,นี่คือชีวิตจริงของบางเสี้ยวส่วนในสังคมไทยเรา....ต่อสู้ต่อไปครับ....รับทราบ..รับรู้..เศร้าๆๆๆๆจริงๆๆ