อนุตตราจารย์
คีตากะ
ณ สภาลดาวัลย์ไพรสัณฑ์สณฑ์
เวไนยชนหลากเหล่าเฝ้าน้อมเศียร
ล้วนปิติปรีดามามณเฑียร
ตั้งจิตเพียรฟังธรรมคำศาสดา
พิศพักตร์เนตรเมตไตรยไอศวรรย์
ไป่เหียนหันไหวติงอหิงสา
ทั้งตรีโลกยกกรว่อนวันทา
สรรเพชุดาชี้แจงสำแดงธรรม์
เปล่งรัศมีวิภากาญจนาแสง
สกลแหล่งชัชวาลกระสานติ์สันต์
จะแจ้งจิตวิชชาอภิธรรม์
สรวงสวรรค์สั่นไหวในบัดดล !
มนสิการภารดีมุณีสอน
เอิบอาบพรโอภาสเดียรดาษหน
สารัตถะสถิตจิตกานนท์
อิ่มกมลน้อมรับสดับธรรม
ปัญจขันธ์นั่นแล้แท้สุญว่าง
ดุจเรือนร้างวางเว้นเป็นสุขหนำ
มุ่งแดนทิพย์นิพพานพิศาลธรรม
จักน้อมนำกุศลพ้นมายา
บัณฑิตพึงฝึกฝนข่มตนหัด
ยังมนัสภัสสรในไตรสิกขา
ปปัญจธรรมปฏิเวธเจตนา
เปี่ยมศรัทธามิ่งมิตรสิทธาจารย์
ตัตวธรรมล้ำลึกสุดนึกคิด
เที่ยงเป็นนิตย์อิสระกระเษมสานต์
สัพพัญญูรู้แจ้งแทงดวงมาน
ยังสงสารย่อยยับอับปางดล
บำเพ็ญเพียรภาวนาสมาธิ
ละทิฐิอัตตาพามรรคผล
สู่วิวัฏจรัสแสงแห่งกมล
ดังนิโลบลแผ่ปกโบกขรณี
ดูกร ! ตถาคตหมดจดแล้ว
สิ่งพานแผ้วทั้งผองสิ้นหมองศรี
จิตสะอาดปราศทุกข์รุกอินทรีย์
ผลาญไพรีหมู่มารแหลกลาญลง
หยั่งรู้ชัดสัตถาเทวามนุช
แจ้งวิมุตศิวโมกข์ไตรโลกสงค์
โลกธาดาสวรรค์สรรค์เยียรยง
มั่นดำรงอมตะอัประไมย
เหล่าชนเขลาเฝ้าแลแต่พาเหียร
วนว่ายเวียนเสาะหาพาหลงใหล
หาหยั่งรู้ผู้เป็นจ้าวภูวไนย
สถิตในตนมันมิผันแปร
มาตรเกิดตายหลายกัลป์อนันตชาติ
โลกนาถเนานิ่งยิ่งเที่ยงแท้
ไร้รูปลักษณ์ห่อนพิศวิจิตแล
ชำแรกแผ่จักรวาลอภิบาลธรรม์
อุปริสัจตรัสล้วนถ้วนกถา
ภควาพริ้มเนตรก้มเกศหัน
ทรงเข้าณานศานติปริเวกพลัน
เวไนยนั้นอาสวะล้วนละแล........