ที่ประชุม กลุ่มย่อย น้อยมอบหมาย ทั้งหญิงชาย หน่ายคิด เป็นหนักหนา เด็กที่สุด ในกลุ่ม โยนมอบมา กำหนดว่า นิทาน รอบกองไฟ สิบนาที พอเหมาะ นิทานสั้น เตรียมให้ทัน สองวัน พุธสดใส ลูกเสือน้อย คอยซ้อม รวมพลไว เพื่อจะได้ แสดง ในวันงาน ขอคติ สอนใจ ในตอนจบ ขอให้พบ ข้อคิด ไว้สืบสาน ขอกระชับ ไม่ยืด น่าติดตาม ขอนงคราม ด้ามถอด เขียนส่งมา โอ้ละหนอ ขอจิต จากผองเพื่อน อย่าแชเชือน บรรเจิด เป็นหนักหนา จิตรำพัน นั้นนั่ง ปวดอุรา ขอนำพา ช่วยหน่อย แต่งช่วยที
24 กันยายน 2550 20:59 น. - comment id 758935
อันนี้บทละครคำกลอนนะจิตรำพันเอาไปขยายความเอาเองเด้อ พอใช้ได้นะให้เด้กแสดงได้จ้ะ วันนี้คุณพ่อท่านใจดี ให้เงินพี่สิบบาทไม่ร้องขอ แต่คุณพี่ทำหายจึงหน้างอ น้องตามล้อเลยถูกตีมีน้ำตา คุณพ่อเรียกอบรมบ่มนิสัย หัดทำใจทนอดลดปัญหา เงินหายแล้วตีน้องไม่คืนมา เลิกทำหน้าบูดเบี้ยวเดี๋ยวไม่งาม คุณพี่จึงเสียใจและได้คิด ขอโทษน้องทำผิดด้วยผลีผลาม ต่อแต่นี้ขอสัญญาพยายาม จะหักห้ามอดกลั้นไม่โกรธเคือง
24 กันยายน 2550 21:04 น. - comment id 758937
สนใจคุยกันทาง MSN ได้ค่ะ เบอร์เมล์ตามในข้อมูลส่วนตัวนะคะ
24 กันยายน 2550 21:22 น. - comment id 758944
หนูน้อยบัวผันเด็กดี คุณพ่อแม่มี ความรักมอบให้ใจจริง หนูเกิดมาเป็นเด็กหญิง ช่างโชคร้ายจริง ใบหูข้างหนึ่งพิการ เมื่อไปโรงเรียนเขียนอ่าน เพื่อนเพื่อนประจาน หนูอายไม่อยากจะไป คุณพ่อและแม่เห็นใจ รีบเร่งเร็วไว พาไปหาหมอทันที คุณหมอท่านก็ใจดี ตรวจดูถ้วนถี่ มีทางแก้ไขได้ทัน ตรวจเช็คร่างกายเร็ววัน ด้วยคุณแม่นั้น สามารถช่วยเหลือเกื้อกูล เข้าห้องผ่าตัดจำรูญ แม่ยอมสิ้นสูญ บางส่วนเพื่อเจ้าลูกยา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หนูน้อยเริ่งร่า เพื่อนเพื่อนไม่ล้อให้อาย แต่อดแปลกใจไม่วาย คุณแม่โฉมฉาย ไว้ผมยาวสวยช่วยอำ หนูน้อยไม่เคยจดจำ สิ่งที่แม่ทำ รู้แต่แม่ไว้ผมยาว จนหนูเติบใหญ่เป็นสาว ความสวยแพรวพราว ร่ำเรียนสำเร็จเสร็จงาน ชีวิตกำลังเบิกบาน ต้องใจร้าวราน แม่ด่วนมาพรากจากไป วันที่โศกาอาลัย รดน้ำศพให้ พ่อเปิดผมแม่แน่นอน หัวใจลูกนี้ร้าวรอน ทุกบททุกตอน แม่เหลือใบหูข้างเดียว สายธารเนตรหลั่งลงเชียว เพราะแม่คนเดียว หนูจึงสวยงามอร่ามตา ใบหูของแม่นั่นหนา อยู่ร่วมกายา ลูกน้อยรู้แน่แก่ใจ กอดแม่แน่นิ่งร้องไห้ แม่จ๋าทำไม ไม่เอ่ยบอกลูกสักคำ พ่อบอกแม่เต็มใจทำ ขอลูกจดจำ ทำดีทดแทนแผ่นดิน แม่คงเป็นสุขอาจินต์ น้ำตาอาบริน สัญญาจะเป็นคนดี ทดแทนพระคุณที่มี ประกอบชีพนี้ ด้วยสัมมาชีพครองตน พระคุณพ่อแม่มากล้น ทุกผู้ทุกคน ทดแทนอย่าทอดทิ้งเลย ทุกข์ยากอย่างไรไม่เอ่ย ให้ลูกรู้เลย ลูกเอ๋ยอย่าลืมพระคุณ.. ลูกเอ๋ยอย่าลืมพระคุณ.. ลูกเอ๋ยอย่าลืมพระคุณ.. ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ดัดแปลงเป็รละคสั้นๆๆได้นะคะ โชคดีค่ะ...
24 กันยายน 2550 21:35 น. - comment id 758946
สวัสดีค่ะคุณเก็จถะหวา ขอบคุณนะคะ จิตรำพันจะเก็บไว้ค่ะ ลองดูว่าจะขยายให้เด็กๆ แสดงได้ไหมนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สนใจนะคะ แต่ว่าจนปัญญาค่ะ เพราะ MSN ช่วงนี้เข้าไม่ได้เลยค่ะ ดึกๆ ถ้ายังไม่หลับจะลองพยายามดูค่ะ อิอิ
24 กันยายน 2550 21:43 น. - comment id 758950
สวัสดีค่ะพี่พิม เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยค่ะ รู้สึกตื้นตันใจค่ะ แต่เอไม่แน่ใจว่าเด็กจะสามารถสื่อความหมายได้รึเปล่า จะลองพยายามให้เด็กเข้าใจค่ะ ขอเอาไปให้ครูโรงเรียนอื่นๆ ช่วยดูนะคะ งานครั้งนี้เป็นงานชุมนุมลูกเสือของ สพท. ค่ะ ส่งตัวแทนลูกเสือโรงเรียนละ ๓ นาย พร้อมผู้บังคับบัญชา ๑ นาย คงต้องให้พิจารณาร่วมกันค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
25 กันยายน 2550 00:50 น. - comment id 758992
นั่งปวดใจไม่หายหน่ายจริงหนอ เงินไม่พอจ่ายของต้องประสงค์ ทีวีใหม่จอแบนแหงนหน้าลง สวยทรวดทรงอวดเพื่อนบ้านเรือนเคียง นั่งถกเถียงกับแฟนจอแบนใหม่ หากเราได้มาวางข้างเครื่องเสียง คงกระหึมครึ้มทั่วรั้วระเบียง บ้านเรือนเคียงเอียงโสตกระโดนตาม น่ะแม่งามงอนจ๋าอย่าสงสัย ยืมเงินใครช่วยพี่สี่พันสาม ถ้าเงินเดือนพี่ออกเพิ่มดอกงาม สี่พันสามชดใช้ให้ห้าพัน รับประกันไม่เบี้ยวเลี้ยวคดโก่ง แม่โฉมยงรับรู้คู่พี่นั้น บอกเขาว่าอย่าห่วงทวงถามกัน เงินเดือนหน้าพี่นั้นเจ็ดพันชัวร์ หยิบยกทั่วทุกอย่างทางคำอ้าง หูตาเริ่มสว่างนางตอบผัว เงินเดือนพี่เจ็ดพันมันก็ชัวร์ แต่ครอบครัวเราล่ะจะทำไง ทั้งค่าไฟค่าน้ำตามมาเพิ่ม อีกค่าเทอมลูกยังยืมตังค์ให้ ทีวีเก่าเรามีสีอะไร? ทีวีใหม่จอแบนแสนอับอาย เพราะที่ได้มานั้นมันไม่ถูก เมียและลูกท้องกิ่วหิวกระหาย ให้เพื่อนบ้านเขาชมถ่มน้ำลาย ครอบครัวนี้ฉิบหายขายความจน พอเลี้ยงตนพอดีที่มีอยู่ เราคุ้นหูทุกวันกี่พันหน เดินไปไหนตามซอกตรอกบ้านคน พอเพียงเลี้ยงชีพตน"จน"ไม่มี แล้วตัวพี่พอใจอะไรบ้าง หรือทุกอย่างช่างข้าส่ายหน้าหนี พี่ลองนึกคำน้องตรองอีกที ก่อนจะมีทีวีหนี้สินรุม ผัวกลัดกลุ้มคลุ้มคลั่งมานั่งเศร้า โถ.!เมียเราเทศน์นานปานไฟสุม แต่ก็จริงดั่งคำดำรัสคุม หยกกระพุ่มมือตนล้นทรวงใน ภาคภูมิใจในหลวงห่วงลูกหลาน ทรงประทานดำรัสตรัสฝากไว้ คำว่าพอคำนี้วิถีไทย คือความหมายให้"พอ"ล่อเลี้ยงตน ไม่ใช่ด้นดิ้นเกินประเมินผิด เหมือนเครดิตบัตรรูดขูดเป็นขน เงินเดือนต่ำบำบัดขัดใจจน น้ำตาหล่นท่วมดินหนี้สินนอง ผมคงต้องขอจบพบกันใหม่ เช้าสดใสใจชื่นตื่นบ่ายสอง เพราะคืนนี้มีงานสานเป็นทอง ลาเพื่อนพ้องน้องพี่"ครูที่รัก"ฯ ราตรีสวาท...
25 กันยายน 2550 00:55 น. - comment id 758994
ขออภัย..เป็นอย่างยิ่ง..พิมพ์ตก.. คำว่า..กระโดน..เป็น..กระโดด..น่ะฮะ.. สงสัยจะง่วงจริงๆ น่ะฮะ..
25 กันยายน 2550 03:01 น. - comment id 759012
ดีค่ะ จิตรำพันจ๋าแวะมาทักทายค่ะ ทำอะไรอยู่จ๊ะช่วงนี้
25 กันยายน 2550 04:43 น. - comment id 759028
สวัสดีครับคุณจิตรำพัน แหมเรื่องละครสั้น แสดงรอบกองไฟนี่ ผมก็ไม่ค่อยถนัดเสียด้วย เอาเป็นว่าขอเป็นกำลังใจ ให้คุณทำงานบรรลุ ถึงจุดหมายนะครับ
25 กันยายน 2550 06:50 น. - comment id 759043
สวัสดีค่ะคุณคนผ่านมา ขอบคุณนะคะที่มาครั้งนี้เอากลอนนิทานมาฝากด้วย เป็นเรื่องที่เหมาะกับยุคสมัยมากเลยค่ะ สังคมกำลังหลงกับวัตถุกันมากค่ะ จะลองเอาไปปรับดูนะคะ ว่าจะขยายให้หลายๆ คนเล่นได้อย่างไรบ้าง ขอบคุณนะคะที่มาช่วยคิดให้
25 กันยายน 2550 06:58 น. - comment id 759047
สวัสดีค่ะพระจันทร์สีดำ ขอบใจน้าที่แวะมาทักทายกัน ช่วงนี้จิตรำพันต้องเตรียมงานไปชุมนุมลูกเสือ รวม ๕ อำเภอค่ะ ยุ่งมาก ๆ หัวหมุนเลย อิอิ เย็นนี้จะแวะมาฝากกลอนไว้ให้คิดถึงค่ะ เอาสัก ๒ กลอนดีไหมคะ เพราะจะไม่อยู่หลายวัน ตั้งแต่วันพุธ ถึงศุกร์ค่ะ คิดถึงบ้านกลอนไทยแย่เลย
25 กันยายน 2550 07:13 น. - comment id 759062
สวัสดีค่ะคุณเบรฟฮาร์ท ถึงออกตัวว่าไม่ถนัด แต่ก็มาให้กำลังใจกัน ขอบคุณนะคะ จิตรำพันจะพยายามทำให้ดีแล้วกัน อิอิ
25 กันยายน 2550 07:23 น. - comment id 759066
ช่วยแล้วครับ...แต่คิดไม่ออกซักที
25 กันยายน 2550 08:44 น. - comment id 759103
ดีจ้า.........คุณจิตรำพัน....... ชอบอ่านเหมือนกันจ้า.....ที่จำได้มีเรื่องชายชรากับลาแก่.......เรื่องมีอยู่ว่ากาลครั้งหนึ่งมีชายชรากะลูกชายจะพาลาไปขายในตัวเมือง ระหว่างทางได้เดินทางผ่านคนทำสวน คนทำสวนก้อแนะนำว่าพวกท่านนี้โง่กันจริงมีลาอยู่ทั้งตัวทำไมไม่รู้จักขี่มันหล่ะ จูงมันเดินไปเฉยๆทำไม ว่าแล้วชายชราก็ให้ลูกชายขึ้นขี่หลังของลาตัวนั้น เดินมาสักพักผ่านร้านทำขนมเจ้าของร้านทำขนมก็พูดขึ้นว่า เจ้าเด็กน้อยเจ้าเนี่ยไม่กตัญญูเอาซะเลยนะ ปล่อยให้พ่อซึ่งแก่ชราต้องเดิน แล้วตัวเองก็นั่งอยู่บนหลังลาอย่างสบาย ว่าแล้วเด็กน้อยก็ลงจากหลังลาแล้วให้พ่อของตัวเองขึ้นขี่หลังลาแทน ทั้งสองได้เดินทางมาใกล้จะถึงตัวเมืองก็ได้พบกับคนตัดฟืน โดยคนตัดฟืนได้เอ่ยขึ้นว่า พวกท่านเนี่ยใจร้ายจริงๆเจ้าลามันก็แก่มากแล้วยังจะขี่หลังมันอีก ว่าแล้วชายชราก็ลงจากหลังลา และก็เดินทางมาถึงตลาดพอดี.......นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่จำเป็นต้องทำตามความพอใจของผู้อื่นไปซะหมดทุกเรื่อง เพราะบางครั้งอาจทำให้เกิดความยุ่งยากขึ้นกะงานของเราก็ได้........
25 กันยายน 2550 10:24 น. - comment id 759143
แวะมาอ่านความคิดของเพื่อ แหะ พี่ไม่ถนัด ตอนเรียนเวลาเล่นรอบกองไฟ พี่เป็นคนนั่งปรบมือให้เพื่อนทุกที ค่ะ อิอิ
25 กันยายน 2550 10:31 น. - comment id 759145
สวัสดีค่ะคุณนายธนา ถึงคิดไม่ออกก็ได้พยายามช่วยน้า อิอิ ขอบคุณค่า
25 กันยายน 2550 10:55 น. - comment id 759172
สวัสดีค่ะคุณเจน_จัดให้ ขอบคุณนะคะ สำหรับนิทานสั้น เรื่องนี้ก็น่าสนค่ะ จะรวบรวมไปให้ทางคณะนะคะ ขอบคุณที่ช่วยคิดค่า
25 กันยายน 2550 10:57 น. - comment id 759178
อา....ความสามารถด้านนี้ไม่มีเลยค่ะ ถ้าแบบบ้าๆ บอๆ ก้พอคิดออกค่ะ อิอิ
25 กันยายน 2550 10:59 น. - comment id 759183
สวัสดีค่ะคุณกชมนวรรณ ไม่ได้เจอกันนานนะคะ น้องเป็นไงบ้างคะพี่ แข็งแรงรึยังคะ นั่งปรบมือก็ถือว่าช่วยนะคะ ช่วยเป็นกองเชียร์ ที่แน่ ๆ ต้องเชียร์ให้สุดฤทธิ์ค่ะ อิอิ (หน้าม้า)
25 กันยายน 2550 11:06 น. - comment id 759193
สวัสดีค่ะพี่ป. ทำเป็นถ่อมตัวเองน้า พี่ป.ความสามารถเยอะแยะค่ะ แต่ถ้าเรื่องนี้ไม่ถนัด ก็เป็นกำลังใจให้จิตรำพันด้วยนะคะ
25 กันยายน 2550 11:16 น. - comment id 759203
เมื่อมีคำขอร้อง เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนอยู่แล้ว นิทานรอบกองไฟ นี้เป็นเรื่องจริงเล่าต่อ ๆ กันมา อ่านแล้วก็ต้องทำใจให้เป็นกลาง ถ้าเราสนใจประวัติศาสตร์ของกระ ทรวงศึกษาธิการ การเรียนการสอนสมัยท่านมังกร พรหมโยธี มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรเป็นแบบที่เรียกกันสมัยนั้นว่า แบบเบสิก พั๖นาให้เด็ก ๆ มีความคิดของตัวเอง อย่างเช่น จะถามเรื่องแก้วน้ำ เขาจะไม่เอาแก้วยกขึ้นถามเด็กว่านี่อะไร เพราะเด็กเห็นรู้จักก็จะตอบได้ เขาจะถามว่า อะไรที่ใส ๆ เปราะแตกง่าย นำมาเป็นที่บรรจุน้ำได้ เด็กก็จะมีความคิดและตอบได้ว่าเป็นแก้วน้ำโดยที่ไม่ต้องเห็น อย่างนี้เป็นต้น นึกเรียนฝึกหัดครูสมัยนั้นก็จะได้รับการสอนอบรมมาลักษณะนี้ทุกคนทุกรุ่น ก่อนยที่จะมีการยกเลิกการสอนแบบเบสิก ก็เพราะเกิดเรื่องนี้ขึ้น จึงได้เข้าที่ประชุมลงมติยกเลิก เรื่องมีอยู่ว่า นักเรียนฝึกหัดครูสาวสวยจบมาใหม่คนหนึ่ง(คงไม่ใช่จิตรำพัน) ได้รับการบรรจุไปประจำโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารแห่งหนึ่ง เธอก็เต็มใจและตั้งใจสอนศิษย์เต็มที่ วันนึงก็จะสอนเรื่องผ้าห่ม จึงเรียกเด็กหญิงขึ้นมายืนหน้าชั้น แล้วเริ่มต้นถามว่าหนู เวลาที่หนูนอน นอกจะมีมุ้ง หมอน ที่นอนแล้ว ยังมีอะไรอีก ตามเป้าก็จะให้เด็กคิด แล้วตอบออกมาว่าผ้าห่ม เด็กกลับตอบว่า มีคุณแม่ค่ะ ครูก็นึกว่ายังไงเสียแม่คงต้องห่มผ้าจึงถามต่อว่า แล้วบนตัวคุณแม่มีอะไร เด็กนิ่งคิดเดี๋ยวนึงแทนที่จะตอบว่าผ้าครูเริ่มหน้าแดงแล้ว แต่ด้วยวิญญาณครู มุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ นึกว่า อย่างไรเสียผู้ใหญ่คงไม่ทำอะไรให้เด็กเห็นคงต้องเอาผ้าห่มคลุมแน่ ๆ จึงแข็งใจถามอีกว่า บนหลังคุณแม่ล่ะมีอะไร นึกว่าต้องเป็นผ้าห่มแน่ เด็กกลับตอบว่ามีขาคุณแม่ไขว้อยู่ค่ะ เท่านั้นแหละครูสาวหมดความอดทนฟิวส์ขาดโมโหขึ้นหน้าเอามือตบโต๊ะดังฉาดเสียงดังคล้ายตะหวาดว่า ผ้าห่ม ผ้าห่มไปอยู่ไหน เด็หญิงตกใจร้องไห้เสียงดังตอบทั้งเสียงร้องไห้ว่า ฮือ ๆ ม้วนหนุนอยู่ที่ก้นคุณแม่ ค่ะ ฮือ ๆ ๆ ๆ ตะแล๊ม ๆ ๆ ๆ
25 กันยายน 2550 11:57 น. - comment id 759247
สวัสดีค่ะคุณฤกษ์ ขอบคุณที่มาช่วยเหลือกันตามคำเรียกร้องนะคะ เรื่องนี้ขออนุญาตตัดออกตั้งแต่ยังไม่ให้คณะดูนะคะ อิอิ เนื่องจากเอนเตอร์เทนในกลุ่มได้ แต่สำหรับเด็กต้องแบนค่ะ อิอิ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
25 กันยายน 2550 12:41 น. - comment id 759287
น้องเอ..... แหม...เรื่องสั้นพี่ม่ะค่อยสันทัดด้วยจิ.... ได้แต่อาน แต่งเป็นเรื่องเป็นราวไม่เป็นตะกี้ อ่านเรื่องของน้องฤกษ์ ทำเอาพี่ตกเก้าอี้ เง้ยยย จินตนาการเป็นเรื่องราวเลยจ้ะ ...เขิลลลล ม่ายพูดดีกว่า จั๊กจี้...เอิ้กกกกกกกกกส์ (¯`°.¸♥♥¯`° ศรรกราหน้าทะเล้น °´¯♥♥¸.°´¯)
25 กันยายน 2550 13:34 น. - comment id 759414
น้องเอจ๋าพิ่พิมไม่มีฟามรู้เรื่องนิทานเลยคะ เท่าที่อ่านดูทุกคนมีแต่เรื่องดีดีทั้งนั้นขออ่านด้วยคะจาหลับแระ
25 กันยายน 2550 14:02 น. - comment id 759448
รอบกองไฟนี่ชอบเป็นคนชมมากกว่าค่ะ แต่งนิทานก็ไม่ค่อยเป็น เลยแวะมาส่งกำลังใจ ให้ค่ะ.... (ผลพลอยได้ ก็ได้อ่านนิทานงัยค่ะ)
25 กันยายน 2550 14:24 น. - comment id 759458
สวัสดีค่ะพี่ขวัญ ตกเก้าอี้ระวางหัวปูดน้า อิอิ สงกะสัย ถ้าพี่ขวัญมาเจอ นิทานก้อม ของอิสาน ไม่ใช่แค่ตกเก้าอี้แล้วม้าง ว่าง ๆ มาชุมนุมลูกเสือนะคะ นิทานแบบพี่ฤกษ์ เยอะมากเลยค่ะ เอาไว้เอนเตอร์เทน อิอิ
25 กันยายน 2550 14:34 น. - comment id 759466
สวัสดีค่ะพี่พิมญดา แหมพี่พิม ถ้าสนุกก็อย่าหลับสิคะ กลัวหลับก็อ่านนิทานของพี่ฤกษ์สักสองสามรอบ มาร่วมงานชุมนุมรอบกองไฟกันน้า อิอิ
25 กันยายน 2550 14:38 น. - comment id 759468
สวัสดีค่ะ whitelily ถ้าชอบชมก็เชิญนะคะ และขอเสียงเชียร์ด้วย ดัง ๆ เลย ขอบคุณที่แวะมาส่งกำลังใจค่ะ รับไว้แล้ว อิอิ ชอบนิทานเรื่องไหนคะ
25 กันยายน 2550 16:37 น. - comment id 759563
ฮะแฮ่ม...เล่านิทานหรือ...อืม... กาลครั้งหนึ่งนานมา... เจ้าหญิงนกกระสาตัวนึงบินอยู่กลางป่า และก็ถูกเด็กชายซนๆเอาธนูยิงถูกปีก จนตกลงมา เธอจึงรีบแปลงร่างเป็นหญิงสาวเพื่อ อำพรางตัวขิงเธอก็พอดีชายหนุ่มชนบทแถวนั้นผ่านมาพบเธอในสภาพบาดเจ็บ เขาจึงอุ้มเธอมารักษาที่บ้าน ด้วยความมีเมตตาของชายหนุ่มจึงทำให้เจ้า หญิงนกกระสาเกิดหลงรักชายหนุ่มคนนี้ เวลาผ่านไปทั้งสองได้ครองรักกัน จนวันนึงแม่ของชายหนุ่มเกิดล้มป่วยขึ้น แต่ด้วยฐานะอันยากจนของชายชนบทนี้ เขาก็ไม่มีเงินที่จะมารักษาแม่ของเขาได้ เจ้าหญิงจึงอาสาที่จะวาดรูปขายเพื่อเอา เงินมารักษามารดาของชายหนุ่มผู้นี้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่มีใครเห็นการวาดรูปของนาง รูปแล้วรูปเล่าที่เจ้าหญิงวาดออกมาและ ขายได้เงินมาช่วยมารดาของหนุ่มผู้นี้ แต่เจ้าหญิงกับซูบผอมลงหมดแรงขึ้นทุกวัน ขณะที่อาการของมารดาหนุ่มผู้นี้เกือบปรกติ เจ้าหญิงบอกกับชายหนุ่มว่า นี่คงเป็นรูปสุดท้ายที่เธอจะวาดได้ คืนนั้นเองชายหนุ่มเกิดสงสัยจึงไปแอบ ดูการวาดของนาง ทันทีที่เขาเห็นเขาก็ ไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะเป็นรูปนกกระสาขนาดใหญ่ที่ฉีกเอาขนของตัวเองละเลงไปบนเลือดที่กรีดออกมา แล้วค่อยแต่งแต้มไปบนผ้าใบ ชายหนุ่มรีบเข้าไปในห้องพอเจ้าหญิงเห็น ก็กลายร่างคืนเป็นหญิงสาวที่อ่อนระทวย แล้วบอกกับชายหนุ่มว่า "ท่านคงไม่โกรธเราที่จะตอบแทนคุณคนด้วยวิธีนี้" สิ้นคำเจ้าหญิงก็สิ้นใจลงในอ้อมอกคนที่เธอรัก.... และเจ้าหญิงนกกระสาก็ได้จากโลกไป ...จบ.. ...แทบตาย..กว่าจะได้สักเรื่อง...
25 กันยายน 2550 17:14 น. - comment id 759615
search คำว่า นิทานรอบกองไฟ มีเวบหนึ่งน่าสนใจนะจ๊ะ ลองไปอ่านดู http://prachatai.com/05web/th/columnist/view.php?SystemModuleKey=Village&ContentID=2484&ColumnistID=54
25 กันยายน 2550 18:26 น. - comment id 759654
สวัสดีค่ะพี่ยา โดนน้องบังคับแต่งนิทาน อิอิ ขอบคุณนะคะ ที่เอานิทานมาให้ค่ะ เคยอ่านเจอเหมือนกันค่ะเรื่องนี้ เศร้าจังเลยค่ะ เดี๋ยวจะหอบผู้เฒ่าแห่งค่ายลูกเสือมาฝากเป็นรางวัลน้า อิอิ ขอบคุณน้า
25 กันยายน 2550 18:35 น. - comment id 759656
สวัสดีค่ะคุณโคลอน ขอบคุณนะคะ สำหรับคำแนะนำ เดี๋ยวจิตรำพันจะเข้าไปดูค่ะ
25 กันยายน 2550 20:09 น. - comment id 759690
มาช่วยคิดคะแต่คิดไม่ออกเลยคะยังมึนๆ งง ๆเบลอๆ กะงานอยู่เลยค่ะ สบายดีนะคะ
1 ตุลาคม 2550 18:42 น. - comment id 762941
สวัสดีค่ะผู้หญิงมือสอง กว่าจิตรำพันจะได้ตอบก็กลับมาจากค่ายแล้วค่ะ ขอโทษด้วยน้า ขอบคุณที่มาช่วยคิด ตอนนี้เจอพิษจากค่ายค่ะ ป่วยหนักนอนซม พอมีกะลังวังชาก็แวะมาตอบให้คนสวย อิอิ