๏ หอมละมุนกรุ่นกลิ่นประทินเครื่อง ชวนชำเลืองสนเท่ห์สเน่หา รสตรลบอบอวนป่วนกายา ดั่งอัปษรามาใกล้ให้ได้ยล ทั้งวงพักตร์ลักขณาสุธาทิพย์ ทั่วทั้งสิบทัศแลต้องแพ้หม่น วาจาเย็นเช่นสายชลาชล ปานต้องฝนบนฟ้าสุราลัย วงขนงดั่งวงที่ตรงศร ชะออดอ้อนชวนจิตพิศมัย ทั้งเกล้าเกศดำขลับประดับไว้ สองตาไซร้มฤคินถวิลเพลิน โอษฐ์น้องเพียงดั่งสีลิ้นจี่แต้ม งามเธอแย้มสรวลหนีเมื่อทีเขิน ทั้งท่าทางนางเยื้องชำเลืองเดิน ดั่งดำเนินเหินเหาะเลาะเมฆา ผ่องผิวพรรณสุวรรณสีมณีผสม อภิรมณ์เริงรื่นชื่นหรรษา เพียงได้พบสบพักตร์สักเพลา ดั่งได้ล่องเวหานภาลัยฯ
8 กันยายน 2550 11:37 น. - comment id 751312
โฉมเจ้าช่างงามยิ่งนัก..
17 กันยายน 2550 13:57 น. - comment id 754941
กลิ่นอะไรหรือนี่คลายผีเน่า ได้กลิ่นเจ้าก็จนใจไม่หรรษา ให้ตลบอบอวลชวนระอา เหม็นดั่งหมาไม่อาบน้ำเมื่อยามยล ทั้งวงพักตร์ก็หักงอคล้ายขอเกี่ยว จะแลเหลียวทางใดให้หมองหม่น วาจาเย็นเชื่อยชาน่าพิกล ปานถูกฝนสาดทรวงดวงหทัย คิ้วก็โก่งเหมือนศรเมื่อตอนหัก ใจไม่ชักมั่นคงชวนสงสัย ผมก็หงิกงอนักชักอาลัย ตาทรามวัยก็แดงกล่ำไม่จำเริญ โอษฐ์ของน้องคล้ายผีสีแดงแต้ม ยามเธอแย้มสุดระอาทีท่าเขิน เยื้องบาทาเซมาเมื่อคราเดิน ยากเหาะเหิรหนีไกลไม่กลับมา ดูผิวพรรณหมองคล้ำแสนดำหม่น เหลือจะทนมองนักเป็นหนักหนา หากประสบพบพักตร์อีกสักครา ก็ขอลาสู้ฟ้านภาลัย
9 ตุลาคม 2550 16:03 น. - comment id 768108
อันรูปรสหมดนี้ที่พี่ร่ำ ให้น้องช้ำใจรักเป็นหนักหนา ว่านางสิ้นงามขวัญกัลยา ปากคิ้วตาหมาไม่มีที่จะมอง โอษฐ์อุบาทว์ชาดแดงแฝงดังผี จรลีเซมาแก้วตาน้อง !! ผิวดังนิลสิ้นล้ำที่ลำยอง คงขัดข้องเกินมนุษย์ผุดบนดิน -*- อันงามทรงคงอยู่เพียงครู่ชั่ว พอแก่ตัวสิ้นไปให้ถวิล แต่งามใจอยู่นานบาดาลดิน จวบธานินทร์สิ้นสลายไม่กรายลา