ยังคงนั่งตรงนี้ณ..ที่เก่า กับรอยเงาเจ้านกไพรในใจขวัญ ยังซื่อสัตย์มั่นคงตราบนิรันดร์ กับภารกิจสานฝันมหัศจรรย์รัก โลกสองเราหลอมรวมกันวันนานเนิ่น เกินกว่าเกินใครจะรู้มาเนานัก เพราะปาฏิหารย์ฝันอันยิ่งใหญ่จากใจภักดิ์ สายใยรักจึงถักถ้อยสร้อยอักษรา แม้นสายน้ำรักนิรันดร์ผันแปรสาย มิสิ้นไร้ทางสายดวงดอกไม้เสน่หา ยังรอวันเจ้านกไพรพเนจรคืนรังมา เป็นขวัญหล้าเมตตาโลกดับโศกชน ฝากบทกวีพลีหอมให้จากใจดวงพิสุทธิ์ ดั่งน้ำค้างบริสุทธิ์ทุกแห่งหน ปลอบประโลมทุกดวงใจใสงามหวานกมล รู้ค่าคนค่าแห่งพลังรัก..จักหมุนโลกให้งดงาม...! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song219.html เดือนต่ำดาวตก เดือนต่ำดาวตกเสียงนกละเมอ เผลอร้องกลางดึก ดวงจิตระทึก พี่นึกว่าเป็น เสียงเธอ ผวา มองจ้องตามเพียงครู่ รู้ตัวว่าเก้อ ต้องกลับมาเพ้อ รำพึง เงาไผ่หรุบหรู่แหงนดูเดือนต่ำ น้ำค้างร่วงกราว ใจยิ่งปวดร้าว ยามไร้เธอเคียง คนึง ความรักที่เคยชื่นทรวงใจซ่าน หวานดังน้ำผึ้ง แปรเปลี่ยนบึ้งตึงเหมือนเดือนเลือนลา แม้ท้องฟ้าไร้ ทั้งดาวและเดือนก็เหมือนพี่นี้ ไร้คู่ชีวี นอนแนบนิทรา เหมือนคนไม่มีหัวใจ ได้แต่ผวา เสียงลมพริ้วมานึกว่าเสียงนาง เดือนต่ำดาวตกเสียงนกละเมอ เผลอร้องครั้งใด พี่แทบคลั่งไคล้คิดถึงทรามวัย มิวาง ผวากายหมายโลมเนื้อเกลี้ยง พบเพียงหมอนข้าง แทนที่แม่นางน้องเจ้าเคยนอน แม้ท้องฟ้าไร้ ทั้งดาวและเดือนก็เหมือนพี่นี้ ไร้คู่ชีวีนอนแนบนิทรา เหมือนคนไม่มีหัวใจ ได้แต่ผวา เสียงลมพริ้วมานึกว่าเสียงนาง เดือนต่ำดาวตกเสียงนกละเมอ เผลอร้องครั้งใด พี่แทบคลั่งไคล้คิดถึงทรามวัย มิวาง ผวากายหมายโลมเนื้อเกลี้ยง พบเพียงหมอนข้าง แทนที่แม่นางน้องเจ้าเคยนอน...
7 กันยายน 2550 11:38 น. - comment id 750849
ภาษาในงานเขียนช่างงดงาม หาใครเทียมเทียบได้ หวังว่าวันหนึ่งจะปรากฎเป็นงานพิมพ์สู่สาธารณะชนเป็นประจักพยานแห่งดวงใจที่งดงาม และ การปฏิบัติต่อคนที่รัก รวมทั้งผองชน ได้แก่ บิดา มารดา ครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนๆและผู้ยากไร้ จรรโลงโลกที่มีแต่ความเสื่อมสลาย ให้ดำรงคงอยู่ซึ่งคุณความดี เป็นศรีไทย ว่าบุญบารมีที่เพียรสร้างสมด้วยปัจเจกชนจักเป็นเชื้อที่จะเพิ่มพลังบุญแด่สังคมโลกให้งดงามต่อไป