อดีตนั่นหรือคือความฝัน เพราะสิ่งนั้นผ่านไปไม่อาจหวน ได้แต่นั่งนิ่งนึกระลึกทวน แต่ยังกวนใจขุ่นให้ฉุนเคือง ควรจดจำแต่สิ่งดีที่ได้ผ่าน เป็นตำนานแห่งใจได้หลายเรื่อง รักหรือชังคิดไปก็เปล่าเปลือง ไม่อาจเปลื้องจำไว้ให้บทเรียน อนาคตนั่นยังมาไม่ถึง คาดเดาจึงไม่แน่มีแปรเปลี่ยน วาดวิมานหรูไว้คล้ายนั่งเทียน แค่วันเวียนอาจสลายหายพริบตา แม้หมอดูว่าแม่นมีแก่นแท้ นั่นก็แค่นึกตามตำราหนา ปัจจัยอื่นอีกมากหากมีมา โชคชะตาใครกำหนดกฏตายตัว อดีตสิ่งที่ผ่านกาลล่วงแล้ว จำเป็นแนวเพื่อหลีกไกลจากภัยชั่ว อนาคตข้างหน้ายังมืดมัว อย่าเพิ่งกลัวตั้งสติมิร้อนรน ปัจจุบันคือเวลาที่สำคัญ คุมให้มั่นกายวาจาอย่าสับสน สำรวมจิตแน่วแน่แก้ใจตน คงรอดพ้นบ่วงกรรมเคยทำมา
2 กันยายน 2550 17:13 น. - comment id 747254
นี่เป็นกลอนแนวธรรมมะที่โดนจริงๆครับ เราต้องอยู่กับปัจจุบัน แต่ทำไมใจมันเตลิดวิ่งหาอดีตที อนาคตทีตลอดเลย
2 กันยายน 2550 12:04 น. - comment id 747728
แวะมาชื่นชมผลงานขอรับ สติขาด ๆ (ไม่เคยเกิน) ชอบแว๊ปไปอดีต ตามประสาคนแก่ ครับ อิอิอิ.....
2 กันยายน 2550 12:12 น. - comment id 747735
แต่ก่อนนั้นฉันเคยเป็นเช่นนี้ แต่ตอนนี้ หนักกว่าเดิมครับ..พี่น้อง
2 กันยายน 2550 12:13 น. - comment id 747736
ขอบคุณค่ะ คุณ แสงเหนือ เพิ่งสามสิบกว่าๆ ทำไมว่าแก่ละคะ ธรรมดาจิต ก็วิ่งซุกซนจนเจ้าของเหนื่อย สังขารร่วงโรยไปตามๆกัน จะให้ดี ก็ฝึกจับมัด ทรมานมันซะมั่ง หรือไม่ก็ปล่อยมันไปแต่ตามดูสิว่า มันจะซุกซน ขนาดไหน แต่อย่าให้คลาดกันนะ ทุกขณะจิตนะสำคัญ เรียนรู้ ร่วมกันนะคะ ขอสูมาตวย ที่ขยายความตามสภาพจริง อิอิอิ
2 กันยายน 2550 12:18 น. - comment id 747741
คุณ พันธะ ดีใจที่มีโลกที่สุขสันต์ ทำไมว่าหนักกว่าเดิมล่ะ เราสมัครใจนะ เป็นสุขเยอะๆ เถอะค่ะ เขาว่ากันว่า คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ธรรมดาๆ อิอิอิ เดาเอามิได้รู้เรื่องอะไรหรอก
2 กันยายน 2550 12:34 น. - comment id 747748
แอบมองตา มอบรัก สลักจิต แอบมองมิตร มอบใจ ใฝ่ฝันหา แอบมองเขา ด้วยเราอาย ในสายตา แอบมองหน้า หามิตร แนบชิดกาย.
2 กันยายน 2550 12:37 น. - comment id 747750
ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดนะครับ
2 กันยายน 2550 12:41 น. - comment id 747754
ปัจจุบันทำให้ดีที่สุด อดีตไม่ต้องนึกถึง อนาคตไม่ต้องมองหา แล้วมีหยั๋งแถมก่อ.... อดีตคือจิ๊กกุ่ง.. อนาคตคือทัพพี..
2 กันยายน 2550 12:57 น. - comment id 747774
อยู่กับปัจจุบันขณะดีที่สุดคะ รู้คิดรู้ลมหายใจเข้าออก รูมีสติ...นะเจ้าคะคุงป้า
2 กันยายน 2550 13:01 น. - comment id 747777
ใบไผ่ ทะเลแก้ว ตอนแรกนึกว่ามาสองคนนะเนี่ย ใบไผ่ คนหนึ่ง ทะเลแก้วคนหนึ่ง จะแอบๆๆๆๆ ทำไมค่ะนะ ไม่ใช่เล่นซ่อนหานะคะ อิอิอิ
2 กันยายน 2550 13:03 น. - comment id 747779
ก่องกิก................. ขอบคุณค่ะ จะพยายามค่ะ
2 กันยายน 2550 13:07 น. - comment id 747781
ไหมไทย เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ อดีตคือแมงจิ้กกุ่ง ทอดกินลำๆ อนาคตคือทัพพี คดข้าวนี่นา ก่อมีหยังแหมแล้วเจ้า เสาะหาคนรู้ใจมาหื้อสักคนเด้อ 55555555
2 กันยายน 2550 13:11 น. - comment id 747783
พิมญดา สวัสดีนะเจ้าค่ะ หายปวดหัวตัวร้อนหรือยังจ้ะ อนาคต อดีต ไม่สำคัญ ปัจจุบัน ฉันปิ๊งๆๆเธออีกละอ่ะ
2 กันยายน 2550 13:14 น. - comment id 747785
แม่นแล้วววเจ้าวว ปัจจุบันมีผลถึงอนาคต ทำวันนี้ให้ดีที่สุด กลอน ให้แง่คิดดีค่ะ
2 กันยายน 2550 13:32 น. - comment id 747804
สวัสดีค่ะพี่เก็จถะหวา จิตใจของจิตรำพันก็วิ่งซุกซนจนเหนื่อยอ่อนเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวย้อนรำลึก เดี๋ยวคาดเดาสู่กาลหน้า อิอิ รู้ตัวอยู่เหมือนกัน ช่วงไหนว่างก็จะพยายามจับมาอยู่ในสติและความสงบบ้าง อิอิ ปัจจุบันทำดีให้ถึงสุด ปูมนุษย์หนทางยลสดใส หวังไว้สู่สว่างในจิตใจ จุติในแสงปลายเจิดจ้านวล เตรียมความพร้อมก้าวเดินเมื่อกลับบ้าน เมื่อถึงกาลล่วงลับดับกายหวน ไม่หลงทางฝ่าดงกิเลสดวล ไม่ปั่นป่วนมุ่งหน้าสู่แสงธรรม
2 กันยายน 2550 13:54 น. - comment id 747824
พระทรงชี้ เดินสายกลาง ทางความคิด ฝึกฝนจิต ปิดอบาย ไกลโมหันธ์ เปิดดวงตา ปัญญาญาน ผลาญอุปาทัน(อุปาทาน) อริยมรรค์ ขันธ์ห้านี้ ที่เกิดธรรม ทรงหลงทาง ห่างกระแส แพ้กิเลส ไม่รู้เหตุ แห่งทุกข์ สุขชอกช้ำ ไม่รู้ทาง สว่างใจ ให้มืดดำ หลงเดินตาม กามกิเลส เหตุอวิชชา
2 กันยายน 2550 14:08 น. - comment id 747835
อารีณา ขอบคุณหลายที่แวะ มาแจมนะคะ อดีต อนาคต และปัจจุบัน ฝันได้เสมอ สำหรับ นักกลอนไม่นอนเปล่า แหะ แหะ
2 กันยายน 2550 14:20 น. - comment id 747844
จิตรำพัน ธรรมดาคนเกิดมาในแหล่งโลก เพื่อนร่วมโศกมากมายชายแลหญิง เคยรู้จักทักทายได้พึ่งพิง มองแต่สิ่งดีดีที่มีมา มองสิ่งดีว่าดีมีแต่ได้ มองสิ่งร้ายว่าดีไม่มีเสีย มองสิ่งดีว่าร้ายใจอ่อนเพลีย มองสี่งร้ายเปลี่ยนเสียไม่เพลียใจ มั่วๆนะคะ
2 กันยายน 2550 14:34 น. - comment id 747851
กวีธรรม/สายธารธรรม สาธุค่ะ.............. ขอน้อมรับ คำสอน องค์พุทธา อัญเชิญ มาสู่ใจ ใฝ่ศึกษา ก้าวเดินตาม รอยบาท ศาสดา เพื่อก้าวหน้า ทางธรรม น้อมนำไป ระวังจิต ระวังตน พ้นกิเลส ซึ่งเป็นเหตุ ให้ช้ำ ระกำหมอง จะเบิกบาน ดั่งบัวน้อย ลอยลำคลอง ไม่เกี่ยวข้อง รักหลง พะวงใจ หนทางยังอีกยาวไกล ฝึกหัดปฏิบัต ไปเรื่อยๆ น้อ
2 กันยายน 2550 14:46 น. - comment id 747865
ปัจจุบันควรทำให้ดีที่สุดค่ะ..
2 กันยายน 2550 16:28 น. - comment id 747894
White rose ................................ สวยที่สุดค่ะ ภาพที่นำลงโพส ขอบคุณมากนะคะ
2 กันยายน 2550 17:24 น. - comment id 747911
Darkness Hero เป็นธรรมชาติ ของจิต ย่อมคิดวุ่น ต้องทารุณ กักขัง และหน่วงเหนี่ยว จิตใจคน ชอบไป แต่คนเดียว มันชอบเทียว ไปที่ชอบ ประกอบกรรม ต้องตามดู พินิจตาม ความสงสัย จิตชอบไป ไหนนะ ทุกเช้าค่ำ นั่นคือสิ่ง เราชอบ อยู่ประจำ กิน กาม เกียรติ อยากล้ำ จะเมินมัน
2 กันยายน 2550 20:40 น. - comment id 748006
จิตเราช่างไวเหลือเกินค่ะ...กว่าจะวิ่งตามทัน ก็สร้างมโนกรรมไปตั้งมากมายเท่าไรแล้ว..
3 กันยายน 2550 07:48 น. - comment id 748185
บทกลอนสื่อความหมายได้ดีด้วยดิคะ.. เรนแวะมาอรุณสวัสดิ์พี่เก็จฯนะคะ..
3 กันยายน 2550 07:53 น. - comment id 748189
ปัจจุบันก็คือรากฐานของอนาคตเนาะ
3 กันยายน 2550 08:20 น. - comment id 748203
ขอบคุณน้องเรนที่แวะมาอ่าน และให้กำลังใจนะคะ ขอบคุณค่ะ
3 กันยายน 2550 08:21 น. - comment id 748204
โคลอน ใช่แล้วค่ะ ถูกต้องแล้ว