ยัง..ซึ้งใจจำ... ถึง.. คืนค่ำที่ดาวดวงระดะเต็มอ้อมฟ้า..อ้อมฝัน ยามใกล้รุ่ง... สองข้างทาง..ดูอ้างว้างเหว่ว้า ท่ามม่านหมอกสลัวมัวหม่นเลือนลางแห่งวสันตฤดู บัว..ริมทุ่ง ในคู.. ค่อยๆคลี่กลีบแย้มเผยอเกสรแสนหวาน บานรอรับหยาดละออละอองน้ำฝนหยดน้ำค้าง ในยามดึก ที่กำลังพร่างพรมห่มหอมให้ไพรพฤกษ์.. อย่างเงียบงาม ดาวประกายพฤกษ์ ทอดวง.. เหนือนวลนภาทะเลสาบสีเงิน ดูสุกใสแสนใกล้ ราวกำลังลอยทายท้าให้เราสอง.. สองเรา เอื้อมมือไปคว้าไขว่ มาประดับเรือนใจ..ให้สวยใสงาม แล..ประดุจดั่ง.. ดวงดาวพราวไสวกำลังสอนสัจจธรรม ไม่มีฝันใด เป็นจริง.. หากไม่เพียรพยายาม ไม่...แม้..มีฝัน .... อันคือเป้าหมายแลทิศทางแห่งชีวีชีวิต... ในท่ามความเงียบ... ในคืนฝันวันไร้ฝน ดวงกมลแห่งสองเรากำลังสัมผัสได้ ถึงเสียงสายน้ำรักนิรันดร์ กำลังครวญคร่ำกระซิบ...พ้อ..เพ้อ ฝากลมละเมอ..ให้เฝ้าถามมวลมนุษย์ ชาติหนึ่งนี้... เจ้ามาพลีลมหายใจเพื่อสิ่งใดกันเล่า... ให้แสนหนาวเหน็บในคำนึง... ฟ้าเริ่มรุ่ง... สุริยาสาดแสงดั่งสายรุ้งฉายส่องอาบไล้ ไปตามใบไม้ ใบหญ้า บึงบัว ทั่วทุ่งข้าวกล้าเรียวรวงระย้าระยับ ให้ดูราวกับสุกปลั่งมลังเมลือง ดั่งทองทาบทาไปทั่วทั้งแผ่นดิน นกกา บินว่อนร่อนโฉบหาเหยื่อเพื่อดำรงรอด สู่รวงรัง..เป็นวัฏฏธรรม ธรรมชาติ แห่งการมีชีวิต.. ดงดอกหญ้า...ฟ้อนร่ายระบำไปกับสายลมอรุณไหวเอน ไพล..พาตัวไปนอนนิ่งๆใต้เงาไม้ ใช้หมวกสานสวยฝีมือชาวบ้านปิดหน้า แล้วปล่อยภวังค์พาเพลินอย่างแสนสุขสงบใจ ในขณะที่ฟ้าสาย ฉายแสงแดดสีเงิน ลอดส่องพรายผ่านใบไม้ ก่อให้เกิดแสงระยิบพริบพราวพลิกพลิ้ว กระทบกับผองใบ.. จนเกิดเป็นประกายแก้ววะแวววับ.. แล้ว.. กับความเงียบงามในท่ามความแล้งไร้..นั่น พลัน..หัวใจไพล..ก็ลอยล่องท่องไปในทิพยนิรมิต ติดปีกอิสรา และ.. ราวกับได้ยินเสียงกระซิบ..ว่า... ทุกบทเพลงฝันบทเพลงแห่งชีวิต กำลังเริ่มต้นบรรเลง..ใหม่..ในวันวนวงกรรม.. อันจัก..มิมีวัน..สายเกิน....!! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3238.html นกขมิ้น ดิอิมพอสซิเบิ้ล ค่ำ คืน ฉันยืนอยู่เดียวดาย เหลียวมองรอบกาย มิวายจะหวาดกลัว มอง นภามืดมัว สลัวเย็นย่ำ ค่ำคืน เอ๋ย ฮืม ยามนภาคล้ำไป ใกล้ค่ำ ยินเสียงร่ำ คำบอก เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย เจ้าดอก ขจร นก ขมิ้น เหลืองอ่อน ค่ำแล้ว จะนอน ไหน เอย เอ๋ย เล่า นก เอย อก ฉัน ทุกวันเฝ้าอาวรณ์ เหมือนคนพเนจร ฉันนอนไม่หลับเลย หนาว พระพายพัดเชย อกเอ๋ยหนาวสั่น สุดบั่น ทอน ฮืม ยามนี้เราหลงทาง กลางค่ำ ยินเสียงร่ำ คำบอก เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย เจ้าดอก ขจร ฉันร่อนเร่ พเนจร ไม่รู้จะนอน ไหน เอย เอ๋ย โอ้ หัวอก เอย บ้าน ใด หรือใครจะเอ็นดู รับรอง อุ้มชู เลี้ยงดูให้หลับนอน นก ขมิ้น เหลืองอ่อน ค่ำไหน นอนนั่น อกฉัน หมอง ฮืม ทนระกำช้ำใจ ยามค่ำ ยินเสียงร่ำ น้ำตก โอ้หัวอก เอ๋ย โอ้อก อาวรณ์ ฉันไร้คู่ ร่วมคอน ต้องฝืน นอน หนาว เอย เอ๋ย โอ้ หัวอก เอย เมื่อ มอง หมายปองก็แลเห็น หวิวในใจเต้น เหมือนเป็นเพียงแต่มอง เหมือน พบรัง จะครอง แต่หมองเกรงที่ หวั่นจะมีเจ้าของ ฮืม ฟังสำเนียงเสียงเพลง ครวญคร่ำ ใครหนอร่ำ คำบอก เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย เจ้าดอก ขจร นก ขมิ้น เหลืองอ่อน ค่ำนี้ จะนอน ไหน เอย เอ๋ย นอน ที่นี่ เอย... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2121.html โลกมายา ดิอิมพอสซิเบิ้ล รุ่งสุริยาขอบฟ้าขลิบทอง วิหคเร่าร้องเสียงก้องพงไพร ม่านฟ้าเรืองแสงทองยองใย โลกตื่นจากหลับไหล สู่ความโสภา รุ่งแจ้งแสงทองแซ่ซ้องปักษิน บ้างก็ผกผินเหิรบินเมฆา โลกสวยด้วยแสงสุริยา มองสุขสันต์หรรษา ดูน่าภิรมย์ โลกเรานี้ ล้วนมีมายา เฮฮาหัวร่อ แล้วก็ระทม มัวเศร้าอยู่ใย ร้องไห้ ร้องห่ม ทำไมให้เสียน้ำตา รุ่งสุริยาม่านฟ้าตระการ วิหคขับขานก้องดานดงป่า โลกฝันมายิ้มกันดีกว่า ลืมโลกแห่งมายา มาร่าเริงกัน โลกเรานี้ ล้วนมีมายา เฮฮาหัวร่อ แล้วก็ระทม มัวเศร้าอยู่ใย ร้องไห้ ร้องห่ม ทำไมให้เสียน้ำตา รุ่งสุริยาม่านฟ้าตระการ วิหคขับขานก้องดานดงป่า โลกฝันมายิ้มกันดีกว่า ลืมโลกแห่งมายา มาร่าเริงกัน...
28 มิถุนายน 2550 10:25 น. - comment id 716880
เสียงเพลงอันว่างเปล่าในความรู้สึก..เบาหวิว ลมพัดใบไม้โน้มลงจูบดิน..ท่ามแสงแดดอบอุ่น เมฆเคลื่อนตัว..ตามกระแสแห่งพระพาย..เปลี่ยนรูปร่าง ดังนิทานที่มิมีวันจบ..ฉันเหม่อมอง..ลืมความรู้สึกใดๆที่เคยมี ได้อ่าน"เจ้าช่อเอ๋ย..ช่อขจร...!"แล้วใจมันเบาๆดีค่ะ
28 มิถุนายน 2550 12:39 น. - comment id 716994
ภาพก็สวย สวยเหมือนคนแต่ง กลอนก็เพราะ เพราะเหมือนคนแต่ง
28 มิถุนายน 2550 13:35 น. - comment id 717017
น้องเพียงแพรว..คนดีของพี่พุด..คะ คำน้องงามมากนะคะ และ.. คงมาจาก.. ใจดวงใสสวยสะอาด สว่างสงบ ยามที่น้อง. .*นัดพบธรรม ธรรมชาติ *นะ พี่พุด..ดีใจค่ะ ที่น้องเปิดใจมารับรสสุนทรีย์ธรรม ที่พี่พุดเพียรรจนาระรินร่ำ หวังฝากดับโลกแล้งลวงค่ะ ขอบคุณค่ะ น้องรัก คุณก่อง..คะ พุดมีเรื่องจะสารภาพค่ะ ชื่อจริงพุดมีคำว่าขวัญ และ.. ชีวิตจริงพุดใครๆก็ทราบซึ้งดีว่า เป็นผู้หญิง*อุดมฝันค่ะ*อิอิ แล้วเลือกเลือกฝันพอดี พอดีค่ะ เพื่ออย่างน้อยจะได้มีไฟฝันบันดาลใจไงคะ ทุกภาพ ทุกคำ มีคนไม่กี่คน ที่ทราบว่าพุด กำลังจะสื่อฝัน สู่ใจ และ.. หวังให้เป็นจริงในเร็ววันนะคะ ขอบคุณที่มาแบ่งฝันปันโอบ..เอื้อใจ แด่แม่ดวงดอกพุดไพรค่ะ
28 มิถุนายน 2550 13:53 น. - comment id 717032
บทเพลงไพเราะ..ภาพสวย....ทำไมคิดคำได้ไพเราะจังคะ.......เข้ามาแล้วทำให้หัวใจอิ่มเอม..ได้รับความสุข...
28 มิถุนายน 2550 14:29 น. - comment id 717064
เห็นชื่อเรื่องแล้วนึกถึงผักขจรผัดพริกค่ะพี่พุด เลยตักมาฝากหนึ่งจานค่ะ
28 มิถุนายน 2550 19:15 น. - comment id 717236
สวัสดีครับคุณพุด เวลาแวะบ้านกลอนของพี่ทีไร ชวนให้ใจของผมสงบลงทุกทีครับ ธรรมชาติ พิลาสล้ำ ค่าคำนัก ร่อนรอนพัก เพียงพื้น ผืนธารใส เย็นวะวาบ ทาบทับ รับกายใจ หลับไสล ใจล้า มารอนรอน ท่ามภวังค์ ยังรั้ง ยั้งสังสาร ยังฝันฝาน รานทรวง ร่วงสลอน ตายเจ็บเกิด กำเนิดแก่ เป็นแน่นอน ไยรุมร้อน รอนร่ำ ใจก้ำเกิน