*** รำพึง *** รำพึงแผ่วคำนึงเมื่อตรึงคิด ผ่านชีวิตวัยชรายากหาไหน มิแก่นสารวนเวียนที่เพียรไป ทั้งวิไลซบเซาบรรเทาตรอง สิ่งล้มลุกคลุกหงายเกิดสำนึก มาตรองตรึกดั่งครูรู้ทั้งผอง เป็นวิชาชีวิตมิผิดละออง ร่ำเรียกร้องฝังไว้ฤทัยแผ่ว หนึ่งขวบปีผ่านไปใกล้ลิขิต ฟ้าดินปลิดอายุหายละลายแล้ว ที่เหลืออยู่ฝากไว้คล้ายหางแมว หลักชัยแจ้วเรียกหามรณาตาม สิ่งแปรเปลี่ยนเวียนวนที่ล้นฝาก เพื่อนหนีจากเรือนร่างครั้งถูกหาม มรณะทูตหยุดไว้ความงดงาม มิเกรงขามชนชั้นพลันต้องตาย เหลือวิญญาณพเนจรร่อนเร่ ยากจะเหที่ใดยากคาดได้ คงแต่กรรมหนุนเกื้อที่เอื้อไป ดีและร้ายเฉพาะตนบุคคลเรา ดุจกงเกวียนเวียนวนกลับที่เก่า สิ่งรบเร้าเกิดอยู่ดูขลาดเขลา ยังหลงติดชีวิตที่บางเบา แย่งมาเฝ้าอัตตาหาเงินทอง แม้นตายไปมิได้สักน้อยนิด เหรียญที่ติดในปากเพื่อฝากของ ค่าเดินทางต่างภพถูกหมายปอง สัปเหร่อต้องนำขายคล้ายระลึก มองชีวิตของเราก็เท่านี้ ยามเป็นผีใครเล่าจะเฝ้าตรึก คงปล่อยร้างหนีหายใจระทึก เคยรักนึกสะท้านหวั่นวิญญาณ์. *** แก้วประเสริฐ. *** (ปล.ขอขอบคุณ ลูกหลานเพื่อนสนิทมิตรสหายที่อวยพรวันคล้ายวันเกิดผม ในบทกลอนของลูกเอมครับ ขอบคุณ)
22 มิถุนายน 2550 14:15 น. - comment id 713470
แวะมาอ่านคำรำพึงแล้วใจที่มันพลุกพล่านอยู่... ก็พลันสงบขึ้นมาทันใด... มาหวลระลึกได้ถึงจุดหมายข้างหน้าของชีวิต.. ที่หมายเดียวกันของปุถุชนทุกคน...นั่นคือความตาย.. แต่เรามักลืมที่จะคิดถึงสิ่งนี้ไป.. มาคิดดูอีกที..ความตายคงเป็นสิ่งที่มีความสุขนะ.. เราไม่ต้องตื่น.. เราไม่ต้องดิ้นรนหาอาหารมาใส่ท้อง เราไม่ต้องดิ้นรนสนองกิเลสของตัวเอง.. เราไม่ต้องรับรู้..ไม่ต้องรู้สึก.. เราไม่ต้องเจ็บ..ไม่ปวด..ไม่ทรมานกับสังขารที่ล่วงโรย กับโรคภัยที่มาเบียดเบียน.. มีหลายคนที่ไม่อยากตาย... มีไม่มากเท่าไรที่เตรียมพร้อมที่จะตาย รพีเคยอ่านหนังสือ "เสียดายคนดายไม่ได้อ่าน" เป็นหนังสือที่ดีมาก ๆ เขาบอกไว้ว่า.."การตายคือการยุติ..ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ต้องไปคำนึงถึงล่วงหน้าให้เสียเวลาเปล่า" วันนั้นจะมีอยู่เพียงวันเดียว เป็นประสบการณ์หนเดียว การตายเป็นการสอบครั้งเดียวที่ไม่มีโอกาสแก้ตัวใหม่อีกรอบ... ขอบคุณในกลอนดี ๆ ค่ะ ขออนุญาตเก็บนะคะ..
22 มิถุนายน 2550 14:17 น. - comment id 713472
ดีคะคุณแก้วประเสริฐ...กาแฟคะ สุขสันต์วันเกิดขอให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ้ฐนะคะ..แข็งแรงๆๆ พิมผู้หญิงคนหนึ่ง..รำพึงว่าเราก็อีกคนหนึ่ง ที่กาลเวลาให้หมุนไปตามอายุล่วงเลยวัย และเป้ฯคนหนึ่งบนโลกนี้ที่กำลังจาจบไป.....
22 มิถุนายน 2550 14:20 น. - comment id 713477
สุขสดขื่น แข็งแรง 22 มิถุนายน 2550
22 มิถุนายน 2550 14:21 น. - comment id 713478
ด้วยชีวิต ด้วยแรงใจ ไม่เคยหวั่น เพราะได้ผ่าน คืนวัน อันเหนื่อยล้า เคยล้มลุก คลุกคลาน บางเวลา แต่อยู่ได้ ด้วยศรัทธา และแรงใจ เมื่อพ้นผ่าน วันวาน อันเปลี่ยวเหงา พ้นวัยเยาว์ วัยหนุ่มสาว เข้ามาได้ เพียงครึ่งทาง ยังต้องผ่าน อีกยาวไกล หวังเพียงได้ มีคนช่วย อำนวยพร มองชีวิต ของผู้อื่น เป็นแบบอย่าง คอยระวัง คอยนำทาง พลางสั่งสอน อุปสรรค นานานับ พึงสังวรณ์ ไม่จากจร จากไกล ใจอดทน ขออวยพร ให้บั้นปลาย ได้คลายทุกข์ มีความสุข สิ่งที่สร้าง คำสั่งสอน จะน้อมนบ พบวิชา เอื้ออาทร จะขอพร แก้วประเสริฐ เลิศล้ำใจ ทั้งบทกลอน และคำสอน อันมีค่า จะนำพา สั่งสอน รุ่นหลังให้ รำลึกถึง คุณความดี มีต่อไป คงความดี ของท่านไว้ ในบ้านกลอน.... ขออวยพรย้อนหลังค่ะ...ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ....
22 มิถุนายน 2550 15:35 น. - comment id 713516
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวัฎจักรของมนุษย์อย่างเรา ๆ เสมอค่ะ.... ดังนั้นเราควรทำความดีไว้มาก ๆ เผื่อจะได้มีลูกหลานพูดถึงความดีของผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ บ้าง.....
22 มิถุนายน 2550 15:39 น. - comment id 713523
22 มิถุนายน 2550 15:44 น. - comment id 713527
ลุงแก้วสบายดีนะคะ กลอนเพราะจังเลยค่ะ
22 มิถุนายน 2550 20:06 น. - comment id 713615
อันชีวิตของคนเราก็เท่านี้ เกิดแก่เจ็บตายมีเท่าที่เห็น คงเหลือไว้ซึ่งบาปบุญที่จัดเจน จึงขอเน้นร่วมทำดีกันดีกว่า ความดีไม่มีวันตาย แต่เกิดแก่เจ็บตาย มีกันได้ทุกคนค่ะ
22 มิถุนายน 2550 23:32 น. - comment id 713729
รำพึงแผ่ว วันวาน ผ่านชีวิต เคยทำผิด ถูกไว้ ในวันก่อน ทั้งเกิดแก่ เจ็บตาย ใจอาวรณ์ ทั้งร้าวรอน มีสุข ทุกข์คละกัน ดั่งกงกำ กงเกวียน เปลี่ยนหมุนล้อ ยากจะขอ อายุไข ไกลดั่งฝัน เมื่อเกิดแล้ว ก็ต้องตาย วายชีวัน แล้วเธอฉัน จะหนีพ้น ได้หรือไร
23 มิถุนายน 2550 02:10 น. - comment id 713787
อ่านคุณลุงแก้วประเสริฐรำพึงแล้ว ป.ก็แต่งกลอนไม่ออกเลยค่ะ เอาแต่รูปมาฝากนะคะ
23 มิถุนายน 2550 02:10 น. - comment id 713788
อ่านคุณลุงแก้วประเสริฐรำพึงแล้ว ป.ก็แต่งกลอนไม่ออกเลยค่ะ เอาแต่รูปมาฝากนะคะ
23 มิถุนายน 2550 02:12 น. - comment id 713789
ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ อวยพรลุงแก้วช้าไปนิดหนึ่งเพราะติดงานต้องเดินทางไปเชียงใหม่ ไม่สายนะค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆพร้อมครอบครัวนะค่ะ...
23 มิถุนายน 2550 05:14 น. - comment id 713808
เป็นธรรมดาของชีวิตครับ ถ้ายังออกจากวัฏฏสงสารไม่ได้ จริงดั่งคำของพระพุทธองค์ว่า เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นทุกข์
23 มิถุนายน 2550 07:46 น. - comment id 713834
กานต์คงดีใจถ้ามีโอกาสได้รำพึงแบบนี้อย่างคุณลุงบ้างค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ
23 มิถุนายน 2550 10:57 น. - comment id 713918
คุณ bananaleaf เชิญตามสบายเลยครับ ภพนี้สิ้นสุด ตาม คำภีร์กล่าวไว้ว่า ดับ ปุ๊บ เกิดปั๊บ ครับเหมือนจิต ของเราที่เกิดดับๆๆอยู่ตลอดเวลา ฉนั้นจิตถึงได้ เปลี่ยนไปตามสภาพของอายาตนะทั้ง 6 ทุกๆครั้ง ที่มีการเกิดดับขึ้น จิตจึงฟุ้งซ่าน สิ่งที่ดีคือการให้ จิตยึดเหนี่ยวไว้เป็นหนึ่งนั่นแหละจิตถึงจะไม่ค่อย เกิดดับ ถึงเกิดดับก็ไม่ฟุ้งซ่านครับ อย่าคิดว่าเมื่อ สิ้นภพนี้แล้วจะหยุดชะงัก ตัวแปรคือกรรมบุญที่ เรากระทำครับ จะนำจิตเราไปสู่ยังที่ๆกรรม ที่เรากระทำหรือบุญนั้นแหละครับ สิ่งที่ดีที่สุดคือการสร้างบุญด้วยการนั่งสมาธิ เป็นการกุศลที่ดีทางหนึ่งครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:00 น. - comment id 713922
คุณ พิมญดา ไม่ว่าคนหรือสัตว์ทั้งปวงครับย่อมไม่พ้นสิ่ง เหล่านี้ไปได้ ลองอ่าน คห.15 ที่ผมตอบไว้ซิครับ ตามที่ผมศึกษามาครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:02 น. - comment id 713924
คุณ ก่องกิก ขอบคุณมากครับน้อมรับครับ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:07 น. - comment id 713926
คุณ น้ำผึ้งเดือนห้า กลอนหวานดั่งน้ำผึ้งเดือนห้าจริงๆครับออก แนวธรรมะด้วยยอดครับ ขอบคุณยิ่งในคำอวยพร ที่มอบให้ผมครับ ขอความสุขสวัสดีมีชัยจงมีแด่คุณ ตามใจนึกปรารถนาทุกประการครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:11 น. - comment id 713930
คุณ whitelily ช่างเป็นความคิดที่ดีมากครับ ผู้ใหญ่ต้องเป็น ผู้วางแนวทางให้แก่เด็กเพื่อเป็นตัวอย่าง บางครอบครัว นั้นมิได้กระทำอ้างเหตุงาน เมื่อเด็กโตขึ้นขาดความ อบอุ่นการอบรมสั่งสอนแต่เยาว์วัยก็มักจะเอาเพื่อน เป็นตัวอย่าง แล้วมาร้องทีหลังๆแต่ไม่สามารถแก้ไข ได้ครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:13 น. - comment id 713931
คุณ silver snitch ขอบคุณดอกไม้ที่งามครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:15 น. - comment id 713934
คุณ ไอติมรสต้มยำ เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะครับ ขอบคุณที่ ส่งความหวังดีมาให้ แต่จริงๆแล้วสบายใจแต่ไม่ สบายกายครับ ด้วยโรคภัยไข้เจ็บมักจะเบียดเบียฬ เสมอครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:23 น. - comment id 713938
คุณ ผู้หญิงไร้เงา ใช่แล้วครับคุณตูน สิ่งใดๆในโลกนี้ย่อมมีการ ดับสิ้นจะช้าหรือเร็วกว่ากันเท่านั้น ผมจะไปเปรียบ กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต เช่นเหล็กหรือหินผายังต้องกร่อน ไปตามสภาพช้าหรือเร็ว นับประสากับมนุษย์สัตว์ต่างๆ เช่นพวกเราครับย่อมเสื่อมสลายไปตามกาล เวลาเช่นเดียวกันครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:26 น. - comment id 713940
คุณ สิริน ขอบคุณกลอนธรรมร่วมประสานแนวครับ แต่คนเราบางคนบอกว่ายังไม่ถึงเวลา ให้แก่เฒ่า เสียก่อนค่อยนำมาคิดแต่ไม่ทันก็สิ้นชีวิตไปก่อน กระทำครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:27 น. - comment id 713941
คุณ ปราณรวี อันที่จริงคุณเองก็เก่งกลอนอยู่แล้วเพียงแต่ ว่าเมื่อออกมาแบบนี้คงจะงงไปเท่านั้นเองครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:28 น. - comment id 713942
คุณ ปราณรวี ภาพสวยครับขอเก็บไว้นะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:30 น. - comment id 713943
คุณ ดิออร่า ไม่ช้าหรอกครับเพราะว่ายังไม่สิ้นเดือนมิถุนายน ครับ ต้องขอขอบคุณมากๆๆเลยครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:33 น. - comment id 713944
คุณ เบรฟฮาร์ท คำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้ คลาดเคลื่อนเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยนิดครับ จน กระทั่งฝรั่งมังค่ายังยอมรับว่าแม้สองพันกว่าปีแล้ว คำสอนก็ยังมิเปลี่ยนแปลงและใช้ได้ตลอดกาลจน ถือเป็นปรัชญาชีวิตไปครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2550 11:35 น. - comment id 713945
คุณ เพียงพลิ้ว ลุงว่ากานต์ของลุงนั้นต้องคิดในใจเสมอมา เพียงแต่วาระของงานรัดตัวจึงมิได้ปฏิบัติได้ตาม ความคิดเท่านั้นเอง คิดเสียดีกว่าไม่คิดจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.