ปทุมาดาษดื่นเหนือพื้นน้ำ สะพรั่งงามแย้มพริ้มอิ่มเกสร กลีบสลวยสวยชวนมวลภมร ให้บินร่อนลดเลี้ยวเทียวมาชม บัวเบ่งบานบอบบางอยู่กลางหนอง ให้แลมองชมพูดูงามสม คล้อยเอนไหวส่ายก้านต้านสายลม ตูมพนมดอกน้อยยังคอยบาน เห็นบัวงามให้ตามคิดถึงคำสอน ของเอกองค์ชินวรผู้แตกฉาน สมเด็จพระพุทธองค์ผู้ทรงญาณ ผู้เบิกบานหยั่งรู้อยู่ทุกครา พระแบ่งบัวออกเป็นเช่นสี่เหล่า แล้วเปรียบเข้ามนุษย์ให้ศึกษา แทนดอกบัวให้เป็นเช่นปัญญา นำธรรมามาสอนกร่อนจิตใจ งามดอกบัวบานสะพรั่งอยู่กลางหนอง จงเพ่งมองลงไปในน้ำใส เห็นถึงหง่าวถึงกอที่ก่อไว้ แล้วทรงใช้ปัญญาพาเรื่องราว ว่าบัวหนึ่งอยู่ในตมก้นธารา เปรียบเป็นคนไรปัญญาแสนโง่เขลา สอนเท่าไหร่ไม่รับไม่จับเอา ต้องเปลื่อยเน่าลงไปอยู่ในดิน บัวเหล่าสองเติบโตอยู่ในน้ำ หากมีใครชี้นำคงแปรผิน อาจโผล่พ้นพื้นน้ำงามรวยริน และส่งกลิ่นชวนฝันวันต่อมา บัวเหล่าสามคือบัวงามเสมอน้ำ เปรียบดั่งคนฟังความรู้ภาษา อธิบายเข้าใจใช้ปัญญา อีกไม่ช้าก็เบ่งบานซาบซ่านใจ และสุดท้ายคือบัวเหล่าที่สี่ บัวดอกนี้พ้นน้ำงามสดใส คลี่กลีบออกดอกบานสะท้านใจ ด้วยแจ่มใสแจ้งรู้พรูปัญญา
21 มิถุนายน 2550 20:03 น. - comment id 713062
ไม่เลวนะนายเนี่ย
21 มิถุนายน 2550 20:10 น. - comment id 713064
ภาพรวมที่อ่านดูนะครับ ถือว่าดีนะครับแม้บางบทจะอ่านๆแล้วมันสะดุดนิดหน่อยๆแต่ สื่อความหมายได้ดี คนแต่งเป็นคนช่างสังเกต ตั้งแต่กลอนที่แล้วที่เปรียบชีวิตกับน้ำตก ธนามักแต่งกลอนที่โยงสิ่งรอบตัวเข้ามาสู่ชีวิตตลอด ถือว่า เป็นสิ่งที่ดีมาก การมองดอกบัวดอกหนึ่งมิใช่แค่ชมโฉมเท่านั้นแต่ยังน้อมเอาคุณลักษณะของบัวมาเปรียบเข้ากับชีวิต ธรรมะ ความดีงาม การนำสิ่งรอบตัวมาสอนใจเป็นสิ่งที่ดีงามอย่างยิ่ง เป็นความงามเพราะเป็นการอ่านนอกมองใน ครับ
21 มิถุนายน 2550 20:11 น. - comment id 713065
สุดบรรยายเรยคับ อ่านแร้วรู้สึกเคลิ้มตาม ได้ข้อคิดคติสอนใจ นำไปใช้กับชีวิต เยี่ยมยอดเรย นายธนา แต่เอ เราจะอยู่ เหล่าไหนหว่า หุหุ
21 มิถุนายน 2550 20:12 น. - comment id 713066
สวัสดีครับ นายธนา วรรณศิลป์และธรรมขององค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้า นายนำมาเรียบเรียงได้อย่าง งดงามยิ่ง ชื่นชมจากใจครับ
21 มิถุนายน 2550 20:39 น. - comment id 713074
ไพเราะมากมายคะ
21 มิถุนายน 2550 21:24 น. - comment id 713087
********************** ท่านผู้รู้บางท่าน เพิ่ม อีก เหล่า หนึ่ง ครับ คือ " บัวเต่าถุย" ********************* ด้วยความเคารพ
21 มิถุนายน 2550 21:26 น. - comment id 713088
21 มิถุนายน 2550 21:50 น. - comment id 713107
กลอนเพราะค่ะ ป.ก็กำลังมองว่าตัวเอง อยู่เหล่าไหนเหมือนกัน แต่คงไม่ใช่เต่าถุยแน่ๆ..อิอิ
21 มิถุนายน 2550 21:55 น. - comment id 713110
เจอรูปนี้เห็นว่าเข้ากะกลอนดี เลยเอามาฝากอีกรูปค่ะ
22 มิถุนายน 2550 00:14 น. - comment id 713124
กลอนดี ความหมายงามมาก ๆ ค่ะ
22 มิถุนายน 2550 06:07 น. - comment id 713157
แวะมาเยี่ยมชอบบัวนะครับ คุณธนา
22 มิถุนายน 2550 06:15 น. - comment id 713163
เยี่ยมยอดค่ะ
22 มิถุนายน 2550 07:52 น. - comment id 713205
อือ....อินสวนขอเป็นบัวลอย..ละกันครับเอาไข่ หวานด้วย....อิอิพูดเล่นครับคงเป็นได้ประมาณหมู่ที่3 มังครับ
22 มิถุนายน 2550 08:30 น. - comment id 713217
ดีจ้า ธนาคุง...... อืมมม เกินบรรยายจริงๆจ้า......งามจริงๆ สำหรับบทนี้ ชื่นชมจ้า เก่งมากๆๆ
22 มิถุนายน 2550 10:59 น. - comment id 713318
22 มิถุนายน 2550 22:12 น. - comment id 713665
หวัดดี ขอบคุณมากๆ ที่แต่งกลอนธรรมะ
22 มิถุนายน 2550 23:00 น. - comment id 713715
ครับดอกบัวเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งใน ศาสนาพุทธเราครับ การบูชาพระรัตนตรัยมักใช้ ดอกบัวเป็นดอกไม้หลักครับ แก้วประเสริฐ.