จุดธูปขึ้นไหว้พระชำระจิต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งพร้อมคนน้อมไหว้ รำลึกถึงผู้อยู่แดนแห่งความตาย ทั้งหญิงชายพร้อมหน้ามาทำบุญ แลปลายธูปเริ่มแผลงสีแดงฉาน ยังริดก้านเรื่อยไปเพราะไฟหนุน เป็นเช่นนี้ทุกเวลาเหมือนทารุณ ส่วนที่มอดก็หมดคุณหนุนส่งลง จึงหักร่วงสู่พื้นเกินฝืนต้าน แต่ยังผลาญแสบร้อนก่อนเป็นผง หากร่วงบนมืออัญชลีที่มั่นคง มือนั้นย่อมสะดุ้งหลงเกินทนทาน และเฉกเช่นชะตากรรมของเทียนไข เมื่อติดไฟก็ลามเร้าค่อยเผาผลาญ และเหมือนมันปวดร้าวแสนทรมาน จึงส่งผ่านทุกข์เป็นเช่นน้ำตา น้ำตาเทียนหยาดน้อยค่อยย้อยใหล เพื่อชะตากรรมใหม่ที่ไร้ค่า ร่วงลงมือถือเทียนเวียนทรมา เพื่อบูชาสิ่งธรรมล้ำบารมี การทำดีนี้ย่อมมีอุปสรรค ใจจึงมักหวาดระแวงและถอยหนี ในเส้นทางที่มีนามว่าความดี ย่อมต้องพลีบางอย่างเพื่อย่างกราย เถ้าธูปและน้ำตาเทียนบทเรียนหนึ่ง ต่อผู้ซึ่งหวังทำดีที่มากหลาย ธูปและเทียนบูชาตนจนวอดวาย เหลือเศษร้ายใหม้ร้อนที่ร่อนลง มือประนมหยัดตรงต้องคงมั่น เถ้าร้อนนั้นอาจเผาให้สะดุ้งหลง แต่มือต้องหยัดอีกครั้งอย่าผ่อนปลง ให้มั่นคงดุจธุปเทียนเพียรทำดี
14 มิถุนายน 2550 21:24 น. - comment id 698086
อ่านแล้วจ้า เขียนดีอ่ะ เห็นเป็นภาพเลย ... น้ำตาเทียนลวกมือ แสบนิดๆ แต่เพื่อความดี เราบ่ยั่น
14 มิถุนายน 2550 15:56 น. - comment id 710269
ไพเราะและมีคติมากครับ ขอชม ๆ
14 มิถุนายน 2550 16:13 น. - comment id 710274
เยี่ยมค่ะ เข้ามาทักทายตอนบ่ายแก่ ๆ
15 มิถุนายน 2550 08:49 น. - comment id 710522
ข้อคิดดีมากเลยค่ะ...
15 มิถุนายน 2550 18:42 น. - comment id 710719
ขอบคุณทุกๆท่านมากน่ะจ้า ทั้งท่าน คนบนเกาะ ท่านพจีรจิต ท่านพี่ กรวดสีฟ้า และท่านน้ำผึ้งเดือนห้า