หลับตาลงปลงใจให้ตั้งมั่น รวมสติครบครันดังมั่นหมาย ภาวนาพองหนอก่อเกิด-ตาย แล้วผ่อนคลายยุบหนอเกิดพอเพียง เมื่อรู้ทุกข์ย่อมรู้ธรรมน้อมนำจิต รู้เส้นทางชีวิตนั้นไม่เที่ยง การตั้งอยู่ล่มสลายลงรายเรียง เหมือนวังเวียงซากอารยะระกะกอง อยู่ในหลักสัจจะธรรมค้ำจุนจิต ไม่ยึดติดตัวตนให้หม่นหมอง ไม่ซ้ายทีขวาทีไม่ขวางคลอง ถือครรลองธรรมะสัจจะธรรม รู้ว่ามีก็เห็นเป็นไม่มี แม้ว่าดีก็เห็นไม่เป็นส่ำ ถ้ายึดดีบ้าดีโดนครอบงำ แบกหินสวยบ่าช้ำวางไม่ลง ถึงไม่มีก็เห็นไม่เป็นไร อยู่ที่ใจยอมละจริตหลง วางหินสวยสู่พื้นแล้วปลดปลง อันใดเล่ามั่นคงตลอดกาล รู้ว่าหินคือหินที่หนักเขื่อง ใช่สดสวยเปล่าเปลืองปลงสังขาร ปล่อยวางความอึงอลก่นประจาน มาขับขานรสธรรมร่ำวจี เปิดเปลือกตาน้อมนำไปตามสิทธิ์ ดำรงธรรมปรุงจิตเป็นศักดิ์ศรี เปิดหัวใจละวางทางถือดี รู้ทันทุกข์เมื่อล้นปรี่ในใจตน...
7 มิถุนายน 2550 11:34 น. - comment id 706622
ธรรมมะสวัสดีคะคุณส่องหล้า การใช้ชีวิตนี่มันเหนื่อยนะเพราะปัจจุบันขณะนะมันต้องใช้ชีวิตแข่งกับวัตถุมากๆฉันรู้ฉันอ่านฉันเห็นฉันไปไหว้พระมาไปบริจาคให้กับศาสนามา..นั่นคือวีถีคนปัจจุบัน..แต่ถ้าบอกว่าทำได้ไหมคำสั่งสอน..นำมาปฏิบัติ ปล่อยวางจิต..ให้ว่าง พึงสังวรสังขานอยู่สม่ำเสมอ พึงกำหนดลมหายใจเข้า-ออก พึงมีสติ พึงที่จะยิ้ม-เย็น-ยอม-อภัยให้สรรพสิ่งใดๆที่อยู่ล้อมรอบตัวเอา..ยากนะ..เอาไว้คราวหน้ามาคุยต่อนะคะ..ยาวไปแระชอบคะกลอยบทนี้ขอเก้บนะคะ..........
11 มิถุนายน 2550 17:17 น. - comment id 708685
การพิจารณาตนเองเป็นเรื่องที่ดีแต่บางทีเราก็ลืมตัวชอบไปสนใจแต่คนอื่นมากเกินไปจนทำให้เกิดขยายวงกว้างเป็นปัญหาใหญ่โตได้ ผมเองเคยประสบอุบัติเหตุจนซีโครงหัก...ไปไหนไม่ได้จะลุกนั่งก็ยากทำให้เรารู้จักตัวตนมากขึ้นว่าไม่มีอะไรเป็นของเราแม้แต่ร่างกายนี้ จึงเรียกว่ารู้ทุกข์รู้ธรรม... ขอบคุณมากครับที่มาแรกเปลี่ยนความรู้ครับ