ข้ายืนอย่างสง่างามด้วยความผิด ข้าพูดคิดคมคำด้วยคำถาม ข้าเห็นแสงแจ้งแจ่มในแรมยาม ข้ารู้ตามจึงนำตนมาพ้นภัย ถ้าเป็นหนึ่งจึ่งซึ้งถึงความต่ำ รู้ระยำหยำฉ่าว่าแค่ไหน ข้าที่โหล่โผตีนปีนขึ้นไป สูงทั้งใหญ่จึ่งรู้สู้ทะยาน ล้วนมณีมีไหนได้จากฟ้า มีแต่มาจากต่ำเตี้ยเดียรัจฉาน ทรายกรวดหินดินทั้งนั้นอันธพาล ได้รับการเจียรนัยเป็นนายคน ตึกระฟ้าสูงระหงลงก็ฐาน แบกกบาลไว้บนบ่ามากี่หน เพราะตีนไซร้มิใช่หรือจึงถือตน ที่แบกขนแต่แข้งข้อเอาคอค้ำ มัวเห็นสุกคือทองเป็นของทิพย์ มัวหนีดิบลิ้มชิมไม่อิ่มหนำ เพราะเห็นทุกข์จนเย็นจึงเห็นธรรม ในความดำความขาวมักพราวพราย
23 เมษายน 2550 06:50 น. - comment id 686149
ยอดเยี่ยมครับผม...
23 เมษายน 2550 09:02 น. - comment id 686285
เข้ามาอ่าน กลอนไพเราะมากค่ะ
23 เมษายน 2550 11:50 น. - comment id 686364
สุดยอดเลยค่ะ แวะมาทักทายตอนเกือบๆเที่ยงค่ะ ทานข้าวให้อร่อยนะคะ
26 เมษายน 2550 19:10 น. - comment id 688101
เป็นความต่างที่ลงตัว เป็นความตรงข้ามที่เห็นความชัดเจนของอีกด้าน