ฟ้ามืดครึ้มคำรามจนข้ามโลก ลมกรรโชกฟาดใส่ต้นไม้หัก เม็ดฝนใหญ่เท่าใหญ่ไหลทะลัก ท่อนซุงยักษ์พุ่งแหวกป่าแหลกลาญ น้ำกระแทกดินจนโคลนถล่ม กูจะฝังให้จมทั้งหมู่บ้าน มาจากเขาสูงพ้นเกินต้นตาล กระชากผ่านฉับพลันก็บรรลัย เสียงหวีดร้องอื้ออึงคนถึงฆาต ไม่อาจหลบหลีกหนีไปที่ไหน หุบเขาพรืดมืดลับและอับไฟ คลื่นโคลนใส่โถมเถือไม่เหลือคน เมื่อฝนซาฟ้าหมองก็ส่องใส มองออกไปเวิ้งว้างร้างถนน ไม่มีแม้ทางทิศชีวิตปน เป็นเวิ้งว้างวังวนทะเลน้ำ
21 เมษายน 2550 11:27 น. - comment id 685462
โหท่าน แบบนี้เค้าไม่เรียกฝนตกปรอย ๆ แล้วล่ะครับ น่ากลัวจัง
21 เมษายน 2550 12:31 น. - comment id 685489
วิ่งๆๆๆๆ ฝนตกแล้ว กลัวเปียก คิคิ
21 เมษายน 2550 13:41 น. - comment id 685522
รู้จักคุณเพียงหนึ่งคน... เหมือนรู้จักอีกสิบคน เพราะบทกลอนของคุณหลากหลายอารมณ์ค่ะ มีทั้งลูกทุ่งแท้ๆ ตัอพ้อ ต่อว่า เศร้าโศกเสียใจ อกหักรักสลาย ตอนนี้.... ถึงขั้นเสียชีวิตแล้วอ่ะ นับถือๆ ค่ะ แซวกันวันละนิดจิตแจ่มใสค่ะ
21 เมษายน 2550 21:48 น. - comment id 685634
คนบนเกาะ ขอบคุณครับ...คือฝนมันแรงไปหน่อย
21 เมษายน 2550 21:49 น. - comment id 685635
น้องเพียงแพรว ร่มก็คงช่วยไม่ได้มั้งครับ
21 เมษายน 2550 21:51 น. - comment id 685636
มัสลิน แล้วแต่ผีเข้าผีออกครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม
21 เมษายน 2550 22:54 น. - comment id 685656
เอาพาราเซ็ตตาม่อนมาฝากค่ะ..เดี๋ยวเป็นหวัดนะคะ..
22 เมษายน 2550 06:58 น. - comment id 685725
ฝนโปรยปรายเป็นสายรวงร่วงสู่พื้น ให้ชุ่มชื่นดับร้อนตอนบ่ายบ่าย แล้วไม่นานพลันหนักสักพักคลาย เกิดเป็นสายน้ำท่วมอ่วมทั่วกัน มาบ่นเรื่องฝนด้วยคนค่ะ
22 เมษายน 2550 11:51 น. - comment id 685809
........... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song336.html หากหัวใจปลิดได้คล้ายดอกฝน ฟ้าหลังฝนหลงฤดู พรูพร่างกลางสนธยาฝัน ไร้เรียวรุ้ง..คุ้งโค้งพาดผืนฟ้าไกล งามดวงใจไยหมองเศร้ายามแหงนเงยดูเมฆหม่น ไม่มีจินตนาการ ไม่มีหวานใด ไม่มีใครคิดถึงคะนึงหา ไม่มีกาลเวลาแห่งอดีตลาเลยลับกลับมาเตือนใจให้จำจด ไม่มี ห่วงหาอาวรณ์ ไม่มีอ้อมแขนอ้อมกอดใคร ให้ถวิลหา ไม่มีคำตอบจากสวรรค์ ไม่มีฝันไม่มีหวัง.. ไม่มี ไม่มี และไม่มี... เหลือเพียงความว่างเปล่า มองโลกเหงางามเงียบ เพียงสีเดียว สีเดียวดาย สีสิ้นไร้ คล้ายโลกสีน้ำเงินเพียง ลำพัง...และลำพัง เด็ดลั่นทม ชมพู พราว เสียบแซมผมริมเรียวแก้ม ดูใบไม้แล้งไร้คล้ายใจคนแล้งน้ำ หักใจรัก..สลัดใจ..สลัดกลีบทั้งดอกใบ..ดอกใจ..ร่วงกระจาย! ************ หากหัวใจปลิดได้คล้ายดอกฝน คงปลิดหล่นปลิดหล่นคล้ายชีพนี้ เพราะหัวใจไม่ใช่ดอกฝนนะคนดี จึงวันนี้แหลกยับดับภายใน หากหัวใจปลิดกลีบได้คล้ายดอกไม้ คงปลิดร่ายพรายพรมลมพัดไหว เพราะหัวใจมิใช่ดอกไม้นะดวงใจ จึงหวั่นไหวเสียใจเพียงลำพัง.. หากหัวใจปล่อยได้คล้ายสายฝน คงปล่อยหล่นปล่อยหล่นหมดสิ้นหวัง แตกกระจายคล้ายแก้วแล้วกระมัง ไร้ฝั่งฝันฝั่งใจใครเฝ้ารอ... เพราะหัวใจปลิดไม่ได้ในวันนี้ จึงต้องมีหัวใจไหวเพ้อพ้อ จึงต้องทนคนไม่รักใจดำพอ จึงต้องขอกล่าวคำลาว่าเสียใจและเสียใจ...ไปจนตาย! *********** http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336 ปีศาจวสันต์ ..... สุนทราภรณ์ บุษยา รังษี : : Key F เรา จากกันวันนั้นยังจำ จากกันวันนั้นฝนพรำ พรางม่านกรรม คล้ำครึ้มคลุมเวร ลมครางฝนครวญ ไพรสั่นชวน รวนระเนน ความกดดัน ขั้นเดน เหมือนจะเค้น ฆ่า กัน เรา จากกันวันนั้นนานมา แต่เมื่อวสันต์ลีลา ฤาสร่างซาฝนฟ้าฟูมฟาย ฤดู ฤดี มันไม่มี วันคืนวาย มันสาปใจ สาปกาย คล้ายมนต์ร้าย พรายผี ผี วสันต์ มันหลอก มันหลอน ปีศาจวสันต์วันก่อน ยังสังวรณ์ เวรนี้ ฟัง โถฟัง ฟังฝนตกซี เหมือนนรกตกตี ย้ำ ขยี้ ใจ ตรม ไป จากไป ไปแล้วไปเลย อย่ามาชวนชิดชวนเชย ปีศาจเอย ร้างเลยอารมณ์ ลมมา ฝนมา จงอย่ามา พาระทม เพียงโศกทราม เศร้าซม ฉันจะล้ม ตายแล้ว...