นิธิรำพึงภาค๑
nidhi
ถึงวันนี้ชีพที่เหลือนั้นเพื่อลูก
แม้จะถูกหยามเหยียดทำเดียดฉันท์
อดทนสู้ต่อไปไม่นานวัน
ความสุขสันต์วันที่เหลือคงดีขึ้น
๙สิงหาคม๒๕๔๗
ในเวลาอับโชคอย่าโศกศัลย์
ตราบตะวันยังอยู่โลกสดใส
ชีพต้องอยู่อดทนสู้ต่อไป
ท้าโลกให้ได้รู้ยังสู้ต่อ
๑๗สิงหาคม๒๕๔๗
In God we trust
In such this time
To find myself
To help the family.
August17, 2004
เมื่อรู้สึกอับจนอย่าก่นว่า
เที่ยวโทษด่าโชคชะตาฟ้าราศี
หมั่นอดทนไปจนกว่าจะได้ดี
กู้ศักดิ์ศรีคืนกลับประดับสกุล
๑๗สิงหาคม๒๕๔๗
ถึงวันนี้ที่หวังยังไม่เสร็จ
เกือบจะเจ็ดปีแล้วแน่วแน่สรรค์
ที่แก้ไขใกล้จะดีขึ้นทุกวัน
ที่ใฝ่ฝันจะแก้ไขใกล้เสร็จแล้ว
๑๘สิงหาคม๒๕๔๗
จากวันนั้นถึงวันนี้หลายปีแล้ว
แต่ยังแน่วแน่ใจต้องแก้ไข
หวังพรุ่งนี้มะรืนนี้ดีอย่างใจ
ที่แก้ไขไปแล้วช่างน้อยนัก
๑๘สิงหาคม๒๕๔๗
สิ่งที่หวังตั้งใจในวันนี้
หมั่นทำดีคิดดีละที่ชั่ว
หากนอนหลับพับไปไม่ต้องกลัว
ทำดีทั่วกลัวอะไรใครติฉิน
๒๔สิงหาคม๒๕๔๗
ความวุ่นวายสายวันนี้มากมียิ่ง
เกือบทุกสิ่งล้วนต้นตอก่อปัญหา
ความยุ่งยากค่อยสะสมตามติดมา
ถึงเวลารับความจริงในวันนี้
๓๑สิงหาคม๒๕๔๗
สุดสายป่านคือว่าวน้อยที่ลอยลิบ
กว่าห้าสิบไล่ตามหวังยังตามหา
ชีวิตเศร้าเคล้าสุขทุกข์นานา
ต้องฟันฝ่าอีกเท่าไรใครรู้บ้าง
๑๕กันยายน๒๕๔๗
ต่อไปนี้ที่ยังเหลือนั้นเพื่อลูก
เรื่องผิดถูกหรือไม่ไว้ทีหลัง
ก่อนเคยคิดติดเอาไว้ยังไม่ทำ
เดี๋ยวนี้จำเป็นต้องเร่งเซ็งซะแล้ว
๑๕กันยายน๒๕๔๗
คือความหวังที่ตั้งไว้ไม่แปรเปลี่ยน
คือความเพียรประพฤติชอบเพื่อตอบสนอง
คือการเลี่ยงประพฤติผิดทำนอง
คือยุคทองส่องสว่างกระจ่างแล้ว
๒๓กันยายน๒๕๔๗
แสงแดดส่องเรืองรองอย่างทองอาบ
จิตกำซาบปลาบปลื้มลืมทุกข์ขม
ที่ผ่านมาทุกข์หนักมักระทม
เมื่อใดสมเกือบจะล่มจมอยู่แล้ว
๒๔กันยายน๒๕๔๗