เคียวคมคาวสาวเอ๋ย ใช่เสวยสุขสวัสดิ์ดัดจริต น้ำไม่มีข้าวต้นหงอยฝนน้อยนิด จึงชีวิตจำพรากจากท้องนา สู่เมืองฟ้ากับนาผืนน้อย เอาแป้งฉาบรอยของสาวบ้านป่า แต้มปากแดง..แต่งทรงโสภา วาดคิ้วเขียนตา.แลงามนัก เคียวคมคาวสาวเอย นาที่เคยหว่านไถใช้แรงหนัก มิอาจสู้มารยาทำน่ารัก เสี่ยก็ควักเงินทองมากองให้ สบายกว่ากันเยอะ เนื้อตัวไม่เปรอะ..หน้าก็ผ่องใส ทำนาเหนื่อยหนัก..ดักดานร่ำไป ยังยากยังไร้.หนี้อ่วมท่วมนา เคียวคมคาวสาวเอย แรงเจ้าเคยสร้างฝันสู้ฟันฝ่า พลิกผืนดินไถหว่านเนิ่นนานมา ครั้งปู่ย่าเผ่าพันธุ์บรรพชน บัดนี้ห่างหน.คนหนุ่มสาว เคียวคมคาว.เขาแคลนแค้นข่น คนกับควายทำนา.ประสาคน บัดนี้ยล.ทุ่งร้างอ้างว้างใจ - ลานเทวา
29 มีนาคม 2550 07:40 น. - comment id 677823
สุดยอดไปเลยครับ ยกนิ้วให้....เยี่ยม
29 มีนาคม 2550 11:24 น. - comment id 677908
29 มีนาคม 2550 13:12 น. - comment id 677974
คมเคียวคาวใคร่คิดครวญให้ถ้วนถี่ คอยขยี้ด้วยคมคำให้ขุ่นข้อง อยู่ก็ช้ำคำยีย่ำน้ำตานอง หนีมัวหมองไม่เกี่ยวข้องให้เคียวคาว
29 มีนาคม 2550 13:32 น. - comment id 677977
คำน้อยน้อยค่อยเคี้ยวย้ำเป็นคำกลืน ไฟฟอนฟืนหุงใช้กระไรหา ปลายข้าวแฉะแตะลิ้นกลืนกินมา หอยปูปลาไม่มีแกงเพราะแล้งสิ้น รอเถอะพ่อใหญ่รอ ไม่นานหนอฝนชื่นจักคืนถิ่น ยามนั้นคงได้ทำนาได้หากิน ฟ้าจักรินฝนหลั่งประทังเรา ลานเทวา
29 มีนาคม 2550 22:05 น. - comment id 678226
แล้งมาก ๆ นาจะท่วมกรุง