22 มิถุนายน 2553 12:29 น.
plaing_piu
๑ ใจพรากจากความจำหวนรำลึก
นัยรู้สึกผลึกรานแห่งหวานขม
น้อยหนึ่งไม่ถึงพิสุทธิพรหม
เพียงมิข่มปรารมภ์อ้างว้างราแรม
๑ ลมฝนต้นวันผ่าวชื้นหนาวดึก
มืดมวลพฤกษ์อวลกลิ่นไอดินแต้ม
แสงไต้รำไรหม่นมองฝนแซม
หอมกลิ่นแก้วแผ่วแก้มแอร่มนวล
๑ โตรกหินธารรินหลั่นกระทั้นเหยาะ
เพลงน้ำเลาะออเซาะวันคืนผันผวน
เบาหนักมิพักบรรเลงรัญจวน
ดั่งใจจากพรากครวญนวลแรมโรย
๑ น้ำตาใครคาแก้มคืนเเรมเร่า
ฝนเบาเงาแลบฟ้าไกลหาโหย
เทใจจะพรากประจักษ์รักฝากโปรย
มิราโรยโดยค่า.. แห่งอาทร
๑ ต้น- ปลายสิ่งร้ายดีถึงที่สุด
ใจสมมุติ...จิตพุทธะ- รู้..ละหลอน
ไม่มี... รัก- ชัง...หลงดงนิวรณ์
ไร้ใจ...ซ่อนนัยหาสัจจาธรรม
๑ สุดฟ้าอุษาสีมณีผ่อง
เยี่ยมครรลองหมอง- ปลื้ม...ใจดื่มด่ำ
ตระหนักภพ- สงบ..แจ้งแห่งแสงธรรม
ไม่มี- คำล้ำค่า...ตลอดกาล
๑๑๑๑๑
8 มิถุนายน 2553 21:54 น.
plaing_piu
๑ รอนรอนอ่อนอกแรงแข่งชิงพลบ
ยิ่งกว่าศพทบ..ใจใน..จำหมอง
ปลดปลงนิ่งคงวาง..ไม่อย่างปอง
รู้สึกข้องลึกขัด..สัมผัสใด
๑ ทางแฝงร้ายแห่งกาลกระชับสั้น
ความผูกพันซุกหลง--ละ...สงสัย
ทวิคติ--ไม่มี..ชี้อะไร
ตระหนักรู้อยู่ในใจ...พุทธะ
๑ ไม่มี- ใจมิได้พ้นตน..มิถึง
มิอาจ..ไร้ใจ..พึงซึ้งสัจจะ
ตระหนักรู้อยู่ผิวเผินเมินนัย
หลงอัตตวิสัย..ไกลแห่งธรรม
๑ รู้-ไม่รู้.. อยู่ในใจตระหนัก
รัก-ไม่รัก..จมปลักตื้นตันดื่มด่ำ
ดี- เลว..ไหวใจหลงมั่นคงคำ
ทวิคติ- ดำรง..ทำลาย
๑ มุ่ง-ไม่มี- ทวิคติว่าง
ตระหนักตนค้นทางคู่วางว่าย
รัก-ไม่รัก.. ประจักษ์รู้ไร้คู่กราย
ไม่มี- ภายในจิต.. อิฏฐารมณ์
๑ นัยสากลจักรวาลพิจารณ์จิต
ต้น-ไม่มี--ปลายมิคิดยึดติดสม
จิตพุทธะตระหนักรู้นัยอุดม
จิตฝึกข่มลึกซึ้งถึง..ไร้ใจ
๑๑๑๑๑