26 ธันวาคม 2553 10:22 น.
plaing_piu
๑ หนาวแรกปนฝนแปลกที่แผกผิด
ธรรมชาติสาธิตวิกฤติท่า
รักหวานอมขมกลืนขืนชะตา
ตนจะทรมาเพื่ออะไร
๑ คืนค่ำจมคำนึงใครพึงผ่าน
รสอ้อยตาลหวานว่าจริงไฉน
กาลเวลาเหหันมิปันใจ
ลึกอกไยไห้หลังยิ่งฝังจำ
๑ อดีตยังกรีดใจได้รู้สึก
เจ็บฝังลึกตกผลึกขืนยากกลืนกล้ำ
แก้วร่วงดินรินหอมอดออมคำ
มิถลำด่ำถวิลเกินกลิ่นเนียน
๑ เพลงเหงาลอดเงาไม้ตามไหวดึก
ข้ามคืนค่ำรำลึกรุ้สึกเปลี่ยน
ขอสิ้นจินตนาประกายเทียน
ภาพใครเบียนในอกสะทกสะท้อน
๑ เพลงรู้สึก..ลึกเศร้า..ไม่เท่าไร
สิ่งฝังในใจยอกเจ็บหลอกหลอน
ไฟมอดเชื้อเหลือละอองตะกอน
ฤานัยสะท้อนรักฟอนโชน
๑ ฝนหนาวอกร้าวรำพึงคำหวน
รื่นกลิ่นนวลสิ้นคาดสวาทโก่น
แรมร้างหนทางใดใจอ่อนโอน
มิโลดโผนโยนคำหวานพร่ำรัก
๑๑๑๑๑
6 ธันวาคม 2553 00:23 น.
plaing_piu
๑ ฝนเลือนดินเหมือนย้ำคนจำจาก
ปรารถนากระชากจะพรากขวัญ
สิเนหาวัสสากาลผ่านคืนวัน
นัยผูกพันทุกสิ่งจริงกระไร
๑ รุ่งรางกางชีวิตอิสระ
โหยหาทวีทบสบสมัย
เหมือนยิ่งจมดิ่งลึกระทึกใจ
เวิ้งว่ายอบายนัยอัตตา
๑ รอบตัวสลัวหม่นสับสนหนัก
ใดพรากรักจากอกสะทกท่า
ปล่อยวางอย่างไรฝังใจตำตา
กำหนดว่าสมมุติ...ใดยุดยื้อ
๑ เวิ้งว้าง..แวบหว่างหวัง..วูบ.วังเวง
แว่วดังเพลงกังวานหวานเหมือนดื้อ
ใดหลบเร้นเป็นตายได้ลุกฮือ
ประกายคือพลังยั่งยืนรัก
๑ หยาดฟ้าธราดลบนสู่ล่าง
หนึ่งหยดทางลดเลี้ยวเคี่ยวกรำหนัก
ผ่านกาลเทศะไหนไม่เคยพัก
กระแสหลักหนักเบามิเท่าใจ
๑ รักบานร่วงซ่านกลิ่นมิสิ้นหอม
อกคนจำนนพร้อมยอมมิใช่
ลมฝนถั่งท้นบ้าคลั่งกระไร
รื่นกลิ่นถวิลในใจพอแล้ว
๑๑๑๑๑