31 พฤษภาคม 2552 02:10 น.
plaing_piu
๑ สุนทรียรสกวีบทเก่า
พลิกฟื้นวันคืนเกลากวีเข้าท่า
การประพันธ์ชั้นครูรู้วิชา
คือมนตราวาทปรากฏเป็นบทเรียน
๑ ไม่รู้ฤารู้น้อยค่อยเพียรหัด
ตำราวัดฤ ว่าวังคลังอ่านเขียน
เก่าใหม่มิใช่เรื่องเขื่องติเตียน
ล้วนดั่งเทียนเรียนทันนัยปัญญา
๑ กวีนิพนธ์ไทยมิใช่ชั่ว
โง่ยิ้มหัวมั่วอ้างมุ่งทางหน้า
ละตัวตนแห่งชนชาติสะอาดตา
วัฒนธรรมชีวาประชาชน
๑ เสวนาคำประพันธ์ฉันทลักษณ์
คำนึงหลักศึกษาสะเทือนผล
รูปแบบแยบคายคมอารมณ์คน
เนื้อหากลซ่อนฝนลึกล้ำตรึกตรอง
๑ งามภาษากวีลีลาวาด
ให้รู้ศาสตร์รู้ศิลปท่อง
จินตนาการอำไพทำนอง
ใจตกต้องรสคำนัยคำนึง
๑ ปฏิบัติจัดเจนเช่นหลักว่า
ถูกผิดคือวิชาค่าควรพึ่ง
สำเร็จล้มเหลวแล้วแน่วขัดกลึง
ย่อมลึกซึ้งถึงงานการประพันธ์
๑๑๑๑๑
24 พฤษภาคม 2552 14:25 น.
plaing_piu
๑ ลมล่องละมุนหทยใคร จะพิไรมิใช่มนตร์
รอยตราวจีนุชประดน ฤดิแนบบ่แอบเงา
๑ แก้วนวลระรื่นนยสิเนห์ พิศเล่ห์สวาทเนา
จมโศกมิกล้าจะภิทเงา อุระร่ำคะนึงหอม
๑ มั่นคงฤดีจะมิละลด ฤ กบฏกระบวนยอม
ซึ้งนักสตรีมิละถนอม รติแท้ตลอดกาล
๑ เตชมนตรวาทพิศวาส อภิวาทอธิฏฐาน
สมนัยสื่อมนสิการ มิระแหงระโหยหา
๑ ดังพายุภาพยกระหวัด ลุสมรรถภาพพา
พัดสมฤดีบ่ทรมา มนนึกสะท้อนใจ
๑ ลมล่องก็ไหวระยะฤดู ปะทะวู่ประหวัดไว
เพียงภาวะจิตจะพิไร ฤ ปลาสนาการ
๑ แรงพิษฐานทิพยหยาด มธุวาทรสิกซ่าน
ดังปรารถนาจิตวิริย์นาน นภผ่องผกายดาว
๑ ฟ้าดินประโลมทิพยญาณ สหทานจะเพริศพราว
บุณบารมีระดะระนาว สุขนาฏกรรมดล
๑ เพ่งจิตสดับวจิวธู สติรู้พินิจตน
นับวาสนาจะปะยุคล มนมั่นมิคลาดใคร
๑ เพื่อเธอบ่หมายกลจะครอง สติตรองวิจิตรใจ
มุ่งหวังฤดีระอุพิไร ประลุธรรมดำเนิน
๑๑๑๑๑
20 พฤษภาคม 2552 01:02 น.
plaing_piu
๑ โพ้นฟ้าลับประกายดาวพรายพริบ
หยาดแต่ริบหรี่ดาราพรางฝัน
ลมล่องดึกล่องกลืนกลมคืนวัน
ยังคงครรลองฝันมิผันแปร
๑ ร่วมฟากฝันหันห่างมิพรางฝัน
ไกลมิอันตรธานหวานไหวแน่
โลกหลับตื่นยืนยันคงมั่นแท้
ขวัญพับแพ้กับจาก ...ยากบอกใคร
๑ ทีละเมียดอะไรไม่เคยเปลี่ยน
เหม่อจนเวียนล้นตาหยั่งไฉน
นิมิตภาพซาบคำบาดทำไม
รอยอาลัยระบมขมรอยจำ
๑ ทอดอารมณ์จมบ่วงในห้วงคิด
ไยสนิทผวาอดีตย่ำ
สิ้นเยื่อจะเหลือใยใช่เงื่อนงำ
นัยรอยคำคอยวอนมิรอนตน
๑ มืดมิดไม่ผิดภาพใครอาบฝัน
ตัดรอนกันหวั่นไหวให้ฉงน
ตามต่อฝันวันเปลี่ยวดายเคี่ยวคน
รอใจก่นในที..มีสักวัน
๑ ถ้วยกาแฟปร่าเก่าพรางเงาใฝ่
ยังละไมในอกวิตกพรั่น
หนาวจับจิตกับใครใจเมินกัน
มีสักวันรักหายกรายกลับงาม
๑๑๑๑๑
13 พฤษภาคม 2552 11:48 น.
plaing_piu
๑ ย่ำรอยทรายสายยาวมืดหนาวเปลี่ยว
กี่โค้งเดียวดายเหงาเศร้าเกินเผย
ทะเลรวนเห่คลื่นสะอื้นเคย
จะล่วงเลยห่วงหาอาวรณ์กระไร
๑ ซ่อนรูปรอยจูบใครอุ่นในอก
ฝันเพ้อละเมอพกวิตกไฉน
เลื่อนลอยคอยเวลาหรืออะไร
มิรู้ใจอยู่ไหนเหมือนใครเร้น
๑ เงียบเหงาสักเท่าไรในน้ำฟ้า
ทรมาระลอกคลื่นหยอกเล่น
สะท้านผิวกร้านลมบ่มจนเจน
สนระเนนละมุนใครหนุนเคย
๑ คอยวันฝันคืนว้างยิ่งย่างเปลี่ยว
ดึกเดือนเรียวเลือนล้าน้ำตาเอ๋ย
โหยหาอาลัยย้ำฝากรำเพย
จะชื่นเชยเลยเมินใจเกินรู้
๑ จอมเทียน..ดั่งเทียนไหวใสกระจ่าง
คือจอมนางกลางใจใช่หดหู่
มืดลิบพริบประกายพรายชื่นชู
ชีวิตอยู่ดูสั้นมีฝันงาม
๑ รักเอยไม่เคยรู้มีอยู่ไหน
ฝากดินฟ้าสิ้นใดเกินไต่ถาม
ธรรมชาติสะอาดคลี่คลายนิยาม
รักในความจริงแท้..ฤาแน่นอน
๑๑๑๑๑
3 พฤษภาคม 2552 14:01 น.
plaing_piu
๑ ทอดกายสุดสายตามองฟ้าน้ำ
เพริดระบำระยิบคลื่นลิบไล่
เสียงสนดั่งคนคร่ำครวญร่ำไร
ทอดถอนใจรอนแรมแกมร้อนรน
๑ ปรารถนา...ทะเลไร้เสแสร้ง
ลมคลื่นแรงกลืนกลบสงบฝน
แดดระยับพยับมัวเหนือตัวตน
ธรรมชาติปราศกล..คนดุจกัน
๑ เกิดเห็นเป็นไปตามความจริงรู้
สนจะวู่ระริกใบพลิกผัน
ทะเลครืนลมคลื่นกระแทกกระทั้น
อกคนสงบ..ป่วนปั่นตามครรลอง
๑ อารมณ์หวานขมรับสรรพสิ่ง
ความเป็นจริงเห็นนัยไม่สนอง
รักชังเป็นทั้งทุกข์สุขไตร่ตรอง
สติป้องพินิจถูกผิดกระทำ
๑ ทะเลมิเหหันสิ่งพลันเกิด
คนล้ำเลิศธรรมกระจะดื่มด่ำ
รอยทรายรายทางบุญหนุนรอยจำ
ให้ผลกรรมย้ำเตือนในเรือนใจ
๑ เสียงสนดั่งมนต์ขลังรักบังเกิด
อกคนเพริดหม่นล้าอย่าหวั่นไหว
ครองสติวิสาขบูชาใด
เจริญนัยธรรมปัญญากุศลกรรม
๑๑๑๑๑