29 กันยายน 2548 03:46 น.
plaing_piu
๑ พยับฝนคลั่งฟ้า ปลาบปลาย
เกินถั่งถ้อยห่วงสาย สวาทร้าง
อกประหวั่นประกาย ฟ้าแปลบ
ขวัญอ่อนกระเจิงคว้าง สุดคว้าอกอิง
๑ พยับฝนวับฟ้า
ปลาบผวาว่าห่วงหาย
หวั่นหวาดสวาทวาย
ขวัญเดียวดายคว้าสายลม
๑ นานนักเจ้ารักเร้น
ใจจัดเจนมิเว้นข่ม
น้ำใจใครปรารมภ์
ยังมิสมไยขมกลืน
๑ ทรมานพี่รู้
มิเอ็นดูเช่นคู่ชื่น
เงียบงันนิ่งวันคืน
ลืมแพรผืนเคยชื่นชาย
๑ ฟ้าวาบปลายปลาบอก
ยิ่งสะทกอกห่างหาย
ดึกนี้มิมีสาย-
สวาทคลายรักกลายคำ
๑ หนใดไม่เคยรู้
คนชื่นชูอยู่ชื่นฉ่ำ
ฟ้าแวบแปลบประจำ
ใครปลอบย้ำหวาดคร่ำครวญ
๑ แปลบฟ้าเพลาสาง
คนเมินหมางห่างเกินหวน
สงบ..ยิ่งทบทวน
รัก..นิ่ง..ควร..มิรวนเร
๑๑๑๑๑
19 กันยายน 2548 08:02 น.
plaing_piu
ริ้วสายหมอกรื่นดอกไม้บอกรัก
หวานประจักษ์ฤดีอยู่มิหาย
งามมณีสีรุ้งพุ่งฟ้าพราย
ราวประกายเนตรขึงคำนึงนวล
ละอองฝนหล่นใบไม้ริกริก
ราวเสียงซิกซิกสะอื้นใครคืนหวน
จันทร์กระจ่างนภาเมฆารวน
ลมพัดอวลไม้รื่นรักคืนเรือน
มองฝ่าฝนหล่นดึกยิ่งนึกถึง
ใจจะดึงดันต่อไปในนามเพื่อน
กระแสน้ำกรากเชี่ยวลดเลี้ยวเลือน
กระแสเตือนหัวใจไม่เคยลืม
ฝากลมดึกรำลึกเล่ห์เสน่หา
วันคืนมาพรากใจใครมิปลื้ม
คงแน่นหนักรักไม่ให้หยิบยืม
ยังด่ำดื่มฤดีเคยมีกัน
สิ่งดีดีมีให้..ให้ตลอด
มิเคยออดอ้อนใจคนไหวหวั่น
สำนึกแรกแตกต่างคือรางวัล
ขอฝากใจในฝันมิพลันเลือน
ฝากฝนดึกพฤกษ์ผาทะเลไหน
ฝากหัวใจไม่บังอาจมีกลาดเกลื่อน
ฝากความจริงใจพิศมิบิดเบือน
ฝากถ้อยเหมือนเคยย้ำ...คำนึงมิวาย
๑๑๑๑๑
13 กันยายน 2548 04:29 น.
plaing_piu
หอมแพรพรรณผืนนั้นหมองเจ้าของหมาง
สะอื้นพลางแนบแก้มกลิ่นแซมไหม
เดือนคล้อยดับประทับอกสะทกใจ
เจ้าของกลิ่นสิ้นเยื่อใย....ไกลลับแล้ว
คำเคยอ้อนค่อนดึกหวนนึกแปลบ
ยังหวามแวบไหวเรียงสำเนียงแว่ว
ระรื่นหูชี้ดูทางช้างเผือกแพรว
รักแน่แน่วแนวฟ้าไหนไปผูกพัน
กาลเวลาถวิลมิสิ้นสุด
ขอพรพุทธบูชาประสบฝัน
สิ่งใดร้ายกรายไกลหัวใจกัน
สุขรางวัลร่วมฟันฝ่าชะตากรรม
หวานคำนึงขึ้งคำนวณยากครวญใคร่
มิรู้ทำผิดใดไยมิพร่ำ
เงียบก่อนพายุไหวไล่กระทำ
มหันตโทษย้ำร้ายล้ำลึก
แพรใครมัดสงัดเศร้ารักเจ้าเอ๋ย
ไม่รู้เลยเคยชื่นอยู่มิรู้สึก
กลิ่นใครกอดหอมพลอดพร่ำยังรำลึก
บอกลมดึกพัดฟ้องเจ้าของเมิน
สัมผัสแพรแต่นี้มิอาจต้อง
คนหวังปองหมองใจไกลห่างเหิน
ลมฝนชะยิ่งกระหน่ำย้ำเหลือเกิน
เหมือนคนเพลินรักปลื้มแล้วลืมแพร
๑๑๑๑๑
8 กันยายน 2548 02:06 น.
plaing_piu
หากเป็นคนนั้นของเธอ...ต้องห่าง
ความแตกต่างระหว่างกันน่าขวัญหาย
ราวฟ้า..ดิน...สิ้นกับเริ่ม...เติมกับคลาย
เจ็บ..ฝันร้ายมิวายเว้น....ใครเห็นใจ
หักใจคิดผิดถูกจำปลูกหลัก
ระหว่างรักฤาหลงมิสงสัย
บอกตัวเองเพลงหวานนานเท่าใด
ยามร่ำไห้สุดท้ายเศร้าตราบเท่านาน
รักคือความงามง่ายขอได้รัก
พึงตระหนักรักไม่ใช่ประหาร
ดื้อหักดิบหยิบปองตามต้องการ
แม้ได้มา...ทรมาน...หวานกล้ำกลืน
ขอเป็นผู้ร้ายในใจคนหมอง
เจ็บจำต้องทนข่มใจขมขื่น
ว่าห่างหนี......มีเงาใครใจตามคืน
ยิ่งสะอื้นคำช่างเหมือนมีดเฉือนใจ
ไม่เคยหนี...มิต้องไล่.....ใกล้อยู่แล้ว
หอมดอกโศกอกแผ่วแก้วหวั่นไหว
เจ็บกี่ครั้งยังกี่หน....ทน....เคยนัย
ขอเรามี.....โลกพิไล...ไม่ร้างลา
๑๑๑๑๑
5 กันยายน 2548 05:50 น.
plaing_piu
สามก๊กสื่อสกปรกศาสตร์
ใครรักชาติขายชาตินัยจริงใครแสร้ง
สรรพอุบายร้ายดีมีพลิกแพลง
จากจิตแจ้งจบฟ้าดินมิสิ้นเรียน
สารัตถะปัจจุบันเลียนกันชั่ว
มุ่งส่วนตัวมัวอดีตเลวขีดเขียน
อ้างส่วนรวมร่วมเสนียดกันเบียดเบียน
ไม่เคยเปลี่ยนก๊กเก่าเล่าสืบมา
อำนาจบาดจิตคนอับจนแท้
ชนะแพ้แค่กิเลสตัณหา
ประชาชน...เหตุผลเก่าหลอกเข้าตา
ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ..คือสามานย์
ธรรมปรากฏหดหู่ใครรู้แจ้ง
วันนี้แข่งขันงัดเล่ห์จัดจ้าน
สังคมบ้านการเมืองเปลืองตำนาน
จิตประหารเพื่อผลตนเลิศล้ำ
ที่สุดคนมิพ้นชะตาดินฟ้า
กระแสกรรมทำมาต้องถลำ
สูงสุดสู่สามัญพลันพึงจำ
คืนสู่ดินถิ่นกำเนิดกรรมตน
นัยสามก๊กยกจิตประภัสสร
กลับคืนตอนแรกใสไร้แววหม่น
จิตจรไปในที่แปลกมิแยกตน
ว่าง...จากกลกิเลสพันตัณหางำ
๑๑๑๑๑