18 ธันวาคม 2548 14:05 น.
plaing_piu
....เร้น....
๑ ถั่งถ้อยผลิร้อยความ มนงามนิยามรัก
แรกเจอก็เผลอผลัก หทยา ณ แดนใด
๑ ซ่อนนัยประหวัดชิด นฤมิตเสน่ห์ไหว
วาดหวังจะยังใย รติพันธนาการ
๑ อิงอกละมุนอ่อน ทิพกรจะฉายฉาน
ดินฟ้าจะรังควาน มิสะทกสะเทือนตน
๑ สุขทิพพิมานเมฆ รจเรขมิเยี่ยมยล
ชื่นฟ้านิศาชล นิรทุกขคำนึง
๑ ดาวเดือนบ่เลือนลับ ตริสดับมโนรึง
สานต่อมิพอพึง ระดะรอยคะนึงนวล
๑ ภาพย้อนสะท้อนจิต สุนิมิตบ่คืนหวน
ดึกด่ำสิคร่ำครวญ นยนาลุฟ้าฤา
๑๑๑๑๑
12 ธันวาคม 2548 18:13 น.
plaing_piu
๑ รอยใดฝังอกแค้น มิจาง
น้อยหนึ่งมิให้หมาง หม่นใกล้
ทิพย์เล่ห์เสน่ห์ราง เลือนพี่ ฤาแม่
คงสนิทเกินให้ ห่วงสิ้นฤดีโหย
๑ ค่อนดึกลมพรมหน้าผวาตื่น
ถอนสะอื้นคืนใดไม่แตกต่าง
สิ่งคุ้นเคย....รำเพยพัดสะบัดจาง
ไยรักหมางมิรางเลือนเหมือนลมเลย
๑ จมความหลังครั้งก่อนเจ็บซ่อนหน้า
ใครลืมเล่ห์เสน่หา...ขวัญข้าเอ๋ย
ลมโชยหนาวคราวนี้มิเหมือนเชย
ไร้คู่ที่อยู่เคย.....คำเอ่ยรัก
๑ คงมีความหมายใหม่ให้สนิท
ละเลยมิตรเรือนใจไม่ประจักษ์
ใบไม้แก่ใกล้หล่นไร้คนพัก
รู้ว่าสักวันเห็นเป็นเช่นนี้
๑ สิ่งใดย้ำคำชัดคือสัจจะ
รู้กาลเทศะควรคิดถ้วนถี่
ฝากชีวิตให้กันผูกพันฤดี
หนักแน่นที่สุดมีสติปัญญา
๑ ความแตกต่างช่างเถิดเกิดมาต่าง
มิอาจกางกั้นนัยรักไห้หา
จำเป็นไหมได้ครองรักปองมา
ตอบไม่ได้ดอกหนา....น้ำตาคลอ
๑๑๑๑๑
9 ธันวาคม 2548 13:45 น.
plaing_piu
๑ กายใจราวผ่าแยก สลาย
ยินโศกนางมิคลาย ขุ่นข้อง
วันคืนสนิทหาย หวงห่วง คำนึง
ไข้สร่างโศกยังต้อง กร่อนเนื้อเถือใน
๑ ฟ้าอึมครึมฝนหล่นหนาว
ใจราวขาดลงตรงหน้า
ธรรมชาติสิ้นเมตตา
อ่อนล้ากายใจไข้รุม
๑ ไข้แค่แพ้ดินฟ้าอากาศ
ประหลาดสวาทพ่ายไฟสุม
วันคืนตื่นเพาะรักเกาะกุม
ร้อนรุ่มรุมเร้ายากเข้าใจ
๑ เคยหอมนวลหวนคืน...สะอื้นอก
อ่อนสะทกอกสะท้านวาบหวานไหว
ผสานจิตสนิทนานทิพย์ธารไกล
หลอมดวงใจได้รสความงดงาม
๑ เพียงย้ำความคำนึง บางสิ่งซึ่งคนมองข้าม
ขึ้งใดมิไขตาม มีคำถามซ่อนความนัย
๑ สร่างไข้ใจยังโศก วานลมโบกพัดโยกใคร
คืนนี้พี่พิไร รอหัวใจไกลมาคลอ
๑๑๑๑๑
28 พฤศจิกายน 2548 16:07 น.
plaing_piu
๑ หนาวลมเหนือแผ่ฟ้า เยือกเข็ญ
คนจากนานบำเพ็ญ นิ่งแท้
นัยหลังถั่งเนื้อเย็น สิ้นเยื่อ ใยฤา
หวังแม่แปรแค้นแก้ อกสร้านสิเนหา
๑ ฝากลมหนาวดาวเดือนเป็นเพื่อนบอก
คนช้ำชอกปอกใจอาลัยหวน
อยู่หนใดใครคลอลออนวล
รู้ไหมใครร่ำครวญใคร่ทวนนัย
๑ คำนึงเนื้อนวลผ่องโสมส่องฟ้า
ผ่านเมฆหนาพร่าหมอกหยอกหวั่นไหว
ม่านราตรีสีดำยังอำไพ
สว่างในใจคนหนึ่งคนเดียว
๑ น้ำค้างออดอ้อนยอดใบหญ้าไหวอ่อน
หยดห่วงหาอาทรคนซ่อนเปลี่ยว
หนึ่งดวงใจให้หมดไม่ลดเลี้ยว
ผูกพันเหนียวแน่น...เดียวดาย...มิวายรัก
๑ ดึกแล้วห่มลมหนาวพัดกราวใหญ่
ดาวเลือนเดือนลับไกลเหมือนใครผลัก
อยากหลับฝัน...ขวัญหายเสียดายนัก
ชะตาหักเหใจใครหักลา
๑ หากหยุดความหลังชื่นคืนอบอุ่น
รอยละมุนกรุ่นเล่ห์เสน่หา
เก็บหยดความเจ็บช้ำในน้ำตา
ให้รู้ว่าฆ่าใจมิได้เลย
๑๑๑๑๑
17 พฤศจิกายน 2548 23:22 น.
plaing_piu
๑ นบบุญคุณแม่น้ำ ไพศาล
หนุนสรรพสิ่งตระการ แผ่กว้าง
อุดมแห่งภักษาหาร อกแม่ ประทานเฮย
เรืองประทีบฤาคว้าง สู่ห้วงอนันตกาล
๑ ตามประทีบลิบไหวไปหยิบฝัน
เบื้องหน้าอันลำเค็ญเร้นรอท่า
ทีละก้าวหนาวล้อทรมา
ทุกข์มิว่าไขว่คว้าดาวสกาวเดือน
๑ อธิษฐานลานตากระทงสาย
พร่าประกายหวังคอยค่อยไหลเคลื่อน
โค้งคดไหนไหวกระทบกระเทือน
เทียนอย่าเลือนดับแสงแม้แรงใด
๑ ขอษมาลาโทษโปรดละสิ้น
เคยเรื่องหลังพังภินท์ดิ้นรนใหม่
ผลบุญกรรมสัมฤทธิ์ชีวิตไกล
ก้าวหน้าอสงไขยภัยอย่าซ้ำ
๑ ลุฝั่งฝันสันติที่สงบ
ร้ายเคยรบจบละแรงกระหน่ำ
จิตประภัสสร์วางอัตตารู้กระทำ
มิจดจำกรรมข่มคารมใด
๑ กระทงตองล่องน้ำ นวลเพ็ญ
กระเพื่อมตามคลื่นเห็น ต่อหน้า
โค้งคอดกระแทกกระเซ็น ประทีบ วูบเฮย
จิตนิ่งไกลสุดหล้า ล่วงเบื้องพุทธคุณ
๑๑๑๑๑