4 เมษายน 2549 04:25 น.
plaing_piu
๑ เสียซึ้งงามถิ่นทั้ง เวียงพิงค์
เถื่อนถ่อยอัปยศชิง สิทธิ์ปล้น
วิถีแห่งคนจริง แต่ปาก
หลงขลาดเขลาบ่ข้น ศักดิ์แท้บาปเมือง
๑ ห ะห่าจะถ่อยถ้วน สถุล
อ้างเหตุเลศแรงรุน ต่ำช้า
ปิดฟ้าฝ่ามือพรุน เบือนบิด
นายคลั่งสั่งดินท้า สะท้อนสะเทือนธรรม
๑ บ่หลงเหลือกลิ่นเอื้อง เสียงซอ
งามผิดเพียงภาพยอ ปลุกปั้น
ใจคนบ่สูงพอ เทียมสุ เทพเนอ
อัปยศบีบคั้น เจ็บเนื้อนาบุญ
๑ สนองอยากบ่สิ้น นายกู
ใครแตะต้องลองดู กี่ตั้ง
ลบเหลี่ยมเล่ห์อดสู มิพ่าย
ขุดชั่วไม่รอรั้ง ตอบโต้โอหัง
๑ ประจานอัปยศทั้ง เชียงใหม่
อ้างประชาธิปไตย ชั่วช้า
ปากว่าตาลุกไล่ ตามติด ขยี้เฮย
ทำกระหือรือท้า เก่งกลุ้มรุมเลว
๑ คืนสติบ่งเนื้อ ร้ายใน
งามถิ่นขจรใคร สืบสร้าง
เวียงพิงค์จักวิไล ร่วมก่อ
ธรรมแห่งคนเมืองกว้าง แผ่พ้นถ่อยสถุล
๑๑๑๑๑
ภาพ................เอื้องสายหลวง
25 มีนาคม 2549 21:50 น.
plaing_piu
๑ วจีจากฝากใจใครเจ็บจิต
คำนึงนิจพิสมัยมิได้สม
ร้อนลมแล้งแห้งหทัยระทม
ยังโหยหาแม้ระบมคารมใด
๑ ชวนชมเพียงลมปากฝากมาคิด
เคยสนิทเสน่หามิน่าใช่
หอมราตรีมีเพียงเสียงเรไร
เดียวดายในภวังค์ยังหลงรอ
๑ จนดึกดื่นกลืนฟ้าเดือนลาลับ
ดาวประดับนภาผสานต่อ
นวลกระจ่างร้างไกลไม่ลออ
น้ำตาคลอทรมามิกล้ารน
๑ ว่ารุ่งสางจางสิ้นแม้กลิ่นแก้ว
คำนึงแววมณีเปื้อนสีหม่น
เคยเจียมตัวกลัวคำเจ็บจำคน
นฤมลคนดีได้ที่ควร
๑ คารมไหวใครเจ็บจิตเก็บกด
ทรยศกดดันใดไม่คิดหวน
ขอเพียงอุ่นอกข้างแรมร้างนวล
หลับแย้มสรวลสนิทมิตรเรือนใจ
๑ ลมล่องตามผิวน้ำไหวลามคิด
ฟ้ามืดมิดชีวิตคนหาหม่นไม่
นวลแสงดาราเดือนลับเลื่อนไกล
กระจ่างใจใครพร่างมิร้างนวล
๑๑๑๑๑
21 มีนาคม 2549 22:48 น.
plaing_piu
๑ บอกใจคนไม่รู้อยู่ไกลลิบ
เคยกระซิบหยิบฝัน...วันนี้สลาย
คงเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวคนเดียวดาย
สิ้นความหมายกายใจ...อย่าได้รัก
๑ วิถีแห่งจักวาลไพศาลยิ่ง
ความเป็นจริงภายในใจตระหนัก
ใกล้รุ่งรางร้างไปใครชอกรัก
มิอาจหักหาญได้อย่างใจคิด
๑ เป็นบุญนำหนุนกันแม้นสั้นสั้น
สิ่งผูกพันชั่ววันคืนมิขืนสิทธิ์
ความรู้สึกลึกล้ำ..อมฤต
ยังสนิทเสน่หาตลอดกาล
๑ เหมันต์มิหันเหสิเนหา
คิมหันต์ตราตรึงลมร้อนบ่มผ่าน
วสันต์ใดไหลรินหลงกลิ่นธาร
เก็บความหวานนานไหวนัยผูกพัน
๑ เพียงลมรุ่งพัดกรายผิวกายชื่น
หวนวันคืนผันแปรเหลือแต่ฝัน
สะท้อนอกสะทกในเยื่อใยกัน
แย้มยิ้มพลันยินดีมีรักจริง
๑ บอกใจคนไม่รู้อยู่ไกลลับ
เพลงจากขับทำนองหม่นหมองยิ่ง
ไม่มีแล้วแก้วใดให้พักอิง
เก็บทุกสิ่งจางหายสายลมร้อน
๑๑๑๑๑
21 มีนาคม 2549 08:08 น.
plaing_piu
๑ เพลงจากหากต้องจบสงบจิต
สิ่งผ่านมานฤมิตชีวิตผัน
มิเคยได้หัวใจใครผูกพัน
น้ำตากลั้นกระไร..ใครจดจำ
๑ เตือนตนนิ่งเสมออย่าเผลอไผล
โลกวิไลในฝันวันยังค่ำ
ความเป็นจริงยิ่งแปรปรวนแม้คำ
รักตอกย้ำเพียงรำเพยรื่นเลยลับ
๑ หลงนัยเยื่อใยรักพึงหักจิต
สิ่งใดคิดพิสมัยให้สดับ
รื่นแล้วโรย..โหยหา..เมินกล้ารับ
เจ็บ..ไม่จับใจจากกันทุกวันคืน
๑ โอ้ละหนอขอดอกรักบอกหวง
มิได้ทวงคำเห็นรักเป็นอื่น
พี่ฝากหัวใจพันผูกวันคืน
ได้แต่กลืนน้ำตาประสาเจียม
๑ เพลงจากเจ็บฉากจบสงบจิต
สิ่งใดคิดถูก..ผิด.ใจให้เต็มเปี่ยม
ฝากความหมายมิให้หมองอกต้องเกรียม
ร้อยเล่ห์เหลี่ยมทำร้ายใครมิได้เลย
๑ ฝากหัวใจไห้หวนหานวลน้อง
โปรดรู้ตรองความนัยได้เอื้อนเอ่ย
ในดินน้ำลมไฟใจคุ้นเคย
อย่าเลือนเลยเยื่อใยละไมละมุน
๑๑๑๑๑
5 มีนาคม 2549 16:38 น.
plaing_piu
๑ กลับกลาย ฤ หลายหน้า พิศวาทะเลิศลอย
เทียมฟ้าประกบคอย กระจะหมายอุบายยื้อ
๑ ปากว่าขยิบนาน บริวารกระหือรือ
หลงวาสนาฮือ ธนโปรยระยำยอม
๑ ความดีสิบี้บิด บ่พินิจวินัยล้อม
อำนาจพินาศพร้อม ปะทะกล้าอหังการ
๑ เพียงหวัง ณ ฝั่งไหน จะละไมหทัยพาน
ศักดิ์ศรีมิต้องการ ทะลุฟ้ากระเทือนตน
๑ การเมืองประเทืองชาติ สิประกาศสะอาดกล
จริงรับก็อับจน นยะรู้อุบายแปลง
๑ บทบาทฉลาดยุติ มิสะดุดผรุสแปร่ง
อำนาจวิวาทแรง ปะทุไทยมิได้ดี
๑ ยืดเยื้อก็เพื่อตน บ่ฉงน ฤ ป่นปี้
ประเด็นประจักษ์มี ตะละท่าสิกลับกลาย
๑ มีเพื่อนสิเลือนจาก ก็วิพากษ์วิจารณ์หลาย
ให้คิดบ่บิดร้าย คติภาวะผู้นำ
๑ ใกล้พาลริยำแหย่ ขณะแย่ยุแต่ย่ำ--
ยีชาติประชาธรรม สติปัญญะมืดมน
๑ ปลุกนามิใช่นา พลพาประลองกล
เหยียบไหนสิไพร่พล บริวารก็ขานรับ
๑ ด้วยใจก็หาไม่ พฤตินัยมิได้ศัพท์
เพียงบรรลุสำทับ กติกาประชากู
๑ แรมรอนสะท้อนอก ปะนรก ฤ ไม่รู้
หญ้าแห้งสิแล้งชู อสุภ์เน่าจะเฉาเอง
๑ มองนัยใครโกง คณะโยงก็โล่งเล็ง
กฏกรรมบ่ยำเยง มิสดับสะท้านใด
๑ เลือกตั้ง ฤ ลากตั้ง ปะทุชังก็ช่างไทย
ทักษิณบ่ยินใคร ลุอุบายสลายค้าน
๑๑๑๑๑
อินทรวิเชียรฉันท์ 11