2 สิงหาคม 2549 02:21 น.
plaing_piu
๑ หากทะเลเห่คลื่นเหมือนคืนก่อน
คนห่วงหาอาวรณ์ไม่ย้อนหวง
สุดฟากฟ้าทะเลฝังใจทั้งดวง
ลมมิต้องพัดล่วงไปห่วงใคร
๑ มืดสุดฟ้าดาราเดือนเกลื่อนระยับ
นิ่งสดับคลื่นพลิกระริกไหว
รื่นอารมณ์ห่มรำเพยรำไร
อยากร้องไห้คนใจดำมิคำนึง
๑ ความรู้สึกลึกกว่าราตรีสงัด
ยากเกินวัดใจหวังสักครั้งหนึ่ง
เคยอบอุ่นครุ่นนัยให้รำพึง
แต่มิถึงก้นบึ้งใจคนไกลเลย
๑ ทะเลใจไร้คลื่น...ไยกลืนกล้ำ
เก็บรอยจำเจ็บทำไมไม่เอื้อนเอ่ย
อันใดหมองต้องชังทั้งปวงเคย
อย่านิ่งเฉยเลยสงัดมิจัดเจน
๑ คลื่นทะเลเห่ไหวใครประหวัด
คืบคืนซัดสะบัดศอกระลอกเล่น
ยิ่งลมพลิกระริกคลื่นสะอื้นเอน
เสียดายเช่นคนเป็นอื่น.....ไร้คลื่นลม
๑ ฟ้ามืดมิดปิดประกายมิได้สนิท
คนยังมีชีวิตนิมิตบ่ม
ทอหวังทั้งสุดฟ้าน่านิยม
จะลมลมแล้งแล้งมีแรงใจ
๑ แรงคลื่นยากยืนท้าทะเลป่วน
ไร้คลื่นชวนหวั่นจนเกินทนไหว
ปริศนาธรรมชาติน่าบาดใจ
คนร้างไปไม่ลาบาดอารมณ์
๑๑๑๑๑
25 กรกฎาคม 2549 14:21 น.
plaing_piu
๑ รักในสายลมอุ่นเพียงครุ่นฝัน
ไม่มีแม้สักวันคว้าฝันได้
ปรารถนาอารมณ์ชื่นชมใด
ถามหัวใจไหวอ่อน...ซ่อนน้ำตา
๑ ดื่มด่ำดาววาว....วับพยับฝน
สวรรค์หล่นคนก็ลับต่อหน้า
เย็นลมล่องหมองในใจคนล้า
ไม่รู้เจตนาลับลาเลย
๑ เพียงแพรไหมไว้ตามความรู้สึก
ถลำลึกนึกนัยมิได้เอ่ย
อยากสลัดที่ขัดใจเหมือนไม่เคย
เจ็บนักเผยรอยจำยากอำพราง
๑ ลมเป็นของเล่นคนแต่หนไหน
มิต่างใจใครซ้ำเติมคำหมาง
ลวงลมล่องหมองไปไร้ทิศทาง
ไม่มีอย่างที่เคยรำเพยพรม
๑ ห่างหายมิกรายลมเคยพรมอุ่น
ยังลวงครุ่นคำนึงนัยแพรไหมห่ม
ดอกราตรีคลี่หอมใครดอมดม
มิเคยสมปรารถนาฤาว่าไร
๑ ลมล่องลำน้ำวังเวงเพลงเพียงพลิ้ว
ลวงลมปลิวตามเล่ห์เสน่ห์ไหว
ลมลวงเล่นเช่นว่าเพราะว่าใคร
ตอบมิได้....ใจลมลมแล้งแล้ง
๑๑๑๑๑
9 กรกฎาคม 2549 17:48 น.
plaing_piu
๑ แห่งกาลจะฝากพจนสุน- ทรอุ่นละมุนนัย
แย้มสรวลระรื่นปริหฤทัย นยนาประกายดาว
๑ คืนค่ำระบำรติพิสุทธิ์ มิสะดุดวิถีพราว
ย่างเยื้องสง่ามนสิก้าว ลุฤดีอหังการ
๑ ตนปรารถนามธุรพจน์ พิเราะบทกวีหวาน
ไมตรีสนิทมนสิการ มิละถ้อยประดอยใด
๑ สื่อความสิเนหะก็กระจ่าง ระอุกลางอุระไหว
ปล่อยกาลเทศะสิละไม พิศวาสมิคลาดคลา
๑ สุดห้วงคะนึงบ่นฤมิต ก็วิจิตรกระจ่างหน้า
เสียดายสวรรค์ละก็ละล้า พยุคลั่งนภาคราง
๑ ผิดหมองเพาะนัยละฤไฉน ตริมิใช่คระไลห่าง
โศกนักตระหนักวจนะว้าง บ่สนัดจะหยั่งเลย
๑๑๑๑๑
วสันตดิลกฉันท์
5 กรกฎาคม 2549 01:02 น.
plaing_piu
๑ คืนเหงาเงาจันทร์พลันเห
ลมเรรวนไหวใบกวัก
มืดฝนหม่นฟ้าทะลัก
หวังสักคนห่วง....ลวงฤา
๑ แวบปลาบวาบเสียวเปลี่ยวหน้า
ผวาฟ้าล่มลมหือ
เดียวดายปลายโลกโศกฮือ
ยิ่งหือรือโหดโทษไร
๑ ฟ้าคลั่งถั่งโถมโหมหัก
มิรักจักร้ายไฉน
ธรรมชาติเห็นเป็นไป
ขอใจใครอย่าร้ายกัน
๑ ให้เป็นเย็นฝนบนฟ้า
รินหล้าขจีที่สรรค์
พิศุทธิ์จุดคืนฟื้นวัน
เติมฝันปันดีชีวา
๑ ฝนเซาเงาจันทร์กระจ่าง
เม็ดบางพร่างพื้นฟื้นหล้า
คารมคมนัยใครคา
น้ำตาจะหล่น.....คนไกล
๑ ดึกเหงาเงาใครไหวยอก
ยิ่งหลอกตนหนีมิได้
นวลรางห่างเลือน....เพื่อนใจ
สิ้นเยื่อเหลือนัย..(คน)ไม่ดี
๑๑๑๑๑
24 มิถุนายน 2549 13:51 น.
plaing_piu
๑ ระหว่างฟ้าหาโหยโดยรู้สึก
ระสายนึกหวงแม้นสุดแดนสรวง
ระลอกอารมณ์ใครไหวเล่นลวง
ระทมดวงใจ...ฤาว่าเสมือนรัก
๑ แรกผูกพันขวัญอ่อนค่อนคืนเหงา
สัมผัสเงาพร่าใครไม่ประจักษ์
ว่าชมรสบทกลอนสุนทรนัก
ไม่รู้จักรักฉันใดได้เริ่มรู้
๑ หอมดอกไม้สายน้ำรินธรรมชาติ
ฝันใครวาดสะอาดในใจกันอยู่
เพลินดนตรีลีลาวสันต์พรู
สุขเพียงครู่ใครอยู่ไม่ถึงใจคิด
๑ หนาวน้ำค้างกลางไพร...มิได้เห็น
ร้อนน้ำตกกระเซ็นเย็นสะกิด
ฝนสะทกอกแอบอุ่นแนบชิด
กาลเวลาผ่านมาผิด...ไยคิดครวญ
๑ ดึกเคยไหวใจหวามวาบข้ามฟ้า
หวานบทรจนามิกล้าหวน
คำซื่อซื่อสื่อหัวใจมิใช่ทวน
ใครยังนวลกระจ่างแม้ร้างรา
๑ ดินฟ้าไม่อาทรยิ่งหลอนคลั่ง
ลมฝนช่างแปรปรวนชวนผวา
คนโดดเดี่ยวเคี่ยวกรำกลืนน้ำตา
เจ็บนัก..รัก..ฤาว่าเสมือนจริง
๑๑๑๑๑