20 กันยายน 2554 11:42 น.
plaing_piu
๑ นานสดับหับห้องคงหมองหม่น
คิดถึงคนหนึ่งไกล..ไยยากฝืน
เพลงลมหวนทวนมาน้ำตากลืน
ทุกวันคืนฝันร้ายอยู่ดายเดียว
๑ แสวงหาธรรมชาติสะอาดพุทธิ์
มุ่งพิสุทธิจิตใดปลิดเกี่ยว
สัมผัสงามน้ำฟ้าดั่งยาเยียว
ทุกข์ใดเชี่ยวกรากหลงปลงสิ้นนัย
๑ เพลงลมหวนทวนมาน้ำตาจาก
จะสิ้นรากฝากรอยพล่อยมิใช่
หากส่วนลึกดึกดื่นสุดขืนใจ
เศร้าพิรี้สุขพิไรใดมิเลือน
๑ สงบใจไห้หัวเราะเสนาะจิต
คือชีวิตผิดถูกต้องคลุกเปื้อน
ส่วนลึกรอยใครคอยบาดวาทเตือน
สิ่งเสมือนจริงเสมอมิเพ้อเลย
๑ สงัดพลบสงบคำนึงคำน้อย
ทุกสิ่งปล่อยอิงธรรมชาติเผย
ที่สุดไกลหลุดพ้นยากคนเคย
จะนิ่งเฉยเลยอารมณ์กระไร
๑ สดับใจไห้หาหอมสนิท
นฤมิตเสน่หาเกินคว้าใฝ่
กาลเวลาเสแสร้งสำแดงใด
รู้แก่ใจใครต่างจำห่างจริง
๑๑๑๑๑
15 สิงหาคม 2554 10:36 น.
plaing_piu
๑ รื่นนัยอารมณ์ห่มถวิล
หอมไอดินกลิ่นผานภาสมุทร
สงบจิตปลิดใดนัยวิมุต
ปฏิบัติวิสุทธิ์พุทธดำเนิน
๑ มืดฝนฟ้าไหวสติยิ่งพินิจ
ธรรมชาติจะผิดถูกคิดเผิน
ธรรมะในใจต้องไม่หมองเมิน
รู้ขาดเกินวาดใจให้ตื่นตาม
๑ คลื่นลมทะเลไหวไม่สิ้นสุด
จิตมนุษย์ยุดยื้อใดถือห้าม
จินตนาการละไมไร้โมงยาม
ชีวิตข้ามความหมายพ้นตายเป็น
๑ นัยแห่งทะเลลมเห่คลื่น
จิตรู้ตื่นอยู่รับสดับเห็น
กาลเทศะใดไม่ร้อนเย็น
ชีวิตเป็นเช่นนี้งามพินิจ
๑ อารมณ์กลืนกลมความงามลมคลื่น
วาดหวังใดยั่งยืนมิขืนสิทธิ์
การเดินทางวางใจนัยชีวิต
จะถูกผิดปลิดปลงประจงใจ
๑ ทางทรายน้ำกรายหาดคลื่นสาดหาย
แก่นสารหาซ่านกระจายคล้ายคลื่นไม่
ขาดเกินยังเพลินทุกข์สุขอะไร
สักกี่ใจริอ่านมารนัยตน
๑ ปัญหาสารพัดเกลี่ยวมัดคลื่น
ไม่ยั่งยืนขืนรับทนสับสน
ทะเลลมเห่คลื่นกลมกลืนคน
ชีวิตฝนผิดถูกให้ผูกพัน
๑ สายใยธรรมชาติมิขาดหาย
สร้างทำลายกลายเปลี่ยนลายเขียนปั้น
สายใจคนให้รักสักหนึ่งวัน
ชีวิตจะหฤหรรษ์อนันตกาล
๑๑๑๑๑
26 ธันวาคม 2553 10:22 น.
plaing_piu
๑ หนาวแรกปนฝนแปลกที่แผกผิด
ธรรมชาติสาธิตวิกฤติท่า
รักหวานอมขมกลืนขืนชะตา
ตนจะทรมาเพื่ออะไร
๑ คืนค่ำจมคำนึงใครพึงผ่าน
รสอ้อยตาลหวานว่าจริงไฉน
กาลเวลาเหหันมิปันใจ
ลึกอกไยไห้หลังยิ่งฝังจำ
๑ อดีตยังกรีดใจได้รู้สึก
เจ็บฝังลึกตกผลึกขืนยากกลืนกล้ำ
แก้วร่วงดินรินหอมอดออมคำ
มิถลำด่ำถวิลเกินกลิ่นเนียน
๑ เพลงเหงาลอดเงาไม้ตามไหวดึก
ข้ามคืนค่ำรำลึกรุ้สึกเปลี่ยน
ขอสิ้นจินตนาประกายเทียน
ภาพใครเบียนในอกสะทกสะท้อน
๑ เพลงรู้สึก..ลึกเศร้า..ไม่เท่าไร
สิ่งฝังในใจยอกเจ็บหลอกหลอน
ไฟมอดเชื้อเหลือละอองตะกอน
ฤานัยสะท้อนรักฟอนโชน
๑ ฝนหนาวอกร้าวรำพึงคำหวน
รื่นกลิ่นนวลสิ้นคาดสวาทโก่น
แรมร้างหนทางใดใจอ่อนโอน
มิโลดโผนโยนคำหวานพร่ำรัก
๑๑๑๑๑
6 ธันวาคม 2553 00:23 น.
plaing_piu
๑ ฝนเลือนดินเหมือนย้ำคนจำจาก
ปรารถนากระชากจะพรากขวัญ
สิเนหาวัสสากาลผ่านคืนวัน
นัยผูกพันทุกสิ่งจริงกระไร
๑ รุ่งรางกางชีวิตอิสระ
โหยหาทวีทบสบสมัย
เหมือนยิ่งจมดิ่งลึกระทึกใจ
เวิ้งว่ายอบายนัยอัตตา
๑ รอบตัวสลัวหม่นสับสนหนัก
ใดพรากรักจากอกสะทกท่า
ปล่อยวางอย่างไรฝังใจตำตา
กำหนดว่าสมมุติ...ใดยุดยื้อ
๑ เวิ้งว้าง..แวบหว่างหวัง..วูบ.วังเวง
แว่วดังเพลงกังวานหวานเหมือนดื้อ
ใดหลบเร้นเป็นตายได้ลุกฮือ
ประกายคือพลังยั่งยืนรัก
๑ หยาดฟ้าธราดลบนสู่ล่าง
หนึ่งหยดทางลดเลี้ยวเคี่ยวกรำหนัก
ผ่านกาลเทศะไหนไม่เคยพัก
กระแสหลักหนักเบามิเท่าใจ
๑ รักบานร่วงซ่านกลิ่นมิสิ้นหอม
อกคนจำนนพร้อมยอมมิใช่
ลมฝนถั่งท้นบ้าคลั่งกระไร
รื่นกลิ่นถวิลในใจพอแล้ว
๑๑๑๑๑
20 กันยายน 2553 14:10 น.
plaing_piu
๑ ราวน้ำค้างพร่างพฤกษ์ยิ่งดึกหนาว
ไต้เดือนดาววาวโลดแล่นโดดเดี่ยว
ทะเลพับคลื่นนับซ้อนคลายฟ่อนเกลี่ยว
อกใครเปลี่ยวมิวายฟายรัดรึง
๑ ลมดึกรู้สึกได้หอบใดฝาก
คำคนยากทนนิทรา- คิดถึง
ไม่แตกต่าง..ห่างใครไม่เคยพึง
คงซาบซึ้งอาบคมอารมณ์รัก
๑ นิ่งขึงตาฝ่าข้ามความสับสน
มิอาจพ้นกังวลใจใครหาญหัก
คนฝากคำย้ำเจ็บเก็บยากนัก
ยิ่งกว่าหลักประหารสถานใด
๑ น้ำตาจะรินหลั่งกี่ครั้งง่าย
หากน้ำใจทำลายง่ายไฉน
หนึ่งคนมีหนทางรักต่างไกล
ถนอมอดออมใช่สิ้นใยกัน
๑ อ้อยอิ่งสิ่งรอบตัวสลัวหม่น
มืดม่านฝนคนจากกระชากขวัญ
ร่ำยินเสียงรินสายธารคล้ายทัณฑ์
ไหลกระชั้นกระแทกอกแหลกแล้ว
๑ วาสนาชะตาผกผันอกเอ๋ย
ไม่ควรเลยด่วนแอบแนบกลิ่นแก้ว
ศักดิ์นกดงหลงทางแตกต่างแนว
ติดบ่วงแร้วร่วงเจ็บมิเก็บจำ
๑๑๑๑๑