2 ตุลาคม 2550 20:49 น.
plaing_piu
๑ ปล่อยวางจากปากกาจิตสงบ
การณ์ถ่อยทบฤดีมิดั่งหมาย
ภาพตรึงเหตุพึงเห็นรู้เป็นตาย
น้ำตากรายรายตกหกตุลา
๑ ย้อนคืนก่อนกาลกิณีวิบัติ
ทรราชประกาศชัดจัดฉากฆ่า
จิตสำนึกฮึกเหิมเพิ่มศรัทธา
ด้อยเดียงสากล้าอยู่ร่วมสู้รบ
๑ คือคนหกตุลาธรรมศาสตร์
มิใช่ทาสขลาดเขลาเศร้าสยบ
จิตมั่นวันคืนถั่งพลังทบ
เสียงปืนกลบเสียงใจมิได้เลย
๑ เห็นหัวใจไฟฝันถึงวันใหม่
ประชาธิปไตยกายใจเผย
สามัคคีพี่น้องผองคุ้นเคย
เบื้องนอกเย้ยเอ่ยย่ำมิยำเกรง
๑ หญิงมุ่งหมายชายมั่นมุ่งกันสู้
ท้าศัตรูระดมร้ายข่มเหง
กลางสนามความกล้ากระหึ่มเพลง
วีรภาพบรรเลงบ่เกรงใด
๑ มากหัวใจไมตรีที่ร่วมรบ
มิสยบอำนาจเถื่อนกราดใส่
เพียงพรุ่งนี้มีหวังกังวานชัย
ประชาธิปไตยได้เป็นจริง
๑ หกตุลาสามานย์ล้างผลาญชีพ
ลากแขวนถีบร่างเผาแค้นเป้านิ่ง
อ้างพุทธศาสนารุมฆ่ายิง
ใครทำสิ่งชั่วช้า....กรรมมาทัน
๑๑๑๑๑
23 กันยายน 2550 22:58 น.
plaing_piu
๑ ทะเลเวิ้งเริงร้างสุดทางฟ้า
ลมเห่เล่นเวลาระลอกไหว
ขอนผุตามกระแสแต่เป็นไป
มิรู้ทิศลุไหนร้ายใดดี
๑ ชีวิตชินดิ้นรนบนโลกกว้าง
คนไม่ต่างไม้ขอนกระดอนหนี
คลื่นลมบ้าฟ้าคลั่งฝั่งไม่มี
ทะเลคลี่คลาย..ที่หวังซังกะตาย
๑ ขอสงบกลบขอนนอนฝั่งฝัน
ขอนไม้ชายเลพันขวัญมิหน่าย
เวิ้งสงัดมัดฤดีมิเดียวดาย
สุขสุดท้ายปลายมือยื้ออะไร
๑ ฝังลึกทรายชายเลมิเหหัน
คลื่นลมกระแทกกระทั้นมิหวั่นไหว
ขอนไม้ผุชายเลเวลาใด
แนบฝังใจให้น้ำฟ้าเป็นพยาน
๑ ธรรมชาติวาทล้อมกล่อมยามยาก
แมกไม้ฝากวันรื่นคืนวาบหวาน
น้ำฟ้าครามยามใดให้ตระการ
สุขสถานปานทิพได้หยิบยล
๑ ร่างสลายชายเลยินเห่กล่อม
ขอนผุพร้อมปุยุ่ยเป็นขุยป่น
หากไหวตามน้ำคลื่นวันคืนรน
มิรู้หนทางไป...ไม่สิ้นกรรม
๑๑๑๑๑
15 กรกฎาคม 2550 14:54 น.
plaing_piu
๑ สดับฝนคนร้าวอยู่ราวฟ้า
สงัดดาราเดือนเป็นเพื่อนค่ำ
นวลกระจ่างพร่างพริบระยิบจำ
จะคิดคำนึงใคร....ไกลเหลือเกิน
๑ หอมราตรีหอมชีวิตมิปลิดเปล่า
กลิ่นนวลเย้ายวน...นางไกลห่างเหิน
หอมฤดีราตรีเพริดหลงเพลิดเพลิน
จะขัดเขินใครเมินหมางหอมปางตาย
๑ ราตรีหอมมิหมายชายกลิ่นล่อ
นวลลออเพาะเล่ห์เสน่ห์หาย
ธรรมชาติวาดราตรีหอมมิวาย
คนสิ้นสายสวาทขาดผูกพัน
๑ ใคร่หอมราตรีหามาจากต้น
ไม่ต่างคนด้นหารักฝ่าฝัน
หอมจากใจไร้เล่ห์เหคืนวัน
สายสัมพันธ์มั่นยืนชื่นราตรี
๑ ดาวพร่างสว่างเดือนเมฆเลือนฟ้า
หอมกลิ่นราตรียังหวังริบหรี่
สงบจิตคิดไหวนัยฤดี
สิ่งผ่านไปไม่มี..ไยจีรัง
๑ หอมราตรีมีหวังให้ยังชื่น
หอมวันคืนตื่นใจตนได้หวัง
หอมดอกโศกโยกใครละล้าละลัง
หอมดอกชังใจคน...ทนได้กระไร
๑๑๑๑๑
7 กรกฎาคม 2550 13:30 น.
plaing_piu
๑ ดาวดวงดับไปกับใจใครลับจาก
เหลือรอยพรากฝากรันทดสะกดกลั้น
โพ้นฟ้าทอประกายสายชีวัน
แต่นี้ลั่นทมชายมาดายเดียว
๑ หากสิ้นเยื่อ..เหลือใยคนได้คิด
ก้าวล่วงสิทธิ์ผิดเจ็บใคร่เก็บเกี่ยว
วันคืนหวานขื่นวาทสวาทเกลียว
แทนเปล่าเปลี่ยวเดียวดายฟายน้ำตา
๑ วันคลั่งคืนสั่งฟ้าน้ำตาฝน
อารมณ์คนจนเล่ห์สิเนหา
คิดถึงคำสำเนียงเรียงติดตา
สิ่งค้างคาสะท้อนคนอ่อนแอ
๑ รักเอ๋ยละเลยไฉน..หวนไห้รัก
สิ่งมีค่าประจักษ์เพียงรักแย่
ต้องการไปจากวันคืนผันแปร
มิรู้แก่ใจลึกรู้สึกกัน
๑ จันทร์กระจ่างกลางใจให้ตลอด
ใครต่อยอด..ปลอดนัย..ไม่ฝ่าฝัน
ธรรมดาชีวิตถูกผิดผูกพัน
ขอเก็บวันคืนจาก...อย่าพรากจริง
๑ ใคร่หวานลึกรู้สึกเศร้าได้เท่านี้
คนไม่มีดีอะไร...มิได้หยิ่ง
ตอบคำถามตามรู้สึกอยู่จริง
เจ็บจะนิ่งอิงตนค้นหาธรรม
๑๑๑๑๑
15 มิถุนายน 2550 15:54 น.
plaing_piu
๑ กลั่นเนื้อในตนพล่ามเพ้อตามเจ็บ
แผลเก่าเย็บเจียนหายระคายแล่น
คำใคร..มิให้ชอกบอกรับแทน
แล้วเคืองแค้นเรื่องใดไม่รู้เลย
๑ มิใช่หนุ่มรุ่มร้อนหรืออ่อนไหว
ผ่านวันใสวัยสาล้าเหลือเอ่ย
ฝนแรกหนาวสาวครวญด่วนลับเลย
รักจะเคยคุ้นกันอันตรธาน
๑ คงเป็นบุญหนุนเราได้เท่านี้
สิ่งดีดีมิสูญเปล่าว่าร้าวฉาน
ถึงวันหนึ่งพึงจบการพบพาน
รักประหารมิใช่..มิได้ชัง
๑ หากหัวใจได้ชื่นวันคืนใหม่
คือน้ำใสใจจริงที่ยิ่งหวัง
กระดาษเก่าเท่านี้ไม่จีรัง
ขออย่าชั่งใจเก็บเจ็บอย่างเคย
๑ ยินดีกับชีวิตมิบิดผัน
คนผูกพันฟันฝ่าเคียงเขนย
ปลายฟ้าเพียงคารมเล่นชมเชย
ใครสง่าผ่าเผยอย่าเลยชาย
๑ ฝากลมฝนอึงอลฟ้าพายุคลั่ง
ทะเลหลังฝนงามครามสยาย
วาสนาคราพบจบเดียวดาย
อย่าถามถึงความหมาย...ตายจากกัน
๑๑๑๑๑