19 มกราคม 2548 11:16 น.
pigstation
ผมขายความเครียด
รถราไม่ขยับมานานแล้ว เครื่องยนตร์ครวญครางราวสัตว์เจ็บปวดที่ต้องกินอาหารที่แสนแพงและไม่เคยเต็มกระเพาะของมัน ฉันเหยียบคันเร่งไปพลางนึกถึงงานที่คอยอยู่ที่สำนักงาน ป่านนี้เจ้านายคงกัดฟันกรอดๆ แต่พอหันไปข้างซ้ายของตัวเอง กลับพบรถของเจ้านายจอดเทียบอยู่ พร้อมกับใบหน้าตึงเครียดของท่าน เด็กน้อยเดินมาถือหนังสือพิมพ์สีเขียวมาร้องบอกถึงฆาตกรรม ข่มขืน คดโกง คอรัปชั่น อะไรต่างๆนาๆ ไม่เลยข่าวเหล่านี้คืออาหารแกล้มกาแฟ มันทำให้เราคลายเครียดลงไปอย่างชั่วครู่เนื่องจากรู้สึกตัวดีว่ายังดีที่ไม่เป็นเหยื่อ หรือถูกจับเป็นข่าว ถูกเปลือยพฤติกรรมชีวิต อย่างไม่แยแสว่าจะละเมิดอะไรหรือไม่เพื่อยอดขาย เพื่อตอบสนองคนหิวข่าวคาว บำบัดเครียดที่ล้นกระบังลม ....จะว่าไปผมนั้นคือผู้จำหน่ายความเครียดตัวจริง ใช่แล้วผมทำงานโฆษณา ใครๆดูโฆษณาผมอาจจะว่าช่างคิด น่าสนุก คิดได้ไง บางชิ้นงานเป็นTALK OF THE TOWN แต่รู้ไหมหลังจากการยิงซ้ำเข้าไปซอกซอนถึงจิตสำนึก พวกคุณก็จะไม่รู้ตัวว่า จำเป็นหรือไม่กับผลิตภัณฑ์ทั้งหลายที่ป่าวประกาศโฆษณาชวนเชื่อนั้น แต่คุณก็จะขวนขวายพากันไปซื้อ พากันแห่ไปอุดหนุนสินค้าบรรดามี ด้วยบัตรเครดิตที่วงเงินติดลบ เชื่อแล้วยังว่าผมขายความเครียด ว่ายังไง จะซื้ออะไรดีล่ะวันนี้
18 มกราคม 2548 12:45 น.
pigstation
การแกว่งไกวของใยแมลงมุมตรงมุมห้องนั้น ทำมุมกับสายตาในมุมทแยงมุม จนอดรำคาญไม่ได้ในสายตาที่มีมุมมองกว้างไกลอย่างนี้ ดูช่างเกะกะรกเรื้อจริง เลยตรงลุกจากมุมนั้นมายังอีกมุมหนึ่ง
มองผ่านช่องบานเกร็ดที่แง้มไว้ไม่เต็มองศาการเปิดในมุมกว้างที่สุดภาพที่เห็นต่างจากเดิมที่เคยปรากฎ นับเป็นมุมมองใหม่ที่เห็นภาพทิวทัศน์ข้างหน้าเว้นวรรคเป็นขั้นๆสีขาวขุ่นของกระจกบานเกร็ด เหลือพื้นที่ให้คิดจินตนาการถึงภาพที่ถูกบดบัง
เบื่อกาแฟมาก ไม่ใช่เครื่องดื่มประจำชาติสักหน่อย เอะอะขึ้นมาทำตัวเหมือนคนชาติไหนกันหนอที่ต้องมาตั้งกาตั้งน้ำ ชงกาแฟ ลืมน้ำซาวข้าวกันไปแล้วหรือ
เอามือลงไปคลึงหัวเข่าเพื่อถามหาความสบายดีของอวัยวะชิ้นนี้ที่ได้รับใช้มานานปี โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นปัญหาหลักในวัยสูงอายุ แต่เราอายุยังไม่สูงเท่าไร จะสูงก็แต่เพียงจิตใจเท่านั้น
รูปร่างของหัวเขาที่ไม่ด้านดำ สีสันใกล้เคียงหัวเข่านางแบบหลายคน หากจะใช้ไปถ่ายแบบเจาะเฉพาะอวัยวะ น่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้น้ำมันทาถูแก้เคล็ดขัดยอกพอได้อยู่
หลังจากนั้นก็นวยนวดลงไปสวนหย่อม เพื่อทักทายต้นไม้หลายต้นที่ไม่ได้น้อยใจต่อกันว่าทำไมฉันไม่เป็นลิลลี่ ฉันไม่เป็นทิวลิป ก็แค่ดอกไม้โซๆในความรู้สึกก็สวยแจ่มชัดแล้วในบรรยากาศชนบทไทยอย่างนี้
เราต่างชื่นชมกัน แม้ไม่ใช่ผู้เป็นนักเขียนเจนจัดสันทัดเกือบทุกกรณี ก็ยังพอรู้ตัวเองว่ากลางป่ากลางเขานั้นคงไม่มีโอกาสได้รู้จักถ้อยคำของกวีนำเข้าอย่างคาริล ยิบราล ที่รู้แต่ว่าไอ้ด่างตกลูก ไอ้สุขตกต้นตาล ซะงั้น
จึงมีโอกาสมากกว่ามากแต่ก็ไม่เอาอะไรมาขย่มใครเขา ได้แต่จับเจ่าวันๆวนๆอยู่กับการดายหญ้า ผสมปุ๋ย แล้วจากนั้นก็เล้าโลมให้ตัวเองสอดใส่ร่างกายลงไปในเปลนำเข้า(เปลญวน) พร้อมกับกางหนังสือบางเล่มที่เหมาะสมกับอารมณ์ในตอนนั้น ผ่านไปไม่กี่หน้าก็หลับตาพริ้มแล้ว
นกกระจอกส่งเสียงเหนือหัวอยู่ครึกครื้น ค่อยลืมตามาเดินต่อ แล้วหยุดยืนเพื่อถามหาตัวเองว่าสิ่งที่เป็นเหตุให้รู้สึกรู้สานั้นมากระทบผัสสะแค่ไหน ว่าแล้วก็ขยี้เท้าเหยียบอารมณ์ให้จมธรณีตรงนั้น
ว่าแต่ว่าหนังสือชื่อกลองสังกะสีนี้หนักทั้งมือ หนักทั้งสมองเหลือเกิน
อารมณ์แตกกระจายลงตรงนั้น เมื่อหันกลับไปมอง เหลือแต่เหตุผลที่ติดตัวอยู่ เมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้านจึงรู้สึกตัวได้ตอนส่องกระจก เหมือนตัวเองเป็นไม้บรรทัด จึงรู้ว่าลำพังเหตุผลก็ยังไม่เพียงพอ เลยคว้าเอาชุดคุณธรรมมาห่มคลุม ก่อนออกไปทำความดีเอาหน้าข้างนอกบ้านต่อไป
17 มกราคม 2548 02:43 น.
pigstation
ใครจะมารับเรา..?
บางคำพูดไม่จำเป็นต้องสวยหรู หรือประดิษฐ์ประดอยนัก ให้เป็นคำพูดที่แล่นตรงมาจากใจคนพูด สู่ใจคนฟัง ความหมายจากถ้อยคำธรรมดา จะตราตรึงเราไว้ ดังการตอกตะปูแน่นแล้วหยอดกาวตราช้างซ้ำ
หมอจะพาทุกคนกลับบ้าน หากเราไม่ได้เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน ถ้อยคำนี้อาจเป็นประโยคบอกเล่าที่เรียบเฉย ไม่สะดุดในความรู้สึกนึกคิดของใครต่อใครนัก
แต่ว่าเป็นความหมายที่หมอคนหนึ่งกล่าวไว้อย่างเคารพต่อความเป็นมนุษย์ที่เป็นมนุษย์แม้จะไร้ซึ่งลมปราณแล้ว - - - นั้นคือการมอบเกียรติแก่กันจนวาระล่วงพ้น
แล้วใครกันจะพาเราไปหลังจากการลาลับแล้ว ซึ่งโลกใบนี้
ในโลกหน้านั้น เรายังไม่ชัดเจน แต่ในโลกนี้ หลายสิ่งหลายอย่างกระจ่างชัด ดังการมองผ่านกล้องจุลทรรศน์อีเล็กตรอน เราจึงไม่น่าจะแน่ใจว่าเราควรจะทำดี หรือ ทำเลว
ข่าวที่ถูกบีบต้อนมาจากจอแบน หรือกรวยลำโพง ใช่สิ่งสำคัญ ใช่ความจำเป็น เพียงแต่สามัญสำนึกที่เรามีติดตัวไว้บ้างไหมในยามนี้
หน้าที่ของหมอคือการพิสูจน์ทราบบุคคล เพื่อว่าการอำลาครั้งสุดท้ายจากหมู่ญาติจะได้ก่อตัวเป็นความทรงจำที่ได้ทำสิ่งที่สวยงามในความเศร้า เพื่อเป็นหลักฐานว่า ในการถือกำเนิดมานั้น แม้เธอจะผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในวันสุดท้ายก่อนการอำลาชั่วนิรันดร์ เราผู้อยู่ข้างหลังเลือกที่จะจดจำรอยยิ้ม และความดีงามของเธอมากกว่าอะไรทั้งสิ้น ถึงคราบน้ำตาจะทำให้อะไรมันพร่าเลือนลงก็ตามที
ตำรวจ(บางตำรวจ)ครับ ..เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าใครจะมารับเรา แต่เราควรรู้และเข้าใจว่า การอำลานั้น แม้จะเศร้า แต่มันคือความทรงจำร่วม การที่เราลืมไปว่า ความละเอียดอ่อน ความเปราะบางนั้น ไม่ได้แทรกตัวอยู่ในกรอบเกณฑ์ใดๆ มันบรรจุอยู่ในความเห็นอกเห็นใจกันมากกว่าใดๆทั้งสิ้น ลืมระเบียบไปบ้างเถิดนะ
ลำพังความเดือดร้อนจากการสูญเสียทรัพย์สิน ผู้คนที่ยังไม่ได้จากไปไหนก็เจ็บปวดและทุกข์ทนพอแล้ว ทำไมต้องใช้กฏมาเกณฑ์กันตอนนี้ ค่อยปรับหาวิธีการ แนวทางที่ไปได้สวยงามกว่านี้เถิด
หมอครับ คำพูดประโยคนี้ ไพเราะมาก ไพเราะกว่าออร์เครสตร้าวงไหนๆในรอบปีนี้ ไพเราะกว่านักร้องเดอะ สตาร์ ทั้งสิ้น
หากวันใดภาระกิจเสร็จสิ้น ผมอยากเชิญหมอมาร้องคาราโอเกะด้วยกัน - - ( น้ำเสียงหมอคงจะไพเราะจับใจ เพราะมาจากใจที่แสนงาม )
ใครก็ได้ครับช่วยรีบไปรับคนที่ไม่ได้เห็นใจใครเลยทีครับ จะรับไปขุมไหนก็ยินดีครับ
17 มกราคม 2548 02:00 น.
pigstation
เมื่อปลายหนามแหลมขนาดจิ๋วสะกิดที่ผิวหนังเราบริเวณหน้าแข้ง ที่ตรงนั้นเราจึงรู้สึกว่าเจ็บ เราจึงรู้สึกว่ามีผิวหนังของเราที่ห่อหุ้มเราไว้ ใช่แล้วเรามักละเลย หรือมองข้ามสิ่งละอันพันละน้อยไป ทั้งที่อยู่ด้วยกันมานานเท่าอายุของเราเอง
เราคงมัวแต่สนใจใบหน้ามากกว่า ผิวหนังตรงหน้าแข้งจึงเป็นส่วนที่พ้นจากความสนใจ จนไปถึงความใส่ใจ
มิตรภาพก็เช่นกัน บ่อยครั้งที่เราได้รับเมล็ดพันธุ์แสนสวยและบอบบางจากใครอื่นอยู่บ่อยครั้ง แล้วหลังจากนั้นเราก็หลงลืมจะรดน้ำ พรวนดินให้ต้นมิตรภาพได้แตกกิ่งใบใหญ่โตเป็นไม้มิตรภาพยืนต้น
เพราะจะมีเรื่องราวมากมายคล้ายวัชพืชเข้ามางอกงามเบียดบังพื้นที่ความทรงจำส่วนหนึ่งของเราตลอดเวลา .เราจึงจดจำอะไรไม่ไดมาก ถ้าไม่ใช่เรื่องที่จำเป็น สำคัญ มีประโยชน์ต่อตัวเรา
ไม่ใช่ความผิดที่เราจะละเลย แต่ผิดที่คู่กรณีของเราก็เช่นกัน เมื่อมีโอกาสได้พบปะ ทักทายกันแล้ว ความหมายคงไม่ได้หยุดอยู่ที่ข้อมูลชั้นต้นทางกายภาพ มิฉะนั้นการพบกันอย่างตั้งใจของเราที่แตกต่างจากการที่มีเพื่อนสนิทในวัยเด็กมานัดพบเรา - - - เพียงเพื่อสรุปปิดการขายประกัน หรือ ชักชวนเข้าสู่สมาชิกการขายตรง
จากวันเวลาแสนสวยวันหนึ่งในชีวิต ที่ได้มีโอกาสเปิดเวทีเล็กๆใจกลางกรุงเทพ เขตพระนคร วันที่เราได้เปิดให้สีมาเต้นระบำกัน ( งานแสดงภาพเขียน การเต้นระบำของสี ที่ร้านหนังสือเดินทาง)
เป็นความเคอะเขินเปิ่นทึ่ม ที่ได้ริเชิญ พี่วิรัตน์ นักเขียนตัวจริงมาชมงานขนาดเล็กๆและแสนธรรมดา แต่ก็ได้รับเกียรติจากพี่อย่างน่าระทึกใจ เมื่อมีนักเขียนตัวจริงอื่นๆ มาสมทบด้วย
แล้วจากการเต้นระบำของสีครั้งนั้น ค่อยเป็นจิ๊กซออีกตัวหนึ่งที่ค่อยต่อเติมความฝันที่ก่อตัวในใจมาเนิ่นนาน รู้ว่าการเขียนหนังสือนั้นไม่ง่ายนัก ไม่ง่ายไปกว่าการอ่านหนังสือเป็นไหนๆ
ทำไมยังจะดุ่มเดินมาทางนี้ .
ไฉนความมั่นคงทางวิชาชีพที่มีอยู่จึงไม่อาจทัดทานตัวเองได้
ไฉนความเป็นแม่ที่พร่ำหวง เพียรขอร้องอย่างหนักหน่วงไม่อาจเหนี่ยวรั้งไว้ได้
ขณะนี้ กลายเป็นคนที่เขียนหนังสือคนหนึ่ง ที่กำลังฝึกซ้อมขบวนความคิดที่ยังไม่ค่อยเป็นขบวนนักให้ได้เป็นแถวเป็นแนวกับเขาบ้าง
ทุกวันหลังจากได้ลาออกจากราชการ ได้แต่ทำการสวนสนามตัวอักษรบนลานกว้างสนามกระดาษ เผื่อว่าขบวนพาเหรดตัวอักษรที่อุตส่าห์ฝึกฝนจะได้ไปสวนสนามในความประทับใจของคนรักหนังสือ ของคนหลงถ้อยคำ
เช่นเดียวกับการที่เรานั้นเคยเป็นหนอนหนังสือ - - - แล้วฝันจะผลิยอดความคิดผ่านตัวอักษรให้หนอนหนังสือได้ลิ้มรสบ้าง
จึงเป็นหมายเหตุวรรคตอนหนึ่งที่คงจะแรงพอจะสั่นกระเพื่อมผิวหน้าของบ่อน้ำแห่งการลืมเลือนได้กระฉอกไหวว่า ครั้งหนึ่ง. ยังมีความเอ็นดูที่พี่วิรัตน์ได้มอบให้ กำลังจะแปรรูปออกมาเป็นการสวนสนามของตัวอักษร คล้อยหลังผ่านการเต้นระบำของสีเมื่อหลายปีก่อน
13 มกราคม 2548 02:47 น.
pigstation
แคบแต่ไม่คับ
ฉันเคยใช้ไม้บรรทัดวัดสิ่งของต่างๆที่อยู่รอบตัว ก็รู้อยู่แก่ใจว่าวัดอย่างไรก็ไม่อาจวัดได้ทั้งหมด วัตถุที่มีความโค้งเป็นสัดส่วนนั้น ไม้บรรทัดแข็งๆจะไปกำหนดได้หรือ ? เช่นเดียวกันกับขนาดของความคิด ความรู้สึก ความหมาย จะใช้อะไรมาเป็นเครื่องมือ นอกจากวัดด้วยใจ
ความแคบไม่อาจหมายถึงผนังสองด้านที่ใกล้กันมากเกินการสัญจร แต่ความแคบนั้นอาจหมายถึงความใกล้ชิดที่เรานั้นต่างพยายามที่จะทำให้มันเข้ามาสู่ภายในของตัวเองที่พร้อมจะให้เป็นไป
ฉันนั้นเป็นเช่นเดียวกับเธอทั้งหลายที่เห็นว่า การห่างกันนั้นไม่ใช่การรักษามรรยาทจนทำลายให้มิตรภาพอยู่บนบรรทัดฐานแห่งการไม่เพลี่ยงพล้ำต่อการเสียเปรียบได้ดุล
ความแคบนั้นคือช่องแคบที่บรรจุเอาความพึงพอใจอย่างสุดแสน เท่าๆกับความฝืนทนจนใจเกินกว่าทำได้ในภาวะของการเล็งเห็นแต่เพียงผลประโยชน์
จึงต้องบอกว่า ใครต่อใครในนามของสรรพนาม จงรับทราบว่า แคบแต่ไม่คับคือการมีขี้มูกเกรอะกรังในโพรงจมูกที่ใช้หายใจของเราแต่ละคน ที่ถึงแม้จะประสบภาวะอิหลักอิเหลื่อทางระบบหายใจ แต่ยังต้องสืดขี้มูกให้ได้หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาายยยยยยยยยยยยยยยจจจจจจจจจจจาาาาาาาาาาายยยยยยยยยยยยยยย
นำก๊าซเข้าไปใช้ในกระบวนการดำรงชีพ
เพียงลำพังจมูกเล็กเรียวเคี้ยวคดยังทรงคุณค่าปานนี้ แล้วเข้าใจไหมแคบแต่ไม่คับนี้หมายถึงอะไรในนิยามของตัวมันเอง
เช่นเดียวกันกับประโยคที่ประกอบด้วยตัวอักษร ที่มีขนาดFONTขึ้นอยู่กับการเลือกใช้จะFONT EQUAL CURRY POT (ขนาดตัวอักษรเท่าหม้อแกง) หรือเล็กเท่าขี้ตามด ทว่าความหมายในบรรทัดนั้น ช่างแตกต่างเหลือเกิน สุดแท้แต่เราจะจัดวาง หรือ รื้อสร้าง ประกอบจัด (Reconstruction /Deconstructure)
คำว่าช้าง เราจะเห็นว่าใหญ่เท่าช้าง แต่คำว่า สุนัข กินพื้นที่ในการเขียนเท่ากับช้าง เราก็รับรู้แต่ว่าขนาดเท่าสุนัข
ดังนั้นความแคบอาจจะไม่คับ..หากฉันและเธอลดอัตตาลง พร้อมกับอัตราทั้งหลายก็ไม่มีค่า