17 เมษายน 2548 21:16 น.
pigstation
พันธกรณี
เราหนีอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง แม้แต่ในการงานอันเป็นที่รักก็มักจะถูกสอดแทรกด้วยเรื่องน่าเบื่อเข้าแทรกเป็นยาดำได้เสมอ
ฉันหยิบกุญแจรถคันกระปุ๊กลุ๊ก นู๋ด้า 121 สีแดงจ๋า ออกตัวไปยังพิษณุโลก ด้วยว่าเกิดไปรู้จักมักจี่กับบรรดานักเคลื่อนไหวทางศิลปะ
เพื่อจัดนิทรรศการศิลปะขึ้นมา ก่อนก้าวเข้าสู่โครงการสร้างหอศิลป์เทศบาลนคร พิษโลก
โดยหน้าที่ของฉันคือ
1. ผู้เขียนโครงการก่อตั้งหอศิลป์
2. ฝ่ายวิชาการ
3. ศิลปิน
และเมื่อถึงวันแสดงงาน ฉันใช้งานศิลปะจัดวางสื่อถึงสังคมบริโภคนิยมที่มูมมาม จนเกิดโรคไม่ติดต่อเนื่องมาจากภาวะโภชนาการบกพร่อง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน
จนได้มาพูดคุยกับนายกเทศมนตรีหญิง แห่งเมืองสองแคว ก่อนจะดำเนินการขั้นต่อไป
เพื่อสร้างหอศิลป์ พิษโลก และงาน ART STREET FESTIVAL ตอนงานฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้
สิ่งที่มุ่งหวังไม่ใช่เรื่องชื่อเสียง ผลตอบแทนอะไรหรอก
ฉันหวังใจด้านการส่งเสริม/สร้างสานบรรยากาศแห่งศิลปวัฒนธรรมได้มีพื้นที่แพร่เข้าไปแย่งชิงหัวใจมอมแมมแต้มจับคราบกิเลส จากสงครามธุรกิจเบ็ดเสร็จ
และไม่ใช่เรื่องศิลปะบนหอคอยงาช้างที่บรรดานักวาดรูปทำเผยอหยิ่งว่าเป็นของเข้าถึงได้ยาก และไร้ราคาทางโลกย์มาประเมินได้
และไม่ใช่วัฒนธรรมสวมชฎาที่ต้องปีนกระไดเข้าชม
เนื่องจากฉันเห็นศิลปะตามท้องไร่ท้องนา ตามข้างถนน
เนื่องจากฉันเห็นวัฒนธรรมที่เวทีแด๊นเซ่อร์ ที่เวทีลิเก ที่เวทีหมอลำซิ่งนกน้อย อุไรพร
แต่ฉันก็พบพฤติกรรมน่าแขยงบางประเภทของกลุ่มคนที่ทำงานด้วย
ก็ได้แต่แผ่เมตตาไปให้ลับๆ
แล้วภาวนาให้โครงการหอศิลป์ นี้ก้าวต่อไปตามขั้นตอนที่วาดหวังไว้
ริมน้ำน่านบางวันที่วัดใหญ่
ฉันเข้าไปกราบนมัสกรานพระพุทธชินราชโดยไม่บนบานศาลกล่าวอะไร
เพราะกรรมคือเครื่องหมายของการประพฤติ ปฏิบัติ
หากวันหน้า วันตัดริบบิ้นเปิดหอศิลป์เมืองสองแควมาถึง
หวังว่า สมาชิกไทยโพเอมคงยินดีด้วยผ่านใยไฟเบอร์ ออฟติค
ตอนนี้ฉันนั่งมองกระแสน้ำที่เคยซ้ำเดิม แล้วสั่งก๋วยเตี๋ยวห้อยขามานั่งกิน ด้วยความเผ็ดจนลิ้นห้อยน้ำตาไหลย้อย....
13 มีนาคม 2548 10:24 น.
pigstation
บางหนจำทนต่อภาพเบื้องหน้าที่ตำตา บางคราต้องล้าแรงต่อใบหน้าที่ไม่รู้ตัวว่าช่างรบกวนต่อมโทโศเรามากเพียงไร
พยายามครุ่นคิดตั้งนาน ค้นหาในกุ๊กเกิ้ลก็ไม่พบ โทรถาม 13 ก็ไร้คำตอบ สอบถามหมอนพพรก็ไม่ถนัดเลยวิเคราะห์ด้วยตัวเองประมาณพริบตาหนึ่ง
ใช่แล้วก็แค่การกระพริบตา แว้บหนึ่งก็ตัดขาดจากภาพทางการปรุงแต่งไปแล้ว เป็นสัจจะมายา มีอยู่จริง แต่ก็เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ (ว่าด้วยสบู่ลักษ์ที่ต้องมีหอม มีหด มีหาย)
จึงถึงแก่บรรลุขึ้นมาว่า อย่าเลยแค่หลับตา เอาเปลือกตามาเป็นเขื่อนกั้นกันกระแสคลื่นสังคมที่มันร้อนร้ายแรงอย่างนี้
คงบรรเทาลงได้ประหยัดพาราเซตามอลไปได้หลายเม็ดอยู่นะ ดังนั้นหากเธอใช้เพียงเปลือกตา ( มาองข้ามอายแชโดว์ไปนะยะ หล่อน) ทุกอย่างจะหายวับไปเหลือใจที่ต้องประคองมิให้วูบไหว
ค่อยบรรจงกอบเอาสติเข้ามาสู่ญาณสมาบัติ
แล้วความเงียบจะเปล่งพลานุภาพออกมาสู่สมาธินักขัมญาณ ไม่ยากเลย
ขอบคุณเปลือกตาที่ปิดได้โดยง่าย และทำให้เรารู้สึกดีที่โลกยังมอบอวัยวะที่เกื้อกูลการมอง ให้ได้มองลึกลงไปยังภายในอันพิสุทธิ์ ซึ่งเป็นจิตแท้
ยังจะหาเปลือกหู. เปลือกจมูก.เปลือกลิ้นแล้วเปลือกกายอีกล่ะ จะได้ตัดผัสสะทั้ง 5 ที่โน้ม
น้าวเหนี่ยวนำเอานิวรณ์ 5 มาให้เกิดลังเลในเส้นทางธรรมอีกเล่า
แว่วมาไกลๆบอกมาว่า เปลือกหู เปลือกจมูก เปลือกลิ้นยังอยู่ในระยะทำการทดลองค้นคว้าอยู่ที่สถาบันอังกฤษตรางู ปริ๊กลี่ย์ฮิท มีก็แต่เปลือกกายที่เป็นปลอกจะใช้ไหม : } !
12 มีนาคม 2548 20:59 น.
pigstation
ดมดูความโชคดีอยู่ใต้ฝาขวด เมื่อคนเราต้องผูกพันกับการเสี่ยงโชค ความแน่นอนที่มาจากพื้นฐานการทำดี อันมีผลตอบแทนล่าช้าจึงถูกมองข้าม
ตู้แช่ถูกเปิดออกแทบเปลี่ยนบานพับ ไอเย็นพุ่งออกมาข้างนอกท้าทายไอร้อนจากแดดบ่าย
ความกระหายน้ำไม่ใช่เงื่อนไขในการยกซด
ความกระหายโลภนั่นเองที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของวัฒนธรรมการดื่มกิน
ลองดูสักครั้งสำหรับการเสี่ยงโชค ชิงรางวัล
เราไม่ใช่การพนันแต่เราคือความยุติธรรมบนความเสี่ยงที่กระจายออกมา
ลุ้น แล้วก็ลุ้น
เจ้าของกิจการแก้มอิ่มยิ้มแดงฉานปาดเลือดทาหน้า อ้างถึงความเสี่ยงแบกรับต่อการลงทุนทางเครื่องจักรอุตสาหกรรม คุยฟุ้งถึงการว่าจ้าง คุยฟุ้งถึงการทำบุญล่าสุดที่ทำลายยอดสถิติการทำบุญสาขาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ทั้งที่ความจำเป็นของปัจจัย 4 คือน้ำสะอาดพอกลั้วคอให้เกลี้ยงเกลาจากการกลืนกิน
แต่ขณะนี้น้ำกลายเป็นทองคำเหลวอีกอย่างที่ขายดิบขายดี
ด้วยการหยิบยื่นกงล้อแห่งโชคลาภมาให้เสี่ยงทาย
ฝาที่ถูกผลิตขึ้นมาพลิกหงายเกลื่อนพื้นโลก
นับสิบๆร้อยๆล้านฝาที่คูณมูลค่า ยี่สิบบาท ประมาณการว่า สองร้อยล้าน บาท ถึง สองพันล้านบาท
เพื่อมอบเงินหนึ่งล้านให้กับผู้โชคดีไม่กี่คน
ฉันนั่งมองคนตกปลาที่ริมบึง
จะมีปลาสักกี่ตัวกันยอมอดสักนิด ไม่โผฮุบเหยื่อรสโอชะที่เกี่ยวคมเบ็ดไว้ล่อ
จะมีแต่ปลาทั้งหลายที่อดใจไม่ไหวโผฮุบเหยื่อติดเบ็ด สังเวยความอยากที่เกินพ้นจากความต้องการในธรรมชาติตน
แล้วก็แค่เปิดฝาเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งก่อนหงายฝาขึ้นมาดู.
ปลาตัวหนึ่งก็ติดเบ็ดที่ชายคนนั้นวางไว้พอดี.
23 กุมภาพันธ์ 2548 10:37 น.
pigstation
ใครจะสนใจว่าห้องสมุดนั้นมีความเคลื่อนไหวอะไรบ้างในแต่ละวัน ความศักดิ์สิทธิ์ที่โอบคลุมด้วยหนังสือตำรามากมายที่วางเรียงรายบนชั้นวางนั้น ทั้งตีวงล้อม ตั้งตัวตระหง่าน ดูจะจ้องเขม็งให้บรรยากาศห้องสมุดเหมือนดังห้องประกอบพิธีอันเข้มขลัง
หากจะนับดูสมาชิกขาประจำของห้องสมุดนั้นมีไม่มากนัก
ส่วนใหญ่เมื่อใกล้สอบแต่ละภาคเรียน เมื่อนั้นห้องสมุดจะเอ่อล้นด้วยความกระวีกระวาดของบรรดาคนที่ไม่ต่างจากหมูที่ดินพอกหาง
เมื่อนั้นตำราที่มีอยู่น้อยนิดไม่เพียงพอต่อการรองรับให้นักศึกษาได้ใช้บริการอย่างทั่วถึง
ฉัน - - บรรณารักษ์ต้องหัวหมุนคอยรองรับอารมณ์ต่างๆนาๆ ของผู้มาล่าช้า (แล้วทำไมไม่เตรียมตัวทบทวนตำราแต่เนิ่นๆ นะ )
หวัดดีฮะ.. เสียงเบาๆ ทักพอรู้ตัว อาจารย์หนุ่มวัยสามสิบต้นๆ เดินเข้ามาตามเคย เมื่อว่างจากภาระงานสอน งานวิจัย
คงมีแต่ผู้ใช้บริการลักษณะนี้กระมัง ที่จะเป็นความโปรดปรานส่วนตัวของบรรณารักษ์ ยามพบเห็นผู้เข้ามาหอบหิ้วหนังสือกองใหญ่ แล้วไปนั่งนิ่งตรงมุมใด มุมหนึ่ง จะมีเพียงเสียงแกรกกรากเป็นจังหวะตอนพลิกหน้ากระดาษ - - ช่างเหมือนหนอนกำลังแทะหนังสืออย่างเอร็ดอร่อย
ทั้งวันนั้น เหมือนการประกอบพิธีกรรมครบองค์ประชุม วันนั้น บรรณารักษ์อย่างฉันจะอมยิ้มทั้งวัน
นี่บัตรครับ เขาจะยื่นบัตรประจำตัวอาจารย์เพื่อยืมหนังสือวิชาการ,วรรณกรรม และ ที่น่าสนใจ ไปเป็นตั้งๆ
แว่นตาเขาจะขมุกขมัวเปื้อนรอยนิ้วมือ อีกทั้งเส้นผมที่ไม่ค่อยเป็นทรงนัก ที่มักปรกหน้าปรกตาตอนที่เขาถูกตัวอักษรในบรรทัดสะกดจิตเอา
แล้วเขาก็อุ้มลูกน้อยไปหลายสิบเล่มเต็มจำนวนเท่าที่สิทธิ์พิเศษของอาจารย์จะยืมได้ จะเอาเวลาที่ไหนควงสาวไปทานดินเนอร์ - - ฉันแอบสงสัย
คุณว่างหรือเปล่าครับ เหลือเชื่อจริงๆ เขาเอ่ยปากถามฉันถึงวันว่าง วันที่ฉันไม่ค่อยจะเชื่อในความรู้สึกนัก
จากนั้น หนอนหนังสือ และคนเฝ้าสวนหนังสือ ต่างก็อยู่ใต้ร่มคันเดียวกันในวันฝนพรำ ต่างฟังเพลงเดียวกันในคืนดาวล้อมฟ้าท่ามกลางวงล้อมของหนังสือสารพัด สารพัน
ความพร้อมในฐานะของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐส่งผลให้ห้องสมุดขนาดใหญ่อย่างนี้ยกระดับเป็นหอสมุดไปในตัวอยู่แล้ว - - แต่ไม่ว่าจะเป็นตึกห้าชั้น ใหญ่โตเพียงไร บรรณารักษ์ทั้งตัวและหัวใจอย่างฉัน รักในคำเอ่ยขานว่า ห้องสมุด มากกว่าดูอบอุ่นและเป็นมิตรกว่ากัน
เราทั้งสองจึงหาโอกาสนำหนังสือดีๆ เหมาะสำหรับห้องสมุดต่างจังหวัด ตามแต่ความสะดวกที่เราจะตะลอนไป
แต่ละเที่ยวรถที่บรรทุกเอาทั้งความรู้และความรักไปสู่ชนบท นำพาให้เรารู้สึกถึงความขาดแคลนที่ยากจะถมให้เต็มได้ในช่วงชั้นของโอกาสการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม และทั่วถึง
ในส่วนของฉัน และเขา ซึ่งเป็นกำลังน้อยๆ จึงเต็มใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ในส่วนเสี้ยวเล็ก ๆ ในสังคมที่กว้างขวางใหญ่โต ก็พึงพอ และอิ่มใจฝันดีแล้ว
แต่วันนี้ หนังสือกองนั้นบนโต๊ะ ไม่มีอยู่อีกแล้ว เขาอยู่ที่ไหน ? มีแต่ความว่างเปล่าตรงโต๊ะริมสุดนั้น
ฉันเฝ้ารออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ไม่เห็นเขาเลย แม้แต่นาทีเดียวของการเฝ้ารอ..
อาจารย์หนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะริมสุด สายตาเหม่อมองไป
สุดปลายฟ้า ผ่านหน้าต่างกระจกบานสูงใหญ่ แสงแดดสีทองลอดไล้เข้ามาสู่บรรยากาศภายใน - - - - - - ขับเน้นความเดียวดายให้ปรากฏชัด
ไร้เงาเธอที่หลังเคาน์เตอร์บริการยืมคืนหนังสือ ไร้รอยแย้มยิ้มทักทาย ไร้การอคอยที่แช่มชื่น ไร้คำเจรจา
พระภิกษุรูปหนึ่งสวดมนต์พิธี แล้วปะพรมน้ำมนต์ไปทั่วห้องสมุดแห่งนั้น เพื่อขจัดข่าวลือเรื่องความอาลัยในการจากลาที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัวของคู่รักคู่นี้ ที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน ในวันที่กลับจากการนำหนังสือไปบริจาคให้โรงเรียนต่างจังหวัด
แม้จะอยู่ร่วมชาติภพ แต่ด้วยแรงบุญกรรมต่างกัน ช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดคือตอนยังมีชีวิต น่าจะทำดีต่อกันไว้ เพราะหลังจากนี้แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าโลกหลังความตายนั้นคืออะไร เป็นอย่างไร
รอให้ถึง..พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว.
22 กุมภาพันธ์ 2548 14:59 น.
pigstation
ทำไมหนอวันนี้ เมื่อพยายามจะตั้งเทียนบนกำแพงโบสถ์ ต้องประสบความยากลำบากเพียงนี้
พอทีเถิดอย่างไรด้วยจิตใจเราที่พร้อม มาสักการะเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันมาฆบูชา เพียงเทียนดับเพราะลมพัดเป่าก็ช่างเถิด
เดือนฉาย ป้อมคำ เด็กหญิงวัยแรกรุ่น พลางเดินออกมาจากประตูโบสถ์หลังจากเสร็จพิธีเวียนเทียน และรับศีลรับพลแล้ว
แสงระรัววูบไหวไปตามแรงลมกระพือ เงาวูบไหวซ้อนซ้ำดูน่าฉงน เงาบางคนยืดโย้ออกจนน่าขัน แต่ที่งามจับใจคือประกายแสงเทียนที่แม้ดูไม่สว่างจ้า แต่เมื่อไปจับทอที่จีวรผ้าไตร กลับดูขรึมขลัง น่าศรัทธายิ่ง
เอหายไปไหน เธอชะเง้อแลหาเจ้าปอนด์ เด็กน้อยวัยซนที่ติดตามมาด้วย เป็นเพราะเป็นชุมชนขนาดกลาง ผู้คนต่างรู้จักมักคุ้นกัน แล้วน้านวลจะไม่ตะเพิดเอาหรือ เล่นพาลูกเค้ามา แล้วปล่อยปละละเลยให้ลูกเขาไปไหนต่อไหนกับใครก็ไม่รู้
ลองดูแถวๆนี้ดูก่อน เดือนฉายเดินสอดส่ายสายตาฝ่าไปยังหมู่คน บ้างก็ต้องส่งยิ้มเป็นพัลวัน ก็ใครนั้นใช่ใครอื่น ละแวกเดียวกันทั้งสิ้น
หรือเจ้าปอนด์จะไปหาลุงอินที่ฟากท้ายเหมือง เห็นมันโปรดปรานนักกับกรงนกเขา นกขุนทองช่าง
จำนรรค์ อีกอย่างก็ไม่ไกลนักจากที่นี่ แล้วเธอก็บ่ายหน้าไปทางนั้น ทันเท่าความคิด
ถนนเล็กๆเลียบไปตามคลองเล็กสายเก่าที่นับวันจะตื้นเขิน และขุ่นคล้ำ ด้วนระบบประปาเข้ามาแจกจ่ายสายน้ำสะดวกดาย เพียงแค่หมุนก๊อก ก็พรั่งพรูออกมาให้ได้ใช้ ไม่ต้องไปหาบน้ำเช่นยามก่อนเก่า
เมื่อความเจริญเข้ามา ความเป็นส่วนตัวก็มีมากขึ้น ต่างคนต่างอยู่ในชายคาของตัวเอง บัดนี้ธรรมเนียมแกงไก่แลกต้มยำปลาหดหายไปหมดแล้ว ต่างคนต่างอยู่
สายน้ำลำคลองของส่วนรวมถูกทิ้งร้าง จนลืมไปว่าครั้งหนึ่งที่ตลิ่งคือสวนสนุกของเด็กทะโมน คือแหล่งพูดคุยของกลุ่มแม่บ้านยามซักล้าง
..ลุงอิน ลุงอิน เดือนฉายร้องเรียกพอได้ยิน มีเสียงขยับเคลื่อนไหวออกมา
ใครวะ เสียงอ้อแอ้ดวงตาแดงกร่ำฉ่ำดีกรีของแกมองเขม็งมายังสาวน้อยจนเธอหลบตาวูบรู้สึกถึงความร้อนแรงบางอย่าง จนต้องสะกดใจไว้แทบไม่อยู่
เมื่อบอกกล่าวเล่าขาน ลุงอินก็ฉวยเอาเสื้อเก่าคร่ำคร่ามาสวม พร้อมเหน็บพร้าขัดหลังตามเคย ออกตัวช่วยตามหาไอ้ปอนด์ เด็กตัวดีที่ไม่รู้ไปหลงเพลินที่ไหน
เรืองนวลของแสงจันทร์เต็มดวงที่ทอฟ้า อาบจับให้ทุกสิ่งดูเป็นเงาสีเงินเย็นตา ลมยังคงโบกพัดอย่างเหมือนไม่รู้ว่าใจที่ไม่นิ่งของคนร้อนรนในจุดหมายจะยิ่งกระพือไปเท่านั้น
ผ่านไปสองฟากข้าง หญ้าเริ่มชูตัวขึ้นสูง ผ่านจากตรงนี้ ก็เป็นคุ้มหนึ่งที่ไม่แน่จะเจอเจ้าปอนด์ที่ชอบมานั่งดูเด็กวัยรุ่นที่นั่งกดเกมส์อย่างลืมวันลืมคืนลืมหน้าที่
ความจริงแล้วเจ้าปอนด์มันมานอนหลับสนิทอย่างไม่รู้สะดุ้งที่บ้านแม่นวลอย่างไม่สนใจไยดีต่อความกังวลของเดือนฉาย
ถ้าเอามือถือมาด้วยก็ดีสิลุงจะได้โทรถามคนนั้น คนนี้ได้
จริงด้วย เสียงของลุงอินดูแฝงท่าทีอะไรไว้
เงามืดตรงโค้งนั้นเหมือนมีอะไรรออยู่ แต่ด้วยความเป็นห่วง เดือนฉายลืมนึกถึงอะไรอื่นทั้งสิ้น รถมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้ในวัด ก็ละลืมเสีย ด้วยคิดว่าใกล้กันแค่นี้ไม่ต้องใช้รถราให้เกะกะ ไม่คล่องตัว
มีการจู่โจมอย่างไม่รู้ตัว โผใส่ร่างเธอจนล้มลง ตามมาด้วยวงแขนหื่นกระหาย เสื้อผ้าเธอถูกกระชากออกอย่างไม่แยแส สติเธอวูบดับลง เหมือนเทียนน้อยถูกลมแรงรังแกเอา วูบดับมืดลงไป
ตะวันฉายขึ้นมาเมื่อเช้าใหม่ ผู้คนยังไม่เอะใจ จนกระทั่งหลวงน้ามาเห็นรถมอเตอร์ไซค์เบาะชื้นน้ำค้าง ตรงตะกร้าหน้ามีมือถือวางอยู่บนหนังสือเรียนอาชีวะ
ถึงเวลานี้ทุกคนต่างเคลื่อนไหว.
น้ำค้างพรมร่างน้อยๆให้กระตุกขึ้น ร่างสั่นระริก เดือนฉายเบิกตาโพลง ก่อนทำนบน้ำตาจะไหลมาไม่ทันตั้งตา
เรือนร่างขาวบางเดินเข้ามาพร้อมโอบเธอไว้
ปลอดภัยแล้วหนู..ทำใจดีๆไว้
สักพักเรื่องเริ่มปะติดปะต่อ นายตำรวจเข้ามาสอบปากคำ เพื่อตามหาคนร้าย
เป็นไงแขนแทบหัก หัวแทบระเบิด เสียงระโหยโรยแรงจากลุงอิน จากสภาพพันหัวขาวโพลนมีเลือดซึม แล้วคล้องแขนไว้ด้วยผ้ายืดอิลาสติกแก้เคล็ด
น้ำตาเอ่อล้นมา เดือนฉาย เธอรอดพ้นจากทุรชนที่เห็นว่า ลำพังลุงอินแก่ๆจะมีน้ำยาอะไร แต่ลุงแกก็สวมหัวใจสิงห์ ยืนหยัดสู้จนกลุ่มวายร้ายที่เมายาบ้ากระเจิงไป ดีที่พวกมันมามือเปล่า จึงเสียทีมีดพร้าลุงอินที่ฉวัดเฉวียนฟาดคมเข้าสู่ใส่
..พี่เดือน..กินติมเป่า.. เสียงเดียงสาของอ้ายหนูปอนด์ต้นเรื่องยังกังวานก้องที่ข้างเตียงผู้ป่วย ทั้งที่เรื่องร้ายนั้นผ่านพ้นไปอย่างเฉียดฉิว แทบจะสังเวยตัวเองให้ความเขลาโฉด
หรือจะเป็นผลบุญทันตาเห็นที่เธอเพียรพัฒนาจิตใจในร่มพุทธธรรมอยู่เป็นนิจ จึงดลบันดาลให้เธอ มีกัลยาณมิตรอยู่ช่วยเหลือทั้งยามคับขัน และยามสุขสม.
อาการดีขึ้นแล้ว เดือนฉาย ป้อมคำ อธิษฐานจิตจะไปปวารณาตัว อุทิศบุญกุศลให้อภัยทานอโหสิกรรมพวกเดนคนนั้น จะทุเลาบาปกรรมลงบ้าง
สาธุ..
เธอเปล่งเสียงในใจเบาๆแต่อิ่มเอมในใจมี่เย็ยสงบลง แล้วหลับตายิ้มน้อยๆ แผ่เมตตา.