1 กรกฎาคม 2548 19:55 น.
pigstation
ฉันยังคงรอคอยเธออยู่เสมอ ตรงที่เส้นทางสายเดิม ตรงที่เรียงรายไปด้วยกลีบดอกไม้ที่กลายเป็นผืนพรม ตรงที่สายลมโลมไล้ให้หมู่แมกไม้ได้ผงกตัวเบาๆ ส่งเสียงแกรกกรากกลบความเงียบเหงา ในเช้าหนาวหมอกจัดวันนั้นลงคลี่คลุมบรรยากาศ
เธอจะค่อยเดินใกล้เข้ามาพร้อมปิ่นโตขนาดสองชั้นที่มีลวดลายดอกไม้แต่งแต้ม รอยยิ้มเธอจะนำพาความสว่างสวย แล้วดวงแดดก็จะค่อยส่งผ่านรัศมีเล็ดลอดพุ่มไม้ลงมาแตะยังเบื้องล่าง เป็นลำแสงฟุ้งเป็นสีเหลืองทองเจิดจ้า
แล้วเราก็พูดคุยหยอกล้อกันไปจนกระทั่งถึงยังโรงเรียนเล็กๆที่ชนบทแห่งนั้น
ฉันยังจำภาพนั้นเสมอมาแม้วันนี้ ฉันจะนั่งอยู่บนชั้นที่ 23 ของตึกบริษัท แต่จิตใจนั้น มักล่องลอยไปยังสถานที่ เส้นทาง ร่มไม้ แววตา เดิมที่คุ้นเคยแสนอบอุ่น
หน้าจอคอมพ์กำลังแสดงผล ฉันเพียงแต่กรอกข้อมูลเข้าไป เพื่อให้มันประมวลผล หลังจากนั้นฉันก็ทำการวิเคราะห์ พร้อมบันทึกไว้ ก่อนถึงสิ้นเดือน เพื่อที่จะส่งรายงานไปยังฝ่ายประเมินผลต่อไป
จากนั้นเงินเดือนก็ไหลมาตามเส้นใยไฟเบอร์ออฟติคให้ฉันไปรูดออกมาจากตู้เอทีเอ็ม - - แต่ฉันไม่อาจซื้อวันเวลาแห่งความทรงจำคืนมาได้ นอกจากเฝ้าฝันถึงเงียบๆคนเดียว
ปอยฝนโปรยลงมาระยอดตึก ผู้คนต่างวิ่งจ้าละหวั่น บ้างพกร่มมาก็กางกั้นป้องกันความเปียกจากน้ำใสจากใจฟ้า ซึ่งใจกลางเมืองอย่างไม่สบอารมณ์
ต่างจากวันเก่าๆนั้น เมื่อฝนเริ่มตั้งเค้า ฉันจะเตรียมเปิดฝาโอ่ง เตรียมกระแป๋ง เพื่อรองน้ำ ส่วนเธอก็คงจะสาละวนอยู่กับการเก็บเสื้อผ้าที่ตากไว้ เก็บข้าวเปลือกที่ผึ่งไว้กลางลานนอกชาน
เมื่อฝนหว่านเม็ดลงมา ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน รู้ดีว่านั้นคือน้ำทิพย์อันฟื้นชีวิตเรือกสวนไร่นา ทว่าเขตเมืองนั้นต่างแช่งบ่นถึงสภาวการณ์สายฝนว่า เปียกแฉะ เลอะเทอะ เจิ่งนอง สำคัญที่รถติด
( ต่อให้ฟ้าแจ้งแดดเปรี้ยงรถราในเมืองกรุงก็ยังติดอยู่ดี )
เมื่อเสร็จภาระจากหน้าที่เล็กๆน้อยๆที่ทำได้ตามประสาเด็กอย่างเรา ฉันมีความสุขที่ได้วิ่งไล่จับเม็ดฝน ส่วนเธอนั้นมักทำท่าสะท้านกลัวยามฟ้าแลบ หรือ ฟ้าร้องครืนๆลั่นทุ่ง
บางทีหลังฝนหมาดๆ ละอองไอฝนยังคงติดใจที่จะพริ้วพรายท่ามกลางไอแดดทอแสง นาทีนั้นเจ้ารุ้งตัวโค้งเจ็ดสีจะอวดตัว
เธอบอกฉันอย่างเสียงเข้มว่าอย่าเผลอไปชี้รุ้งมันนะ ประเดี๋ยวนิ้วจะด้วน ตอนนั้นเธอห่วงฉันจริงๆ หรือเพราะอะไรก็ไม่รู้
ฉันอยากให้เธอมายืนอยู่ตรงนี้ แล้วบอกประโยคนั้นอีกที
ภายใต้อาคารนั้น มีร้านกาแฟขนาดเล็ก และผู้คนพากันเข้าไปหลบฝนอยู่พอสมควร ฉันปรี่เข้าไป มีหยดน้ำนิดหน่อยเกาะเนื้อตัว เสื้อผ้า พอหมาดชื้นไม่ถึงเปียกโชก ที่นั่งดูแน่นขนัด
รอยยิ้มแปลกตาส่งมาจากมุมโต๊ะนั้น ดวงหน้างามประพิมประพรายสะกิดเอาความทรงจำลอยตัวขึ้นมา เธอผู้นั้นพยักหน้าเป็นทีเชื้อเชิญ เนื่องจากโต๊ะอื่นล้วนเต็มไปด้วยสมาชิกครบถ้วนทุกเก้าอี้ที่มี
ฉันเอ่ยขอบคุณ หลังจากนั่ง กาแฟหอมกรุ่นอุ่นไอวางตั้งระหว่างเราทั้งสอง ความเก้อเขินยังพอมี ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร
คงต้องรายงานชื่อ-สกุล-หน้าที่การงาน ตามธรรมเนียม แต่ด้วยความเคอะเขิน ฉันเพียงแต่ถามเชยๆไปว่าเธอมารอแฟนหรือ เล่นเอาเธอยิ้มหัวอย่างเป็นกันเอง พร้อมแนะนำว่าไม่มีใครถามกันซึ่งๆหน้าอย่างนี้หรอก ถึงถามก็เป็นความลับส่วนตัวอยู่ดี และถึงจะตอบก็ยังเป็นความจริงหรือเรื่องโกหกก็ไม่รู้ แต่ยังดีที่เธอวางหนังสือบางเล่มไว้ตรงหน้า จึงพอเบี่ยงเบนไปเรื่องอื่นได้
เรื่องทำนองนี้คงเป็นเรื่องบังเอิญในเมืองใหญ่ บทจะโรแมนติกขึ้นมา ความอึกทึก สับสน วุ่นวายของเมืองหลวงก็มีเรื่องหวานหวามไหวเกิดขึ้นมาได้บ่อยครั้งจากความเปลี่ยวเหงาที่รุมล้อม
ความจริงหนังสือเล่มนั้นเป็นอัลบั้มภาพถ่ายจากฝีมือเธอ ดูเหมือนเป็นความชอบส่วนตัวที่เธอรู้สึกดีเสมอที่ได้บันทึกภาพ และจะชอบใจยิ่งขึ้น ถ้ามีใครได้ดูชมฝีมือ
ส่วนฉันเป็นแค่ผู้มืดบอดทางศิลปะสิ้นเชิงบอกตามตรงว่างงๆกับภาพถ่ายของเธอไม่เห็นมีตะวันตกน้ำ หรือ ดอกไม้สวยงามเลย มีแต่ภาพอะไรพิลึกๆ แต่ฉันก็เสไปว่า ดูแปลกดี ส่วนเธอก็ยิ้มแล้วบอกว่าไม่ต้องเกรงใจหรอก ส่วนใหญ่เพื่อนสนิทเธอก็บอกยิ่งกว่านี้
เธอบอกว่าบางทีคนเรามุ่งแต่จะไปยังที่หมายเดียวกัน จนแย่งชิง เบียดบังกันโดยไม่ตั้งใจหรือไม่รู้ตัวฉันฟังดูก็เห็นว่า การที่เราจะดื้อรั้นมุ่งมั่นไปสู่สิ่งที่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร มันไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอ
เธอบอกว่า แล้วกาแฟที่ดื่มอยู่ กินเหล้าสูบบุหรี่ไม่เสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคมะเร็งหรือไง ฉันเงียบแล้วยิ้มนิดๆ ไม่แย้งอะไร ส่วนเธอก็ก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรขยุกขยิกลงในสมุดบันทึกอีกเล่ม
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ในร้านกำลังใช้มือถือกันทั้งร้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งพนักงานที่ว่างอยู่ หลังจากเสิร์ฟเครื่องดื่มถ้วนทั่วแล้ว ทำไมไม่สนใจคุยกับคนที่อยู่ตรงหน้าใกล้ๆแค่คืบหนอ
ฝนทำทีจะซาเม็ดลง แต่เหมือนกลั่นแกล้งกลับกลายเป็นเทซู่ลงมาราวกับฟ้ารั่ว เหมือนคนจะถูก
จองจำกลางคุกสายฝนกันโดยปริยาย
นาทีต่อนาทีจนกระทั่งฝนยอมถอยฉาก จากนั้นความเคลื่อนไหวจึงเริ่มต้นอีกครั้ง แล้วเราก็ร่ำลากันไม่มีการไถ่ถามถึงเบอร์โทรศัพท์กัน เพื่อเอาไปทิ้งขว้างภายหลัง
ไม่มีความทรงจำใดหลงเหลือไว้ มีแต่เพียงถ้วยกาแฟสองถ้วยบนโต๊ะตัวหนึ่งที่นำพาให้คนแปลกหน้าโคจรมาพบกันโดยสถานการณ์จำเป็น แล้วก็เลือนหายไปเช่นหมอกควัน
ฉันพลันรำลึกถึงเธอผู้ยังคงอยู่ที่เดิมเสมอมา ยังเป็นหญิงสาวของท้องทุ่งเช่นเดิม เปลี่ยนแต่เพียงเครื่องแบบที่สวมใส่หลังจากสำเร็จการศึกษา
หน้าที่การงานของเธอคือเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน ประจำอยู่สถานีอนามัยตำบลหนองเจริญ
ชุมชนได้รับการบริการด้านสุขภาพจากเธอ และหัวหน้าซึ่งเป็นคนต่างอำเภอเป็นอย่างดี เป็นความใกล้ชิด ผูกพัน ในนามความเป็นชนบทเปี่ยมน้ำใจ
ทุกเวลาที่ไปรษณีย์ผ่านมาส่งจดหมายนั้น ทุกครั้งมักจะมีไปรษณียบัตรจากเขาคนนั้น คนที่เคยยืนดักรอเธอตรงโค้งทางเดิน ใต้ร่มดอกหางนกยูง ก่อนเดินไปโรงเรียนพร้อมกันเกือบทุกเช้า
แม้จะเป็นกระดาษขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าฝ่ามือกลับบรรจุถ้อยคำ บรรจุความคิดถึง ส่งผ่านถ่ายทอดความหมายจากใครบางคนที่คุ้นเคย
ใบน้อยของกระดาษใบหนึ่งคือกำลังใจ ไม่จำเป็นต้องอาศัยข้อความ SMS ให้เปลืองสตุ้งสตางค์แล้วก็เลือนหายไปในอากาศ เป็นความทันสมัยอันแสนว่างเปล่า
เธอไม่เคยบ่นถึงความเหนื่อยล้าต่องานการอันต้องขลุกอยู่กับความไม่รู้ ความเจ็บไข้ได้ป่วย แต่ละครั้งของการดูแลรักษา เธอใช้ความอ่อนโยนและห่วงใยให้ผู้มารับบริการเสมอ จึงเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านซึ่งก็เป็นดังเครือญาตินั่นเอง
เสียงรถมอเตอร์ไซค์คุ้นหูส่งเสียงมา เป็นน้าไปรษณีย์นั่นเอง เป็นไปรษณียบัตรจากคนเดิม
เธอพลิกด้านหลังทันทีด้วยความลิงโลดใจ
22 ธค. 47
ส้มโอจ๋า
ปลายปีนี้บริษัทให้ไปเก็บข้อมูลงานที่ภูเก็ต กรุณานำส่ง
อาจเลยไปเที่ยวเกาะพีพี (ฉลองคริสต์มาส คุณจารุวรรณ หมั่นธัญกิจ
บนเกาะกลางทะเล แจ่มไหม ) อิจฉาล่ะสิ สถานีอนามัยหนองเจริญ
ปีใหม่เจอกันนะ ต.หนองเจริญ อ.สว่างอารมณ์
ไม่คิดถึงหรอก (ว่ะ) จ.อุทัยธานี
เอก 61140
จากวันเวลาเคลื่อนผ่านเธอรู้ดีว่าเรานั้นต่างห่างไกลกันด้วยภาระหน้าที่ มีเพียงหัวใจเท่านั้นที่จะเคียงใกล้กัน
แต่บางครั้งโชคชะตานั้นชอบเล่นตลกกับเรา
เช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เธอได้แต่เพียงภาวนาทั้งน้ำตา อธิษฐานขอให้เขาอย่าเป็นอะไรเลย หรือเพียงแค่พบเจอกันอีกไม่ว่าจะในสภาพใดก็ตามแต่ ขอเถิดฟ้าดิน ทะเล
ที่ตรงนั้นเธอจะเดินมาพร้อมหิ้วปิ่นโตสองชั้นลายดอกไม้รอคอยเขาอยู่เสมอไปในความทรงจำ
เธอยังคอยอยู่ใช่ไหม แล้วฉันจะกลับไปหา...........
1 กรกฎาคม 2548 01:26 น.
pigstation
คนเรามักเกรงกลัวเรื่องเลือดตกยางออกเป็นธรรมดา ซึ่งต่างคนก็หลีกเลี่ยงไม่พ้น ไม่ว่าจะมี
บุญญาธิการปานใด โอกาสพลาดพลั้งย่อมมาเยือนได้ ไม่เว้น
อันว่าการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นของคู่กันกับการอยู่ดีมีสุข ( แจ้งมีสุข ) ถ้างั้นมีวิธีใดบ้างพอจะชะลอให้ชีวิตไม่ต้องลำบากนัก ลำพังส่งดอกเบี้ย ดอกแชร์ก็ย่ำแย่อยู่เอาการ
สุขภาพดีเยี่ยม นี่คือสิ่งสำคัญที่เราอยากอยู่ด้วยกัน จริงๆ
โดยวิวัฒนาการแล้ว โรคภัยไข้เจ็บ ไม่ใช่สิ่งตายตัว ไม่ว่าคนเราจะทุ่มเทพัฒนาผลิตหยูกยา สารเคมี เวชภัณฑ์ ต่างๆนาๆ มาเข่นฆ่าเชื้อโรค ก็ยังมิวายที่ต้องเผชิญหน้าความร้ายกาจที่ฆ่าไม่มีวันตาย อย่างเชื้อโรคหัวแข็งได้อย่างสิ้นเชิง
วิธีการที่ดีที่สุดในการต่อกรกับโรคร้ายคือการดูแลร่างกายให้แข็งแรง จะได้มีภูมิต้านทานโรคที่เข้มแข็ง ไม่ล้มป่วยได้ง่าย ไม่เจ็บออดๆแอดๆ
มาถึงช่วงนี้ข่าวจากสื่อมอมมวลชนได้บอกว่า.
โรคไข้เลือดออก กำลังแพร่เชื้ออยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงในหลายพื้นที่
ซึ่งอาการของไข้เลือดออกนั้น ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น รักษาได้ยากขึ้น
ต้องพลิกแพลงสมองของแพทย์อย่างสุดความสามารถ สาเหตุน่าจะมา
จาก การปรับตัวของเชื้อโรคสายพันธุ์ไข้เลือดออกที่สามารถเอาชนะ
ยาฆ่าเชื้อเดิมๆได้ ดังนั้นจึงต้องขอให้ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ
ในการกำจัดยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะแพร่เชื้อให้สิ้นซาก
เมื่อเป็นดังนี้ เราจำเป็นต้องมาศึกษาเรื่องไข้เลือดออกว่ามีกี่กลุ่มอาการ เผื่อว่าจะได้เป็นความรู้ประดับตัว เอาไว้ไป mouth กระจาย ขยายเรื่องราวดีๆเป็นวิทยาทานให้ชาวบ้านได้รู้เรื่องรู้ราวในการ ป้องกันภัยใกล้ตัว
ประเภทของไข้เลือดออกมีดังนี้
1. ไข้เลือดออกตามไรฟัน มีอาการเลือดออกตามไรฟัน จนลุกลามไปถึงเลือดกลบ
ปาก หากทิ้งไว้อาจมีอาการเจ็บปวดไปจนถึงครึ่งปากครึ่งจมูก มักพบในเวทีมวยลุมพินี และวงเหล้าที่เสี่ยงต่อการถูกหมัดสัมผัสเข้าให้บริเวณกระโดงคาง วิธีการหลีกเลี่ยงจากไข้เลือดออกตามไรฟัน คือ ควรสงบปากสงบคำเวลาพูดคุยพาดพิงถึงเรื่อง การเมือง ในวงเหล้า
2. ไข้เลือดออกตามระดู อาจเป็นเรื่องเฉพาะตัวของสุภาพสตรีวัยเจริญพันธุ์ หากมา
เป็นปกตินั้นถือว่าแคล้วคลาดต่อการเลื่อนตำแหน่งจากสาวโสดเป็นคุณแม่ลูกอ่อน ดังนั้นสุภาพสตรีจึงให้ความสำคัญต่อไข้เลือดออกตามระดูเป็นอันมาก พึงใช้ยาสตรีเพ็ญภาคตราพญานาค , ยาน้ำสตรีเบนโล เป็นโอสถช่วยให้มาเป็นปกติ จะเป็นที่โล่งอกต่ออาการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ เป็นปัญหาใหญ่โตต่อไป
3. ไข้เลือดออกตามรูกระสุน เป็นโรคภัยร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากประมาทและใช้
พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้เลือดออกตามรูกระสุน ด้วยการ เล่นพนันบอลมือเติบ ขยันตีท้ายครัวชาวบ้าน ขัดผลประโยชน์ พ่ายแพ้ต่อชะตาชีวิตอย่างแรง ล้วนเป็นความเสี่ยงอย่างสูงในการล้มตายเพราะสาเหตุดังกล่าวนี้ แพทย์มักบอกปัดการรักษาเยียวยา โดยผลักภาระให้ สัปเหร่อ รับหน้าที่ไป
4. ไข้เลือดออกบริเวณใบหน้า ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มลงทุนด้านการเงิน เช่นบริษัท-
ไฟแนนซ์ หรือ เจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ อาการเด่นชัดคือจะพบเลือดมาคั่งบริเวณใบหน้า หรือเรียกสั้นๆเป็นอัน
เข้าใจว่า หน้าเลือด นั่นเอง การป้องกันที่ดีที่สุดของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคไข้เลือดออกบริเวณใบหน้าคือ การประหยัด มัธยัสถ์ หรือ ออกบวชธุดงค์ จะพบทางสายกลางสู่การกินดี อยู่ดี โดยไม่ต้องหวาดผวาต่อการ
จู่โจมของดอกเบี้ยที่ชอบทบดอกทบต้น จนส่งผลต่อความหนาแน่นของเม็ดเงินในกระเป๋าให้ร่อยหรอ เสี่ยงต่อการสูญเสียข้าวของ เครื่องใช้ จนถึงยวดยานพาหนะ ที่ใช้เป็นของค้ำประกัน
5. ไข้เลือดออกจากกระดองปู เป็นกลุ่มอาการของโรคที่กำลังแพร่ระบาดไปทุก
หย่อมย่านบ้านเมือง เพราะว่าลำพังปูก็ไม่มีเลือดเท่าไรนัก นอกจากความอร่อยลิ้นเวลาผัดกับผงกระหรี่
ดังนั้นโรคไข้เลือดออกจากกระดองปูนั้น มีสาเหตุมาจาก โรคไข้เลือดออกบริเวณใบหน้า เป็นสำคัญ ซึ่งปูที่ว่าคือ ประชาชนทั่วไปที่หาเช้ากินค่ำ มีเงินใช้เดือนชนเดือน มีรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง เป็นประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยของเรา ตกเป็นเหยื่อในระบบการค้าเสรีที่บูชานายทุนเป็นเทพเจ้า ดังนั้นอาการเลือดน้อยทรัพย์จางจึงระบาดในกลุ่มประชากรทั่วไป
ขณะนี้รัฐบาลกำลังหาวิธีการแก้ไขอยู่ ดังนั้นผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกจากกระดองปูคงต้องก้มหน้ารับกรรม และพยายามเปิดฝาชาเขียวชิงเงินล้าน ส่งฝาเบียร์ชิงทองคำ 10 บาท หรือ อุดหนุนสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อเป็นวัคซีนความหวังหล่อเลี้ยงให้ลมหายใจที่พะงาบๆได้กระเตื้องขึ้นมาบ้าง
เป็นอันว่าเรื่องไข้เลือดออกก็กระจ่างแจ้งขึ้นมาไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับท่านเองจะปฏิบัติตัวอย่างไร ไม่ให้เพลี่ยงพล้ำต่อไข้เลือดออก โดยเฉพาะลูกเด็กเล็กแดง ต้องระวังให้จงดี
เมื่อเรารับทราบถึงข้อมูลข่าวสารแล้ว อย่าเก็บไว้เป็นของหมักของดอง อย่าง หอย อย่างปลาร้า เพราะจะทำให้เกิดการหมักหมมของข้อมูลข่าวสาร สิ้นประโยชน์
จึงใคร่ขอฝากไว้ว่า เรื่องราวต่างๆมากมายที่ล้อมรอบเราในยุคข้อมูลข่าวสารท่วมท้นอย่างนี้ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของท่านในการกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารว่า จะจัดการอย่างไร
เรื่องราวไข้เลือดออกที่นำมาบอกกล่าวในครั้งนี้ เป็นการเรียบเรียงขึ้นมาจากพิษไข้ กรุณาอย่านำไปใช้ประกอบการนำเสนอทางวิชาการเป็นอันขาด
ด้วยความปรารถนาดี จากเราชาวคณะ( ขำ ขำ ละลายความเครียด )
เขียนโดย หมูการ์ตูน
19 มิถุนายน 2548 01:23 น.
pigstation
เด็กจำนวน 55 คนต่อห้องเรียน
แต่ละชั้นเรียน 9 ห้อง
จ่ายค่าเรียนพิเศษคนละ 300 ต่อเดือน
นับเงินจนมือหงิกกันเลย
ส่วนเด็กก็วิ่งชนกันเป็นหนอนหน้าแล้งแย่งสารอาหาร
ฉันจึงค่อยรู้ตัวว่า
ปณิธานที่คิดกำลังสวนทางทำมาหารับประทาน
สงสารตัวเองมากที่เห็นเด็กถูกป้อนโปรแกรม
การประกวดวาดรูปคือการที่ครูวาดเป็นแบบแล้วให้เด็กมาใกซ้อมตามหัวข้อ
ถึวจะรู้ว่า มีเด็กไทย 9 ขวบไปคว้ารางวัลที่ 1 ที่เอ็กโปญี่ปุ่น
ที่โตโยต้าพาวิลเลี่ยน
แต่ต้องไม่ใช่เด็กตามโรงเรียนตามหัวเมืองอย่างนี้
เด็กที่วาดรูปอย่างนั้น ภาพของแกจากจินตนาการแกเองแท้ๆฉันดูออก ฉันเก่งพอ แต่ภาพที่ครูแทบจะจับมือเด็กวาดประกวดแล้วมาภูมิใจในเหรียญรางวัล ส่วนเด็กก็ได้กะตังค์
มันสวนทางกัน
ฉันเป็นครูนะไม่ใช่ผู้ประกอบการ
แม้จะรู้ดีว่าเด็กแต่ละคนชอบใจที่เจอครูวาดเขียน
ที่ชักชวนให้พวกเขาวาดเซเว่น-อิเลฟเว่นสาขาหน้าบ้านตัวเอง
(ยังมีเด็กบางคนมาต่อรองจะวาดร้านขายผลไม้)
หรือการวาดยุงลายดอกไม้ ลายดวงดาว สารพัดลาย
10 วันกว่าสาหัสในความรู้สึกของการผลิตแบบจักรกล
ได้แต่ปลอบใจว่า ในเมื่อสังคมเป็นอย่างนี้
เราก็ควรยอมรับ
และผละออกมาเสียก่อนจะถูกกลืนกินอีกครั้ง
เลยตัดสินใจสมัครเป็นยาม
ที่บริษัทสยามคอร์ปเรชั่น
คอยดูความไม่ชอบมาพากล
คอยตรวจตราความไม่เข้าท่า
แต่พร้อมจะเปิดประตูให้อะไรที่เป็นสากลเข้ามายังสยามคอร์ปเรชั่นได้
ครับ ผมเป็นยามรักษาการณ์บริษัทสยามคอปเรชั่น
ที่สงสารเปรียบมากเพราะใครๆก็จ้องจะเอาเปรียบกันทั้งนั้น
ช่วยกันเก็บเปรียบให้ประเทศหน่อยสิครับ
ช่วยกันเก็บเปรียบให้พ้นนักการเมืองบางคนด้วยรับพี่น้อง
17 มิถุนายน 2548 03:14 น.
pigstation
เขาเท้าคางเพ่งมองความคิดตัวเองที่กำลังไหลวนอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าตัวเอง เป็นระลอกคลื่นสีสันพร่าพราย แปลกตรงที่อาการกระฉอกของกระแสความคิดนั้น ไม่ได้ทำให้ชายกางเกงเขาเปียกซ่าน
ใครจะมองเห็นความคิดของตัวเองได้บ้าง มันไม่ต่างจากของเหลวในสภาพไหลวนรอบตัวเรา ต่างสีสันกันตามแต่สภาวะ หรืออารมณ์ภายในแห่งเราเป็นที่ตั้ง
เสียแต่ว่าเขาไม่ได้จัดอยู่ในประเภทของบุคคลผู้เปี่ยมความสามารถในการเพ่งมองความคิดทั้งตัวเอง และคนรอบข้างได้
แต่ยังดี เขายังมองเห็นความคิดส่วนตัวได้ ซึ่งบางคนนั้นไม่มีแม้โอกาสใด จะมองเห็นได้เลยแม้หยดหนึ่ง กระทั่งอณูโมเลกุลความคิดตัวเอง นอกจากเฝ้ากำหราบให้ความคิดที่มีอยู่จริงเป็นไปตามการชักนำของความคิดอันเชี่ยวกรากกว่า โหมพัดไหลวนอยู่ทั่วทุกหย่อมย่าน
ดังนั้นการนำเสนอความคิดของบุคคลบอดใบ้ไร้สัมผัสต่อความคิดตัวเอง มักหยิบยกเอาวัตถุมากำบังตัว เพื่อเสนอนำไปสู่การเป็นตัวแทนความคิดออกมาให้ใครต่อใครพบเห็น
วัตถุมากมายกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นมา ตามแต่เสียงเรียกร้องจากฝูงชน
โลกใบเก่าอาจผุกร่อนลงไปทางกายภาพ หากแต่ปัญญาฌาณกลับแผ่ขยายออกไปสัมผัสแตะกับวงความคิดอันเริ่มกระจ่างขึ้น
เขาอิ่มเอิบขึ้นมาทีละน้อย ยิ้มให้ดวงใจตัวเองทีละนิด
กระเป๋าเขากำลังแฟบลงทีละนิด
สวนทางกับผู้ไร้โอกาสแลเห็นการกระเพื่อมไหวทางความคิดกำลังกอบโกยเงินตราเข้าไปเป็นโภคทรัพย์
เพื่อเพิ่มเติมวัตถุรอบตัวในนามความมั่นคง
การจับจ่ายล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์รอบข้าง
แล้ววันหนึ่งเขาก็ถูกอุทกภัยทางความคิดท่วมท้นกลืนร่างเลือนหายไป
23 พฤษภาคม 2548 15:38 น.
pigstation
เริ่มการทำงานด้วยความรู้สึกเดียวดาย วางตัวบนความเฉยเมย มีความรู้สึกปั่นป่วนกระเพื่อมไหสตรงริมขอบตา เวลาคิดว่ามีเงินเดือนมาวางตั้งตอนต้นเดือน
แล้วยังมีอนาคตมารอท่า
แต่ต้องขยี้ขี้ตาหล่นตุ๋มลงท่อน้ำ ขยี้ยาสีฟันฟองฟอดแต่เช้าตรู่
ไม่มีอาการเอ้ระเหยรอชมน้ำค้างหรือท้าวคางคุยกับดาวตอนตี 3
อีกแล้ว
นาฬิกาปลุกต้องซื้อหามาด่วน
เฮ้อ...ฤดูสันหลังยาวก็หมดสิ้น
เริ่มต้นฤดูสันหวะตามเคย
....ไม่นานนักคงหมุนวนมาตามเดิม
ตอนนั้นคงไปตั้งรกรากเล่นๆเย็นใจที่เชียงใหม่แน่
คราวนี้ขออยู่ตรงเมืองสองแคว ดูแลจินตนาการหนูน้อย
ด้วยความเป็นครู แนว GTO