18 ตุลาคม 2549 20:33 น.
pigstation
ที่สระว่ายน้ำของโรงแรมชั้นนำแห่งหนึ่งใน
เมืองหัวหินเธอเห็นเรือนร่างที่หุ้มห่อด้วยผ้าสีสด
แหวกว่ายในสายน้ำใสสวยนั่นไหม ?
แล้วผิวพรรณที่ผุดผาดและรูปทรงองค์เอว
ที่ทำให้เธอกลืนน้ำลายอย่างหนืดคอนั้นเล่า
ภาพอันพริ้วไหวยังโลดเต้นวิ่งแล่นใน
เปลือกตาของเธออยู่ใช่ไหม ?
เบื้องหลังของสระว่ายน้ำสุดหรูหรานั้น
คือราคาค่าใช้จ่ายที่แพงโข
จะเป็นกระเบื้องชั้นดีจากต่างประเทศ
รวมไปถึงระบบบำบัดน้ำในสระอันไฮเทค
ยังไม่นับคนดูแลอีกนับนิ้วไม่ถ้วนในการทำให้
สระว่ายน้ำนี้ใสสะอาดสวยหมดจด
ไม่มีแม้เส้นขนหยิกหยอยลอยปะปน
ให้ระคายเคืองสายตาผู้มีอันจะรับประทาน
ยามสนานสรง
แล้วเธอจดจำถึงภาพความหลังเก่าแก่สีซีดจาง
บ้างไหม?
ถึงลำห้วย ลำคลอง หรือฝายทดน้ำที่เธอเคยดำผุด มุดว่ายขับไล่ความร้อนแดดและวันว่างของเด็กบ้านไร่ปลาย นาอย่างเธอ
ช่างเป็นความสุขที่แลกมาได้ด้วยสองแรงน่องปั่น จักรยานไปรวมตัวกันริมคลองน้ำหลากสีขุ่นข้น
แล้วบรรดาลิงทะโมนก็กระโจนกันเป็นลูกลิงตกน้ำ
ส่วนของผู้เก่งกาจก็จะตีลังกาท้าทายแรงโน้มถ่วงเป็นที่ตื่นตา ตื่นใจของเด็กเล็กกว่าที่ฝันว่าจะต้องม้วนตัวให้มากรอบกว่านี้ ให้ได้
( ทว่าเบื้องหลังของการม้วนตัวนั้นอาจหมายถึงนับ ไม่ถ้วนของการผิดจังหวะแล้วพุงฟาดผิวน้ำตึงเปรี๊ยะจนแตก
กระจายพร้อมกับความจุกแสบ )
ณ ท่าน้ำคือสถานที่ซักผ้าและกระโจมอกของบาง สาวบางนางที่ปรากฏผิวเนื้อนวลเนียนลอดร่มผ้าถุงออกมา
พาให้หัวใจหนุ่มแตกพานบางคนนั้นสั่นประหม่า
กับภาพนั้นของเธอผู้นั้นที่เล่นกระพุ่มน้ำแล้วพองตัวลอยตัว เล่นน้ำคลองนั้น ดูช่างน่ารักและน่าเอ็นดูล้ำ
แล้วเธอจะลืมภาพความทรงจำของลำคลองหรือ
ภาพของสระว่ายน้ำนั้น ขึ้นอยู่กับเธอเองแล้วกัน ?
18 ตุลาคม 2549 20:30 น.
pigstation
ศัลยแพทย์หญิงแสงสุรีย์ สุวรรณรัศมียิ้มไปสู่ฟ้าสูง
ตรงที่ดาวดวงหนึ่งกระพริบแสงสวยทักทาย
แม้เธอจะอยู่ถึงเมืองปารีส แต่ความคิดถึงยังข้ามฟ้า
มายังเมืองไทยด้วยสายใยแห่งความรักและผูกพัน
ภาพในใจเธอผุดพรายขึ้นมา...ระยิบระยับในคืนหนึ่ง
ของคนไกลบ้าน
ค่ำคืนหนึ่งแสนยาวไกลในความทรงจำ เป็นคืนหนึ่ง
ที่ไกลจากแสงไฟฟ้าสัญลักษณ์ของความเจริญ
ร่างของหญิงผู้หนึ่งกำลังมุ่งหน้าผ่านกลางไร่ข้าวโพด
ทางสายลูกรังขนาดพอสวนกันได้อย่างเบียดชิดทอดยาว
ไปสู่ปลายทางโดยมีความขรุขระและฝุ่นฟุ้งเป็นเครื่องหมาย
การบรรเทาทุกข์คือหน้าที่ของเธอผู้นี้
นางสาวไขแสง สุวรรณรัศมีคือชื่อของเธอ
แต่ละครั้งที่ถูกตามตัวจากน้ำเสียงทุกข์ร้อนของชาวบ้านที่
เจ็บไข้คือการเสียสละเวลาส่วนตัวออกสู่การรับใช้ชุมชน
แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งในคืนเดือนดับ
หลังจากลมหนาวกรูเกรียวพัดยอดไม้ไหวเอน
น้ำค้างแห่งคืนหนาวก็หว่านตัวทั่วท้องทุ่ง
ริมทางลูกรังสายนั้น รถเครื่องคู่ชีพของเธอเอนล้มลง
ซบข้างไร่อ้อย
...............
เวลาผันผ่าน 9 เดือนอาจแค่พอข้ามปี แต่ถ้อยคำและ สายตาของคนนอกถึงท้องใหญ่โตของพยาบาลโสดที่พลาดท่าให้
ทรชนในคืนเปลี่ยว
ทั้งที่การทุ่มเทของเธอกับกลายเป็นการถูกทอดทิ้งจาก
สาธารณชนบางส่วน
แต่ด้วยความอดทน อดกลั้น เธออุ้มท้องในหน้าที่ของ
ความเป็นแม่ และทำหน้าที่ดูแลรักษาพยาบาลชาวบ้านของความ เป็นหมอบ้านนอก ต่อไป เธอเพียรสร้างทำจนผ่านพ้น
จากแสงตะเกียงวิบวอมริมไร่ปลายนา จากเด็กหญิงของ ท้องทุ่งเติบโตมาด้วยอานิสงค์ของผู้หญิงแกร่งแห่งสถานีอนามัย
ไกลโพ้นชานเมือง
จากถ้อยคำทั้งหลาย ทั้งกำลังใจและซ้ำเติม
จนมาถึงวันแห่งรางวัลชีวิตศัลยแพทย์หญิงแสงสุรีย์ สุวรรณ รัศมีมอบให้นางไขแสง สุวรรณรัศมีผู้เป็นมารดาที่แท้ผู้เดียว
เช่นการให้แสงจากตะเกียงส่องถึงแสงแห่งดวงดาวและ ส่องสว่างสู่ความรักที่แท้จริง
แล้วเมืองไทยก็ได้คนดีคืนกลับมาพัฒนาประเทศในฐานะ
อาจารย์หมอแสงสุรีย์คณะแพทย์ศาสตร์แห่งหนึ่งเพื่อจุดประกายแสง
ให้สังคมไทยสว่างไสวสืบต่อไปขึ้นมาอีกแรงหนึ่ง.
11 ตุลาคม 2549 17:31 น.
pigstation
SPA หัวใจ
เร่เข้ามาหาเรื่องพักเมื่อรักร้าย
แวะเข้ามาได้ผ่อนคลายหัวใจช้ำ
เชิญเข้ามานวดน้ำมันบรรจงดูแล
สปาของคนรักแท้แต่แพ้ทางรักเธอ
สื่อสารสองทาง
เอ่ยมาสักคำ อย่าทำอ้ำอึ้ง
พูดมาสักคำหนึ่ง อย่าเก็บไว้
ตอบมาเถิดอย่าเกรงใจ
รักไม่รัก ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน
ท้องฟ้าส่งสายฝนมาคุยกับผืนดิน
ภูผาหินส่งสายน้ำไหลรินคุยกับทะเล
สายลมฟังเสียงคลื่นทะเลเห่กล่อม
ฉันคงไม่ยอมให้เธอจากไปเงียบเฉย
สื่อสารกันหน่อยได้ไหม
อย่าปล่อยให้ใครต้องคาดเดา
แล้วอับเฉากับความเงียบงัน
ตอบกันได้ไหม รักหรือไม่ ไม่ว่ากัน
ดอกไม้ยังร้องเพลงให้ผีเสื้อฟัง
พระจันทร์ยังกระซิบให้หมู่ดาวกระพริบแสง
แล้วเธอเคยหยอกเย้าไยมากลั่นแกล้ง
เป็นความรุนแรงแห่งความเงียบงัน
9 ตุลาคม 2549 16:13 น.
pigstation
เมล็ดกาแฟถูกประคบประหงบบนพื้นที่เพาะปลูก
ผ่านการให้น้ำให้ปุ๋ยตามวาระเวลาเคร่งครัด
จนผลิผล
เมล็ดถั่วเหลืองถูกปลูกอย่างไม่ไยดีนักกลางทุ่งร้างรก
เติบโตจากน้ำค้างน้ำฝนและปุ๋ยจากขี้ไส้เดือน
จนให้เมล็ด
เธอเดินผ่านโถงทางเข้าสยามพารากอน
สั่งคาปูชิโนกับบริกร
เขาเดินห่อตัวผ่านตลาดสด
สั่งน้ำเต้าหู้
เธอจรดปากดื่มผ่านลิปใหม่จากปารีส
เพื่อนัดพบนักการเมืองตกงานหลัง คปค.
เขากำลังไปช่วยงานบ้านสงเคราะห์คนชรา
สักพักเธอปวดฉิ๊งฉ่อง
เขาก็เช่นกัน
กรวยไตทั้งคู่ปลดปล่อยของเหลวเหลืองใสม้วนตัวลงไปตามท่อน้ำเสียลงสู่
แหล่งน้ำชื่อเจ้าพระยา
และโมเลกุลของปัสสาวะทั้งคู่ก็แลกเปลี่ยนอะตอมไฮโดรเจน ต่อกัน
ในปฏิกิริยารีดั๊กชั่น
ที่สุดกลายเป็นไอน้ำระเหยสู่ฟ้า
ก่อนตกมายังไร่กาแฟ และแปลงถั่วเหลือง
เธอสั่งคา)ชิโน
เขาสั่งน้ำเต้าหู้
ผมและคุณสั่งน้ำขิง
3 มีนาคม 2549 18:09 น.
pigstation
บ้า........น
เขาไปมาคล้ายสายลมเร่ร่อน เป็นเช่นคนพเนจรไม่มีจุดหมาย ทั้งที่เขามีอะไรหลายอย่างมากมายในตัว มากพอจะสร้างฐานะและความร่ำรวยได้ไม่กี่พริบตา กลับไม่ฉันเห็นเพียงแต่เขาวิ่งเล่นไปมาอย่างสุขสมไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ทั้งที่บ้านพ่อแม่เขานั้นไม่ได้รวยล้นฟ้าอะไรนัก
ส่วนฉันมีบ้านอบอุ่น ณ ที่ซึ่งมีสายลมหนาวโชยพัดกว่า 6 เดือนต่อปี ด้วยว่าด้านหลังนั้นมีลำธารสายน้อยลัดผ่านเป็นแหล่งน้ำไว้รดพืชพรรณในสวนสารพัดของพ่อ ชายเกษตรกรผู้กร้านต่อลมแล้ง และโชคชะตา ทว่าละเอียดอ่อนต่อฝาเรือนและฟูกนอน ฉันเคยฟังนิทานกางมุ้งของพ่อจากแสงตะเกียงวอมแวม
ส่วนเขามีแต่นิยายเศร้าพ่อตีแม่อะไรทำนองนั้น แล้วก็ทำตาโศกก่อนหลบมุมไปกับหนังสือหอบใหญ่ที่นำมาจากบ้านไปโยนตัวเองลงเปลแขวนต้นมะขามอย่างลำพังแต่ไม่เดียวดาย ยามนั้นเหมือนจินตนาการกล่อมไกลเขาไว้ ไม่ผิดเขาเป็นผู้ชายฝันทั้งเป็น
จากนั้นความอบอุ่นที่ฉันมีอยู่จากมาตุภูมิไปสู่เหย้าเรือนของตัวเองในนามของครอบครัว ที่สุดแล้วฉันคงเริ่มบทบาทความเป็นพ่อที่มีหน้าที่การงานหนุนหลังจากรัฐ
คล้ายว่าช่างแนบเนียนเหลือเกินกับบทบาทผู้นำครอบครัวที่ได้รับการหล่อหลอมจากบ้านเดิมของฉัน
บางเวลาเขาคนนั้น ผู้ชายบ้านร้างก็จะแวะเวียนมาลงจอดพำนักยังบ้านฉัน นาทีนั้นเขาคล้ายซานตาคลอสตัวเล็กผู้ไม่รู้เวร่ำเวลา นึกจะมาก็มา พาให้เด็กน้อยบ้านฉันสนุกไปกับการละเลงสี
แล้วเขาก็กางปีกบินไปสู่อาณาจักรเดียวดายต่อไป คงยากที่ฉันจะนึกถึงรูปแบบบ้านเขาได้ว่าจะมีหน้าตาอย่างไร
นั่นคือคำว่าบ้านในสายตาของฉันในวันก่อน...ซึ่งวันนี้ใครจะคาดคิดว่าบ้านของฉันต้องแยกส่วน ฉันกลายเป็นส่วนต่างของบ้าน กลายเป็นส่วนเกินของสมาชิกภาพของสถาบันครอบครัวตัวเองอีกต่อไป
เหลือแต่ที่นอนห้องเล็กๆใจกลางเมืองหนึ่งที่วุ่นวายอยู่บ้าง แต่ไม่มากกว่าสิ่งในใจอันไร้ทิศทางว่า..ทำไมชีวิตคู่นั้นถึงง่ายต่อการอับปางและยากต่อการสมดุลไว้นัก
และบ้านฉันในวันนี้คงต้องถามใจตัวเองว่า...ระหว่างการสูญเสียบ้านที่แท้นั้นกลับการไม่เคยมีบ้านที่แท้แต่สามารถแทรกตัวไปได้ในบ้านที่แท้ยามเหมาะสมอย่างเขาในยามที่ทุกๆคนพร้อมรับ กลับคนที่อยู่กับบ้านที่แท้ต้องแบกรับทั้งรักและน้ำตา
ไม่รู้ว่าเขานั้นได้เปรียบเพียงไรที่มีบ้านที่แท้รอคอยอยู่ทั่วสารทิศ ถึงเป็นเพียงชั่วครั้งชั่วคราวที่ก็เป็นการหมุนเวียนความสุขจนต่อเนื่องเป็นวัฏจักร
ส่วนฉันได้แต่หวังว่าบ้านที่แท้หลังต่อไปคงมีโอกาสไม่นานนักที่จะรอคอยเขาคนนั้นวนเวียนกลับมาเยือน
คงถูกต้องเหมาะสมดีสำหรับเขาที่ไม่เคยมีแบบอย่างของบ้านที่แท้ฃ
เขาจึงทนุถนอมบ้านที่แท้รอบตัวเขาไว้อย่างดียิ่งซึ่งเขารู้ดีว่า...หากไม่พร้อมจริงๆเขาคงไม่ปลูกสร้างบ้านที่แท้ หรือเพิกถอนบ้านที่แท้ลงได้ด้วยกิเลสตัณหา และบาปที่ฉันหลงเพริศไปกับมันจนยากที่จะกู่กลับมาได้ ดูๆแล้วฉันคงบ้า.......นะที่ทลายบ้านลงด้วยน้ำมือตัวเอง
ได้แต่ภาวนาถึงเขาว่าคุณค่าแท้ใช่สิ่งที่มี ขึ้นอยู่กับเรารู้ซึ้งถึงมันหรือไม่..และคำตอบนี้ก็ไม่ได้ถามเขา เพียงแต่เขาทำมาทั้งชีวิตให้ดู ผิดที่ฉันเองนั้นละเลยไปเอง...บ้า...........น่าดูเลย คิดๆแล้ว ขอบใจมากเพื่อนเอย.